WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8721 ข่าวสดรายวัน


แก้เผาโรงเรียนใต้ ทบ.สั่งใช้ ทุ่งยางแดงโมเดล

     ติดสัญญาณรีโมตเตือน หมดทุกโรงทั้ง 3 จังหวัด บิ๊กตู่ชี้แผนข่มขู่ให้กลัว ยิงดับ-อดีตผญบ.ยะลา
     ผบช.ศชต.เผยสาเหตุลอบเผาโรงเรียนทั้ง 6 แห่งเป็นการตอบโต้ เจ้าหน้าที่ ด้านกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าปรับแผน 3 มาตรการทางทหารทั้งป้องกัน ป้องปราม และตอบโต้ ผบ.ทบ.ประชุมทางไกลร่วมกับแม่ทัพภาค 4 เลขาธิการศอ.บต.สรุปได้ทุ่งยางแดงโมเดลแก้ปัญหา ติดตั้งระบบแจ้งสัญญาณเตือนภัยแบบรีโมตทุกโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

     เมื่อเวลา 08.45 น.วันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ท. ศุภชัย ยีหวังกอง สวญ.สภ.จะกว๊ะ จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายมะลาเย็ง ยามา อายุ 53 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.จะกว๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 63/3 ม.2 ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตบริเวณ ม.7 บ้านฮูแตบาโงย ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา พบศพนายมะลาเย็ง เสียชีวิตอยู่บริเวณกองไม้ ใกล้กันมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ 6 ปลอก 
      สอบสวนทราบว่า นายมะลาเย็ง มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ก่อนเกิดเหตุขับรถยนต์มิตซูบิชิ ทะเบียน กค 7734 ยะลา มาดูงานก่อสร้างกับเพื่อนอีกคน คนร้ายที่ซุ่มอยู่ในบ้านจึงออกมาใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนนายมะลาเย็งล้มฟุบแต่ก็ชักอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม.ออกมายิงต่อสู้ จากนั้นคนร้ายจึงเข้ามาหยิบอาวุธปืนของผู้ตายหลบหนีไป ระหว่างหลบหนีเจ้าหน้าที่ชรบ.ประสบเห็นเหตุการณ์ จึงใช้อาวุธปืนยิงคนร้ายจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็พาหันหลบหนีเข้าไปในสวนผลไม้ข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังเข้าไล่ล่าคนร้าย แต่ยังไม่พบตัว สาเหตุคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์
       ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุลอบเผาโรงเรียน 6 แห่งที่ จ.ปัตตานีว่า หากประเมินสถานการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้ความรุนแรงของสถานการณ์ลดลง ประชาชนเข้าใจและให้ความร่วมมือมากขึ้น แต่หากหาเหตุผลว่าทำไมจึงเกิดเหตุขึ้น เป็นเพราะผู้ก่อเหตุกลุ่มหนึ่งพยายามสร้างสถานการณ์ เมื่อไประวังด้านหนึ่ง ก็จะหาทางไปก่อเหตุอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลพยายามดูแลอย่างเต็มที่ โดยกระทรวงมหาดไทยดูแลด้วยกลไกมีอยู่ เบื้องต้นนายกฯเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแลให้โรงเรียนที่ได้รับความเสียหายเปิดเรียนได้ตามกำหนด 
      ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะ การะเกตุ ผบช.ศชต. เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุแม่ทัพภาค 4 ก็ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับ เลขาฯศอ.บต. และรองผบช.ศชต. เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสอบพยาน 3 คน ที่ถูกกลุ่มคนร้ายจับมัดเอาไว้ เบื้องต้นโรงเรียนทั้ง 6 แห่งมีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เป็นผู้ดูแลอยู่การสอบพยานเชื่อว่าเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังเกิดเหตุก็ได้ประชุมปรับแผน เรื่องมาตรการดูแล และประสานงานกับฝ่ายทหารในพื้นที่ รวมทั้งฝ่ายปกครอง เพื่อให้งานรปภ.ครู งานดูแลโรงเรียน ที่เป็นภารกิจสำคัญ ให้เกิดความปลอดภัยทั้งครู และโรงเรียน 
      ขณะที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า ผบ.ทบ.สั่งกำชับให้หน่วยในพื้นที่เร่งดำเนินการใน 3 มาตรการ คือ มาตรการทางทหาร ให้ใช้ทั้งการป้องกัน ป้องปราม และตอบโต้ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กล่าวคือ ให้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กำลังฝ่ายพลเรือน และกำลังภาคประชาชน ในการเข้ามาร่วมในการดูแลพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ โดยให้กำลังทหารเข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิด มีการจัดทำประวัติ และพฤติกรรมอย่างละเอียด มีระบบการติดต่อสื่อสาร โดยให้มีศูนย์การสื่อสารในระดับตำบล ที่สามารถกระจายข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว มีการกำหนดวงรอบการรายงานที่ชัดเจน ทั้งนี้จะต้องมีการจัดกำลังเคลื่อนที่เร็ว และชุดซุ่มที่สามารถปฏิบัติและตอบโต้ได้อย่างทันท่วงที ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องมือเฝ้าตรวจทุกชนิด ให้เกิดประสิทธิผล และสามารถป้องปรามการก่อเหตุรุนแรงได้ เช่น กล้องซีซีทีวี และการลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศ 
       ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ที่มีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมว่าได้ประชุมผ่านระบบทางไกลวีทีซี ร่วมกันระหว่างผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 4 กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และหน่วยเฉพาะกิจยะลาเป็นพิเศษ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายก่อเหตุเผาโรงเรียน 6 แห่ง เพื่อศึกษาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำอีก 
      พ.อ.บรรพต กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 บรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากการลงพื้นที่ร่วมกับนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศอ.บต. ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการจัดทำทุ่งยางแดงโมเดล โดยติดตั้งระบบแจ้งสัญญาณเตือนภัยแบบรีโมต ในทุกโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งจัดตั้งชุดอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนหมู่บ้าน (อปพร.) ขึ้นมาดูแล 
       พ.อ.บรรพต กล่าวต่อว่า ผบ.ทบ.สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งดูแลเยียวยา โรงเรียนที่ได้รับความเสียหายให้เปิดเรียนได้ ส่วนใหญ่จะเปิดเทอมช่วงต้นเดือนพ.ย. หากซ่อมแซมไม่ทันเปิดภาคเรียน ก็ให้เกลี่ยนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนอื่นที่ไม่ได้รับผลกระทบ และใช้ห้องเรียนที่ไม่ถูกเผาแทน รวมทั้งจัดเต็นท์ช่วยเสริมเป็นสถานที่เรียนชั่วคราว ทั้งนี้กระทรวงศึกษาฯจะอนุมัติงบประมาณเร่งก่อสร้างอาคารเรียนใหม่ภายใน 6 เดือน
       พ.อ.บรรพต กล่าวอีกว่า พล.อ.อุดมเดชยังได้สั่งการไว้ในที่ประชุม 6 ประเด็น ได้แก่ เพิ่มการปฏิบัติการในตอนกลางคืนมากขึ้น จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดเฝ้าตรวจ ชุดสกัด และใช้อุปกรณ์พิเศษที่กองทัพจัดหาให้ จัดศูนย์สื่อสารระดับตำบล เพื่อรายงานสถานการณ์ตลอดเวลา ให้ทบทวนซักซ้อม การรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ควบคุมพื้นที่และเส้นทางในพื้นที่ การตรวจค้นต้องไม่เหวี่ยงแห แต่ทำไปตามพยานหลักฐานที่มี และจะประเมินผลงานทุก 3 เดือน
       ที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวว่าปัญหาพื้นที่ภาคใต้ซับซ้อนเกิดมาหลายร้อยปี รวมทั้งประวัติ ชาติพันธุ์ จึงทำให้มีคนคิดยุแหย่เรื่องต่างๆ รัฐบาลพยายามจะปรับเปลี่ยน ถ้ารัฐบาลไม่ทำ ใช้การปราบปรามอย่างเดียว ไม่มีการพัฒนาเราเสียอย่างแน่นอน จะเกิดเหตุคนเจ็บคนตายมากกว่านี้ วันนี้แม้สถิติเหตุการณ์ต่างๆ จะลดลง แต่พวกเราทุกคนไม่เคยมีความสุข 
      สื่อต้องช่วยผม เสนอข่าวว่าทำไมคนเหล่านี้ จึงใช้ความรุนแรงกับเราแบบนี้ ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปฝืนใจหรือบังคับ เราให้และทำให้ทุกอย่าง คนไทยพุทธยังไม่ได้เท่านี้เลย ผมรักทุกคน ผมอยู่ในพื้นที่มาตลอด แต่พอมีเรื่องขึ้น วันนี้ก็หาว่าตบหน้านายกฯ มาตบผมตรงไหน ผมพยายามทำให้เหตุการณ์มันลดลง ปรับตรงโน้นแก้ตรงนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ถ้าถามว่าทำไมปัญหายังไม่จบ บอกได้ว่ามันเป็นการต่อสู้ทางความคิด ปลุกกระแสว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เรื่องศาสนา เจ้าหน้าที่ ดังนั้น ประเด็นการพูดคุยสันติสุขจึงเกิดขึ้น โดยรัฐไม่ได้มองว่าพวกเขาเป็นศัตรู ถือเป็นคนไทยทุกคน เป็นไทยมุสลิมที่นับถือศาสนาอิสลาม? พล.อ. ประยุทธ์กล่าวและตนเชื่อว่าผู้ก่อความไม่สงบไม่ใช่คนมุสลิม แต่เป็นคนที่ไม่มีศาสนามากกว่า เพราะถ้ามีศาสนาคงไม่ฆ่าคน
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่ก่อเหตุเผาโรงเรียนมีรายงานว่ามากัน 40 คน เป็นคนในพื้นที่หรือมาจากที่อื่น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผบ.ทบ. กำลังดูอยู่แล้ว กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามที่ก่อเหตุจุดนั้นจุดนี้แต่มีไม่มาก ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาถึงแผนป้องกันและมาตรการต่างๆ รวมทั้งการข่าวซึ่งก็ต้องมาปรับแก้กัน
       เมื่อถามว่า วิธีการเผาโรงเรียนจึงถูกนำมาใช้อีก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องไปถามคนเผา เพราะต้องการสร้างความหวาดกลัว เปิดช่องทางการสื่อสารทางสังคม สร้างเหตุการณ์ให้สากลโลกรู้ สื่อก็เป็นเครื่องมือโฆษณาช่วยผู้ก่อความไม่สงบต่อไป วันนี้ฝ่ายก่อความไม่สงบใช้กำลังสู้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ก็หันมาใช้วิธีการโฆษณาให้ต่างชาติได้เห็นเดี๋ยวก็เข้ามา
        เมื่อถามว่ากลุ่มอาร์เคเค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ก่อเหตุยังมีอยู่จำนวนมากในพื้นที่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนพูดมาหลายครั้งแล้วว่าจำนวนลดลงเรื่อยๆ แต่ก็มีการปะทะกันมากแต่มีไม่เยอะมาก ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวบ้านปะปนอยู่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป ถึงเวลาก็ออกไปยิงคนขอร้องสื่อว่าอย่าตกเป็นเครื่องมือ หรือขยายความให้ผู้ก่อเหตุความไม่สงบ ต้องดูว่าอะไรที่เสนอข่าวแล้วเป็นข้อเท็จจริง และเกิดประโยชน์ต่อบ้านและประเทศเราก็สมควรที่จะทำ ถ้าไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศเสนอข้อเท็จจริงก็ควรจบ ไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณณ์ต่อว่าเจ้าหน้าที่ก็ใช้ไม่ได้แล้ว เราจะได้อะไรขึ้นมา ผลประโยชน์ก็จะไปตกอยู่กับฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบ สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้น ทำให้ต่างประเทศรับรู้รับทราบ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!