Details

Category: ยาเสพติด

Published: Monday, 23 June 2014 13:26

Hits: 10118

วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8608 ข่าวสดรายวัน

ปปส.แถลงโชว์ ยึดทรัพย์ยาบ้า 8 เดือน-พันล้าน

ยึดพันล. - พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.และเลขาฯป.ป.ส. แถลงยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดทั่วประเทศ ตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา ได้ทรัพย์สินมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท ที่ป.ป.ส.ภาค 5 เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.

     ป.ป.ส.โชว์ผลงานยึดทรัพย์ 1,119 ล้านบาท คดียาเสพติดทั่วประเทศ ในรอบ 8 เดือนl ยึดทรัพย์เป็นเครือข่ายใหญ่ 11 คดี แต่ละรายยึดทรัพย์ได้เกิน 100 ล้านบาท มีทั้งรถยนต์ จยย. ที่ดิน ทองคำ เงินสด บัญชีธนาคาร 'พงศพัศ' ประสานป.ป.ช.-สรรพากรลุยสอบธุรกรรมการเงินกลุ่มผู้ค้า ผู้สมคบ และกลุ่มสนับสนุนช่วยเหลือ พบใครเกี่ยวข้องฟันไม่เลี้ยง คาดหลังครบ 1 ปีจะยึดทรัพย์ได้กว่า 3,000 ล้านบาท
     เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 เชียงใหม่ (ป.ป.ส.ภาค 5) พล.ต.อ. พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการป.ป.ส. และรอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต. ชำนาญ รวดเร็ว พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบการยึดและอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือภายหลังป.ป.ส.ออกคำสั่งให้ยึดอายัดไว้ชั่วคราวตามมาตรการยึดและอายัดทรัพย์ของผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือข่ายค้ายาเสพติดระหว่าง วันที่ 1 ต.ค. 2556 ถึง 31 พ.ค. 2557 รวม 8 เดือน 
    โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำของกลางที่ตรวจยึดพร้อมอายัดมาส่งมอบ เป็นยานพาหนะ 289 คัน แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ 130 คัน รถยนต์ 159 คัน ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 83 รายการ ทองและเครื่องประดับ 174 รายการ รวมมูลค่า 3.6 ล้านบาท เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสาร 169 รายการ เงินสด 156 รายการ รวมมูลค่า 30.5 ล้านบาท เงินฝากธนาคาร 199 รายการ รวมมูลค่า 15.9 ล้านบาท รายการ อื่นๆ อีก 332 รายการ รวมทั้งสิ้น 1,404 รายการ มูลค่า 565 ล้านบาท โดยทุกสถานีตำรวจภูธรสังกัด บช.ภ.5 ได้แก่ พื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน และลำปาง ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวมาส่งมอบให้ป.ป.ส. เพื่อขยายผลในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทองและเครื่องประดับ เงินสด เงินฝากในธนาคาร รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมือสื่อสาร เป็นต้น
   พล.ต.อ.พงศพัศ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งที่ 41/2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. กำหนด 6 มาตรการเร่งด่วนในการดำเนินการ ซึ่งการยึดและอายัดทรัพย์สินของผู้กระทำผิดและเครือข่ายเป็น 1 ในมาตรการเร่งด่วนดังกล่าว โดยป.ป.ส.เป็นผู้รับผิดชอบและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
     พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า สำหรับผลการยึดและอายัดทรัพย์ของป.ป.ส. ในภาพรวมทั่วประเทศในช่วงระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2556 จนถึง 31 พ.ค. 2557 สามารถติดตามยึดและอายัดทรัพย์ได้ 1,119 ล้านบาท โดยคดีที่ยึดอายัดทรัพย์สินได้เกินกว่า 100 ล้านบาท มี 11 คดี รวมถึงคดีเครือข่ายยาบ้าของนางสุชาดา ทวยภา หรือเจ๊เพ็ญ ที่ยึดและอายัดทรัพย์สินที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ไว้กว่า 200 ล้านบาท ล่าสุดคือเครือข่ายการโอนเงินข้ามประเทศของนางมณี คำพีระ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ที่ยึดและอายัดทรัพย์สินไว้เกินกว่า 200 ล้านบาทเช่นเดียวกัน 
     ส่วนการจัดการทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้นั้น พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า กรณีดังกล่าวจะมีการจัดการกับของกลางทั้งหมด โดยจัดเก็บไว้ในห้องมั่นคง พร้อมจัดขึ้นบัญชีของกลางไว้ด้วยระบบลักษณะของบาร์โค้ด เมื่อสแกนด้วยแอพพลิเคชั่นของตำรวจแล้ว จะมีข้อมูล รายละเอียดที่มาของกลางปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ทันที ส่วนของกลางพวกสัตว์เลี้ยง รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ตกรุ่น จะนำขายทอดตลาดทันที หากศาลพิพากษาหรือจนกว่าคดีสิ้นสุดตามกฎหมาย 
    พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า การยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดและเครือข่ายนั้น เป็นไปตามพ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ซึ่งให้อำนาจเลขาธิการป.ป.ส. สามารถยึดอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ เพื่อป้องกันมิให้กลุ่มนักค้ายาเสพติดสามารถโอน ยักย้าย ซุกซ่อนหรือนำทรัพย์สินไปทำธุรกิจบังหน้า และถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดและการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้มีการขนเงินจำนวนมากไปยังชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการขอให้ผู้ประกอบการร้านทองขอประวัติ ผู้ที่ซื้อทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณจำนวนมาก พร้อมทั้งประสานธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) ให้แต่ละธนาคารตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายหรือถอนเงินจำนวนมาก ในระยะเวลาสั้นๆ ผ่านระบบอีแบงกิ้ง เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินหรือผู้เกี่ยวข้อง เพิ่มเติมได้ 
     "ในเรื่องนี้ พล.อ.ไพบูลย์เน้นให้สำนักงานป.ป.ส.ดำเนินการอย่างจริงจัง โดยในทางปฏิบัติป.ป.ส.ได้ประสานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และกรมสรรพากร เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มนักค้า ยาเสพติด รวมทั้งผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ อาทิ ครอบครัวโดยละเอียด หากพบผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทุกกรณี คาดว่าเมื่อดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวครบทั้ง 12 เดือนจะสามารถยึดและอายัดทรัพย์สินของกลางได้มากกว่า 3,000 ล้านบาท" พล.ต.อ.พงศพัศกล่าว