WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ล้อมคอกหนองงูเห่าระยะที่ 2 ดึงธนาคารโลกร่วมป้องโกง

    แนวหน้า : นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยภายหลังงานสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง ว่า แนวทางการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจที่ต้องฟื้นฟูกิจการ ทั้งบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน), บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) , ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์) ,การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) จะยังไม่มีการพิจารณาควบรวมหรือยกเลิกกิจการ เนื่องจากต้องพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการทั้ง 7 แห่งก่อน

    โดยขณะนี้ไอแบงก์และเอสเอ็มอีแบงก์อยู่ระหว่างการตรวจสอบฐานะทางการเงิน หรือดิวดิลิเจ้นท์ เพื่อประเมินสภาพหนี้เสีย รายได้ทรัพย์สินทั้งหมดของธนาคาร ก่อนนำมาประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการทั้ง 2 ธนาคาร คาดว่าจะสามารถนำส่งแผนฟื้นฟูให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสหากิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ดพิจารณาได้อีกครั้งในช่วงต้นปี 2558

   ส่วนทีโอทีและ กสท โทรคมนาคม เชื่อว่ายังเป็นรัฐวิสาหกิจที่สำคัญในการขับเคลื่อนโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิตอลของรัฐบาล หากเมื่อได้ปรับปรุงโครงสร้างด้านภาระกิจแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน ซึ่งแนวทางการควบรวมกิจการอยากให้เป็นทางเลือกสุดท้ายในการแก้ไขปัญหา ขณะที่การบินไทย รฟท.และขสมก.ได้เตรียมเสนอแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อให้ซุปเปอร์บอร์ดพิจารณาในครั้งต่อไป

   นายกุลิศ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีแผนเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมาก เพื่อป้องกันการทุจริตจึงได้นำรูปแบบการติดตามจัดซื้อจัดจ้างด้วยความโปร่งใสใน 2 รูปแบบ ทั้งด้านการจัดซื้อจัดจ้างและการลงทุนก่อสร้าง เพื่อติดตามการลงทุนของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ

     สำหรับ รูปแบบแรก สคร.เตรียมนำระบบตรวจสอบความโปร่งใสภาคการก่อสร้าง หรือคอสต์ (Construction sector Transparency Initrative : COST) ซึ่งเป็นระบบที่ประเทศอังกฤษร่วมกับธนาคารโลกจัดทำขึ้นมีสมาชิกแล้ว 13 ประเทศ โดยไทยได้เข้าร่วมเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นจะนำระบบดังกล่าวมาใช้ในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงินลงทุน 62,000 ล้านบาท เพื่อมาติดตามตรวจสอบการลงทุนไม่ให้เกิดการทุจริตได้

     ส่วนรูปแบบที่สอง จะนำระบบสัญญาคุณธรรมมาใช้สำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง ก่อสร้าง และการลงทุนขนาดใหญ่ เบื้องต้นจะใช้การจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีของขสมก. และการจัดหาผู้ให้บริการเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย โดยจะให้เจ้าของโครงการลงทุนทำสัญญาร่วมกับหน่วยงานกลาง และมีคณะกรรมการเป็นผู้สังเกตการณ์ รวมถึงมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)

     ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆยังมีอำนาจในการตรวจสอบโดยสามารถขอเอกสารข้อมูลในการกำหนดราคากลาง การจัดทำโอทีอาร์ ผู้เสนอราคา การตัดสินใจคัดเลือก การเจรจาต่อรองได้ เนื่องจากได้มีการทำสัญญาร่วมกันแล้ว ซึ่งหากหน่วยงานดังกล่าวตรวจพบสิ่งผิดปกติ สามารถเจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ปปช.)ดำเนินคดีทันที

    นายกุลิศ กล่าวว่า ทางสคร.อยู่ระหว่างการเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชนปีพ.ศ.2556 หรือ PPP ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ สคร.อยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมายลูกจำนวน 8 ฉบับ ที่จะออกมารองรับ

  นอกจากนี้ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานทำหน้าที่เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว โดยในเดือน พ.ย.นี้ ทางสคร.จะเปิดให้ 3 ภาคส่วนเข้าแสดงความเห็น ประกอบด้วยกลุ่มของรัฐวิสาหกิจ กลุ่มนักวิชาการ และกลุ่มผู้รับสัมปทาน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำกฎหมายดังกล่าวต่อไป

    เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ตลอดเช้านี้ ถึงแม้ฝนจะตกลงมาเป็นระยะๆ แต่ก็มีประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทยอยนำพานดอกไม้ แจกันดอกไม้ พวงมาลัย

    และสิ่งของมาทูลเกล้าฯถวาย ด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พร้อมตั้งจิตรอธิษฐานขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว มีพระวรกายแข็งแรงสมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นไป เพื่อเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป

    อาทิ นายพลากร สุวรรณรัฐ องค์มนตรี นางสาวลีส์ กราเซีย มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2014 พร้อมคณะ คณะเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม จ.ฉะเชิงเทรา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดเพชรบุรี คณะผู้เข้าประกวด RBU Smart 2014 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต นายสมศักดิ์ จุ้งตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัด ร้อยเอ็ด พร้อมข้าราชการ นายธรรมนูญ หวั่งหลี ประธารกรรมการลูกเสือชาวบ้าน กลุ่ม 2 กรุงเทพฯใต้ พร้อมคณะ. สมาคมนักเรียนเก่าเบญจมบพิตร ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงาน กศน. จ.ตาก พล.ต.ธรากร ธรรมวินธร ผบ.กองพลทหารราบที่ 6 กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ พร้อมคณะและกลุ่มสมาชิกมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ทูลเกล้าฯ ถวายผ้าไหมพื้นเรียบสีธรรมชาติ และผ้าไหมมัดหมี่ลายนกยูง รวม 4 ผืน

      ด้านนางสาวลีส์ 'มิสแกรนด์'กล่าวว่า “จากที่เดินทางมาอยู่ในประเทศไทยและไปเก็บตัวที่ จ.สุโขทัย 3 สัปดาห์ ก็รับรู้ได้ว่าคนไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมใจ เมื่อทราบข่าวว่าในหลวงทรงประชวรจึงอยากมาถวายพระพร และได้ส่งความปรารถนาดีถึงพระองค์ขอให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และการเดินทางมาถวายพระพรในวันนี้ก็สัมผัสได้ถึงความสู้สึกของคนไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรู้สึกว่าคนไทยรักในหลวงมาก ๆจึงเดินทางมาถวายพระพรกันมากขนาดนี้”

    สำหรับ ช่วงบ่าย ยังคงมรบุคคลสำคัญและคณะบุคคลรวมถึงประชาชนทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่พาครอบครัวมาถวายพระพรจำนวนมาก อาทิ สมาคมอาศรมวัฒนธรรมไทย-ภารต นำโดย ศ.ศรีสุรางค์ พูลทรัพย์ นายกสมาคมฯพร้อมสมาชิก ราชสกุล “วรวรรณ” นำโดยท่านผู้หญิงวิวรรณ วรวรรณ เศรษฐบุตร คณะอบต.ก้อนแก้ว อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา คณะผู้ปฏิบัติธรรม วัดศรีมหาธาตุ จ.ชลบุรี สภาศุภ พัชภัทร์ แห่งประเทศไทย สมาคมหอการค้า จ.ตาก นายบาวี นาวี ฟาร์ดีฟ ชาวอินเดีย ทูลเกล้าฯถวายพระพิฆเนศ นายชูชาติ อินสว่าง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) คณะผู้บริหารกลุ่มโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย หลวงปู่พุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม พร้อมคณะศิษย์ และอิหม่ามอะหมัด อายุเคน อิหม่ามประจำมัสยิด ปากิสตาน จ.นครปฐม และคณะอิหม่าม โดยอิหม่ามอะหมัดได้สวดดูอาร์ขอพร ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงยิ่งๆขึ้นไปด้วย

     เมื่อเวลา 16.25 น.ม สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ฉบับที่ 6 ความว่า

    ตามที่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เพื่อทรงรับการรักษาพระอาการประชวรพระอามาสัย (กระเพาะอาหาร) อักเสบ และตับอ่อนอักเสบ ซึ่งเกิดจากการแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง (SLE ) ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2557 ซึ่งสำนักพระราชวังได้แถลงการณ์ให้ทราบแล้วนั้น

     บัดนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่า ยังมีพระอาการประชวรอยู่ แต่พระอาการเป็นที่ปลอดภัยแล้ว สามารถเสด็จออกจากโรงพยาบาลได้ จึงได้เสด็จไปประทับพักฟื้น ณ พระตำหนักพิมานมาศ ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2557

    ในระหว่างประชวรได้มีเอกอัครราชทูต ข้าราชการ พระภิกษุสงฆ์ และประชาชนทุกหมู่เหล่า แสดงความห่วงใยในพระอาการประชวร ความทราบฝ่าพระบาทแล้ว ทรงชื่นชมในความปรารถนาดี และโปรดให้เชิญพระดำรัสขอบใจแจ้งให้ทราบทั่วกัน จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 11 ตุลาคม 2557

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!