WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1สหกรณ์ครูกระบี่

กรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงข้อเท็จจริงเหตุสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่ เข้าแจ้งความคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ กู้เงินสร้างจตุคามซื้อที่ดิน ปล่อยกู้เกิดหนี้เน่า 500 ล้าน

ตามที่เป็นข่าวว่ามีสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่ จำกัด เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เพื่อเอาผิดกับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่ จำกัด ชุดที่ 47 และกรรมการชุดต่อเนื่องฐานก่อให้เกิดความเสียหายแก่สมาชิกสหกรณ์กว่า 8 พันคน จนก่อให้เกิดหนี้เน่ารวมกันกว่า 509 ล้านบาท นั้น

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าวเดิมผู้ให้ข่าวได้เคยมีการร้องเรียนประเด็นดังกล่าวข้างต้นมายังกรมส่งเสริมสหกรณ์และร้องเรียนมายังสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกระบี่ ซึ่งเบื้องต้นกรม ได้มีการตอบข้อร้องเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมมอบหมายให้สหกรณ์จังหวัดกระบี่ ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ปฏิบัติการแทนนายทะเบียนสหกรณ์ มอบหมายให้คณะผู้ตรวจการสหกรณ์ประจำจังหวัดกระบี่

เข้าไปตรวจสอบกิจการและฐานะการเงินของสหกรณ์ในประเด็นดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าสหกรณ์ มียอดลูกหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ จำนวน 453,041,547.89 บาท สหกรณ์จังหวัดจึงได้แจ้งเป็นหนังสือแนะนำให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ เร่งรัดติดตามทวงถามลูกหนี้และหรือดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งก็ได้มีการแก้ไขไปแล้วบางส่วน ยังคงค้างอยู่บางส่วน

สำหรับ กรณีที่มีสมาชิกแจ้งความเอาผิดกับคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 47 ที่ได้ทำสัญญาอนุมัติเงินกู้เองจำนวน 2,300,000 บาท เพื่อนำไปสร้างจตุคามรามเทพ ประเด็นนี้ทางคณะกรรมการดำเนินการฯ ได้กระทำการซึ่งขัดกับระเบียบว่าด้วยเงินกู้สามัญแก่สมาชิก พ.ศ. 2550 อย่างชัดเจน เนื่องจากเงินกู้สามัญมีสำหรับให้สมาชิกกู้ไปใช้ในเฉพาะกรณีจำเป็นหรือประโยชน์เท่านั้น

รองนายทะเบียนสหกรณ์จึงมีคำสั่งเพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกระบี่ จำกัด เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2550 โดยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550-2565 สหกรณ์ได้รับชำระเงินกู้ดังกล่าวมาแล้ว จำนวน 1,135,682.88 บาท คงเหลือ 1,164,317.12 บาท

รองนายทะเบียนจึงสั่งให้คณะกรรมการดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องเร่งดำเนินการทำหนังสือแจ้งคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 47 ให้รับผิดชอบชดใช้เงินจำนวน 1,164,317.12 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ได้รับชำระครั้งล่าสุด (31 มีนาคม 2566) และหากไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ให้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 47 เพื่อเรียกค่าเสียหายด้วย

ส่วนประเด็นที่คณะกรรมการได้อนุมัติเงินกู้เพื่อมัดจำที่ดิน จำนวน 1,500,000 บาท แต่ไม่มีการซื้อที่ดินจริง จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2549 มีการอนุมัติโครงการจัดหาที่ดิน 20,000,000 บาท และในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2550 สหกรณ์ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน จำนวน 4 ไร่ๆ ละ 4,00,000 บาท ซึ่งกำหนดให้ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินค่ามัดจำ จำนวน 8,000,000 บาท

แต่ปรากฏว่า ในวันเดียวกันสหกรณ์มีการสั่งจ่ายเช็คค่ามัดจำซื้อที่ดิน จำนวน 2,000,000 บาท ซึ่งไม่ปรากฏรายละเอียดการขออนุมัติการจ่ายเงินค่ามัดจำใด ๆ ต่อมาที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2550 มีมติยุติการซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 สหกรณ์ได้รับเงินค่ามัดจำที่ดินคืน จำนวน 500,000 บาท คงเหลือ 1,500,000 บาท

เมื่อนายทะเบียนสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่าการจ่ายเงินค่ามัดจำที่ดินไม่เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการรับจ่ายและเก็บรักษาเงินสดของสหกรณ์ พ.ศ.2543 จึงมีคำสั่งให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์แก้ไขข้อบกพร่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการกับคณะกรรมการชุดที่ปล่อยปละละเลยจนทำให้ขาดอายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องตามสัญญา พร้อมชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 1,500,000 บาท

ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 48/2551 และชุดที่ 49/2552 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างสหกรณ์ส่งมอบงานให้ทนายความร่างคำฟ้องเสนอสหกรณ์

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประเด็นที่มีสมาชิกร้องเรียนว่าคณะกรรมการหลายชุดที่ผ่านมามีการแก้ไขกฎระเบียบ แบบผิดปกติ โดยการปล่อยเงินกู้ในวงเงินสูงเพื่อเปิดช่องให้สมาชิกหลายรายไปหาซื้อที่ดินตาบอดในราคาถูก เพื่อนำโฉนดที่ดินเหล่านั้นมากู้เงินหลายล้านบาทกับสหกรณ์ และเมื่อสมาชิกที่กู้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็ปล่อยให้สหกรณ์ยึดที่ดินตาบอดที่ไม่มีราคาจนก่อให้เกิดหนี้เน่าจำนวนมากนั้น

จากการตรวจสอบระเบียบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการให้เงินกู้กับสมาชิกฯ พบว่าในทุกระเบียบที่สหกรณ์ถือใช้ต้องมีการกำหนดหลักประกันสำหรับเงินกู้ อสังหาริมทรัพย์ อันปลอดจากภาระจำนองเป็นประกันเต็มจำนวนเงินกู้รายนั้น โดยไม่เกินหนึ่งเท่าของราคาประเมินแห่งค่าอสังหาริมทรัพย์จากสำนักงานที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้เท่าราคาประเมินของบริษัทประเมินที่จดทะเบียน

นอกจากนี้ ก่อนการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้กับสมาชิก สหกรณ์จะมีคณะอนุกรรมการประเมินหลักทรัพย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบประเมินหลักทรัพย์ และจัดทำรายงานผลพร้อมทั้งแนบภาพถ่ายของสภาพที่ดินเพื่อประกอบการพิจารณาการให้เงินกู้แก่สมาชิกทุกครั้งด้วย แต่อย่างไรก็ตามสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกระบี่จะแจ้งให้คณะกรรมการสหกรณ์สุ่มสอบทานหลักทรัพย์ค้ำประกันของสมาชิก ตามข้อร้องเรียนให้เสร็จภายใน 30 วัน ต่อไป

 

Click Donate Support Web

SME 720x100 66

  Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

kasat 720x100วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100ais 720x100sme 720x100ธกส 720x100

PTG 720x100

ใจฟู720x100px

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!