WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

8880 กทปส

กทปส. ดันมิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์นวัตกรรมตรวจวัดอุณหภูมิสัญชาติไทย แม่นยำเทียบเท่าต่างชาติ

ช่วยชาติลดการนำเข้าเทคโนโลยี คาดผลิตเชิงพาณิชย์ถูกกว่าตลาด 50%

กทปส. ปลื้ม NECTEC พัฒนานวัตกรรมต้นแบบมิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์เฟสแรกสุดปัง ! ตรวจวัดอุณหภูมิแม่นยำใน 0.1 วินาที กระจายใช้จริงแล้วทั่วประเทศ

 

NBTCนิพนธ์3          “อุณหภูมิร่างกาย หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ความสมบูรณ์ของร่างกายแต่ละบุคคล โดยในกรณีที่บุคคลมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ย่อมสรุปได้ว่าอาจจะเกิดความผิดปกติภายในร่างกาย หรือมีอาการของโรคแอบแฝง อาทิ โรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส หรือกระทั่งโรคโควิด-19 ที่ล้วนแสดงอาการของโรคในอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ ดังนั้น การเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อรายบุคคลได้นั้นการวัดอุณหภูมิจึงถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต้องตรวจวัด ภายใต้บริบทของการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อลดเลี่ยงการสัมผัสและการแพร่กระจายของเชื้อระหว่างบุคคล

          นายนิพนธ์ จงวิชิต ผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและพัฒนา กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า กทปส. จึงร่วมมือกับ ทีมวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) เร่งผลิตนวัตกรรมต้นแบบมิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์” (µTherm-FaceSense) จำนวน 40 เครื่อง ภายใต้งบฯ วิจัยกว่า 15.41 ล้านบาท หนุนแพทย์ไทยคัดกรองอุณหภูมิประชาชนแม่นยำใน 0.1 วินาที ด้วยเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าบุคคลอัตโนมัติ (Face Detection) แม้สวมหน้ากากอนามัย และเครือข่ายการสื่อสารอัจฉริยะ ที่ช่วยให้การประมวลผลเป็นไปอย่างรวดเร็ว และสามารถตรวจวัดพร้อมกันได้ถึง 9 คน ในระยะห่างสูงสุด 1.5 เมตร ทั้งนี้ ผลสำเร็จดังกล่าวนับเป็นการตอกย้ำศักยภาพทีมวิจัยไทย ที่สามารถพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รูปแบบเฉพาะได้ 100% ทั้งยังลดการพึ่งพาเทคโนโลยีที่มีราคาสูงจากต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อใช้จริงในสถานการณ์โควิด-19

8880 NECTECอาโมทย์          ด้าน นายอาโมทย์ สมบูรณ์แก้ว นักวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และทีมพัฒนามิวเทอร์ม เฟสเซนซ์กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการได้รับทุนสนับสนุนจาก กทปส. กว่า 15.41 ล้านบาทนั้น สามารถลดต้นทุนการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ สู่การพัฒนา 40 นวัตกรรมต้นแบบ ที่มีมูลค่าต่ำกว่าท้องตลาดถึง 50% หรือราว 100,000 บาท เพื่อใช้จริง สถานพยาบาล เรือนจำ หน่วยงานราชการ และขนส่งสาธารณะ 40 เครื่องทั่วประเทศ จึงนับเป็นโอกาสสำคัญของคนไทย ในการเข้าถึงนวัตกรรมที่พัฒนาโดยนักวิจัยไทย ในราคาที่ต่ำลงแต่ประสิทธิภาพที่แข่งขันกับต่างประเทศ ที่มาพร้อมระบบถ่ายภาพและประมวลผลเบ็ดเสร็จใน 5 มิติ คือ 1. พิกัดของตำแหน่ง 2. ภาพปกติกับภาพความร้อน 3. ชุดอุณหภูมิอ้างอิงอยู่ภายในตัวเครื่อง 4. ระบบการชดเชยความแปรปรวนของสภาพแวดล้อม และ 5. ระบบการชดเชยความแปรปรวนของระยะทาง ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ NECTEC เตรียมถ่ายทอดสิทธิให้เอกชนนำไปผลิตเชิงพาณิชย์ ในเฟส 2 ไปพร้อมๆ กับการเตรียมผลิตเชิงพาณิชย์ รุ่น Limited Edition จำนวนจำกัดอีก 40 เครื่อง เพื่อวางจำหน่ายรองรับความต้องการภาคประชาชนทุกพื้นที่ ในราคาที่จับต้องได้ เป็นลำดับต่อไป

          ทั้งนี้มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์เป็นผลงานการพัฒนาโดยทีมวิจัย จากกลุ่มวิจัยอุปกรณ์สเปกโทรสโกปีและเซนเซอร์ (SSDRG) และกลุ่มวิจัยการสื่อสารและเครือข่าย (CNWRG) รวม 16 คน ยังได้ลงมือพัฒนาระบบการทำงานของเครื่องส่วนต่างๆ ด้วยตนเองให้สามารถใช้งานเชื่อมต่อกันได้อัตโนมัติ นอกจากนี้ นวัตกรรมดังกล่าว ยังผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านไฟฟ้า การทดสอบมาตรฐานคลื่นแม่เหล็ก ที่ไม่กระทบต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ การทดสอบความแม่นยำของอุณหภูมิ จากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว การันตีด้วยชุดทรัพย์สินทางปัญญาหลายฉบับ

          อย่างไรก็ดี ด้วยการทำงานของนวัตกรรมดังกล่าว จะทำให้ระบบประควบคุมและประมวผลผลที่ทำงานอยู่เบื้องหลังได้รับ บิ๊ก ดาต้า” (Big Data) ที่เป็นค่าดิบจากเซนเซอร์ต่างๆ ของตัวเครื่องจำนวนมากนั้น สามารถนำไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ในบริบทต่างๆ ได้หลากรูปแบบ อาทิ ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องทั้งในรุ่นปัจจุบันและรุ่นถัดไป (ปัจจุบันเครื่องมีการอัปเดตโปรแกรมใหม่อัตโนมัติ) เพิ่มความสามารถต่างๆ ให้เครื่อง เช่น แสดงสถิติการใช้งาน (ปัจจุบันเครื่องนับจำนวนคนในแต่ละวันให้ตลอดเวลา) ช่วยดูแลสุขภาพเครื่องจากระยะไกล ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมาก รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลบางส่วนเป็น Open Data เพื่อประโยชน์สาธารณะทางระบาดวิทยา เช่น จำนวนคนเข้าออก และค่าอุณหภูมิที่วัดได้ นายอาโมทย์ กล่าว

 

8880 กทปส4

 

          NECTEC ได้ทำการวิจัยและพัฒนามิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์” (µTherm-FaceSense) อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี .. 2550 ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก โรคซาร์ และไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ต่างๆ ในขณะนั้น ที่ต้องการเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องการตรวจวัดอุณหภูมิแบบมีระยะห่างและแสดงผลแบบเรียลไทม์ และล่าสุด ในปี .. 2562 ที่ผ่านมา NECTEC ได้รับทุนวิจัยจาก กทปส. ในการพัฒนาและปรับปรุงเครื่องคัดกรองอุณหภูมิรุ่นใหม่ ให้มีฟังก์ชันการค้นหาใบหน้าและตรวจวัดอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วภายใน 0.1 วินาที ตลอดจนสามารถตรวจวัดต่อครั้งได้จำนวนหลายคนพร้อมกัน โดยเพิ่มเติมฟังก์ชันการสื่อสารแบบออนไลน์ ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพและความสมบูรณ์แบบมากขึ้น นายอาโมทย์ กล่าวทิ้งท้าย

 

8880 กทปส2

8880 กทปส3

 

          สอบถามข้อมูลติดต่อ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ฝ่ายกลยุทธ์วิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี เนคเทค-สวทช. โทร. 02 564 6900 ต่อ 2353 และสำหรับผู้สนใจยื่นขอรับทุนสนับสนุนจาก กทปส. สามารถติดตามรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ กองทุนวิจัยและพัฒนาฯ โทรศัพท์ 02 554 8111 และ 02 554 8114 หรือ www.facebook.com/BTFPNEWS และ https://btfp.nbtc.go.th

 

#กทปส #กองทุนวิจัยและพัฒนา #เครื่องวัดอุณหภูมิอัจฉริยะ #มิวเทอร์มเฟสเซนซ์ #µTherm-FaceSense

#ราคาขายถูกกว่าตลาด #หนุนคนไทยเข้าถึงเท่าเทียม #NECTEC #JCCOTH

 

AO8880

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

EXNESS

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!