WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

สศช.ทำนายอีก 26 ปีคนไทยแก่เพิ่มขึ้น

      บ้านเมือง : นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยในงานสัมมนา "การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรกับอนาคตของการพัฒนาประเทศ" ว่า ใน 26 ปีข้างหน้าหรือปี 2583 สศช.คาดว่าผู้สูงอายุไทย 60 ปีขึ้นไปจะมีจำนวนสูงถึง 20.5 ล้านคน หรือ 32% ของประชากรทั้งหมด ขณะที่วัยแรงงานลดลงเหลือเพียง 35.18 ล้านคน จากปี 53 มีจำนวน 42.7 ล้านคน นับว่าวัยแรงงานได้ลดลงมากจนหวั่นกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและบริการ เนื่องจากกำลังแรงงานเป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยการผลิต ทุกภาคส่วนจึงต้องเตรียมรับมือปัญหาดังกล่าว โดยขณะนี้ไทยเร่งเข้าสู่สังคมวัยชราไปแล้ว อาจกระทบต่อภาระทางการคลังในอนาคต ในการจ่ายเงินเข้ากองทุนประเภทต่างๆ เพื่อดูแลสมาชิกวัยชรา สศช.จึงได้วางกรอบแนวคิดในการพัฒนาประชาชนของประเทศในระยะยาว 20 ปี ข้างหน้า เพื่อนำกรอบเสนอ ครม.พิจารณาใน 3 ยุทธศาสตร์หลัก คือ การเพิ่มศักยภาพของประชากรไทยให้สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและหลักประกันทางสังคมให้กับประชาชน การสร้างความอยู่ดีกินดีมีสุขให้สังคมไทย เมื่อกำลังแรงงานลดลงอาจจึงต้องหันมาพัฒนาด้านเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้นแทนกำลังคน ภาคอุตสาหกรรมและบริการ ต้องผลักดันสังคมให้ใช้แนวทางเศรษฐกิจฐานความรู้มากขึ้นแทนการใช้แรงงานหรือรับจ้างผลิต โดยเน้นเศรษฐกิจแนวใหม่ การพัฒนาผ่านนวัตกรรม หรือการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านฐานความรู้

   นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและแผนประชากร สศช. กล่าวว่า ประเทศไทยได้เข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัย จากสัดส่วนวัยเด็กและวัยแรงงานเริ่มลดลง ประชากรวัยสูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศยังมีรายได้ระดับปานกลาง จึงเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาประเทศในอนาคต การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร จะก่อให้เกิดความท้าทายที่สำคัญ ทั้งศักยภาพการเติบโตของประเทศที่ชะลอตัว เนื่องจากกำลังแรงงานที่ลดลง ซึ่งจำเป็นต้องทดแทนด้วยคุณภาพของประชากร การออมครัวเรือนที่มีไม่เพียงพอต่อการสนับสนุนความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!