- Details
- Category: ปปช.
- Published: Sunday, 07 September 2014 08:28
- Hits: 4126
วันที่ 06 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 00:01 น. ข่าวสดออนไลน์
เงื่อนปม อัยการ คดี โครงการรับจำนำข้าว ติงตรงไปยังป.ป.ช.
การที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีความเห็นให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างอัยการกับป.ป.ช. ในคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มิได้หมายความว่าอัยการจะไม่ เดินหน้า ในเรื่องนี้
ไม่ใช่อย่างนั้น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อย่าเพิ่งหงุดหงิด อย่าเพิ่งมองสำนักงานอัยการสูงสุดในแง่ร้าย
จะมองว่าเป็น สมุน ของระบอบทักษิณก็ไม่เต็มปากเต็มคำ
เพราะว่าหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็มีการจัดระเบียบภายในสำนักงานอัยการสูงสุด มีการนำ นายตระกูล วินิจนัยภาค เข้ามาดำรงตำแหน่ง
ถือว่าเป็นการจัดวางโดยคสช. จัดวางโดยคณะรัฐประหาร
ขณะเดียวกัน ข้อเสนอของสำนักงานอัยการสูงสุดก็เสมอเป็นเพียงให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างอัยการกับป.ป.ช. เพื่อแก้จุดอ่อนความบกพร่องให้หมดสิ้นไป
จากนั้นก็เดินหน้าคดีอย่างเต็มพิกัด
ถามว่าเหตุใดจึงปรากฏความรู้สึกผิดหวังจากคนของพรรคประชาธิปัตย์และรวมถึงบางเสียงอันมาจากคณะกรรมการป.ป.ช.เอง
คำตอบ 1 เพราะว่าอัยการไม่ส่งฟ้องโดยพลัน
การไม่ส่งฟ้องโดยพลันของสำนักงานอัยการสูงสุดได้นำไปสู่อีกคำตอบ 1 คือ เท่ากับเป็นการสะท้อนให้เห็นจุดอ่อนและความบกพร่องในสำนวนของป.ป.ช.
เรียกตามสำนวนทนายก็ต้องว่า สำนวนยังไม่สมบูรณ์
ประเด็นที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ สำนวนของป.ป.ช. ระบุเพียงว่า มีการทุจริตทุกขั้นตอนแต่ไม่ลงรายละเอียดว่า มีการทุจริตอะไรบ้าง ตรงส่วนไหน ที่ไหน อย่างไร ใครเป็นคนทำและผู้ถูกกล่าวหาคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร
นั่นก็คือ กล่าวหาโดยไม่มี หลักฐาน อย่างหนักแน่น เพียงพอ
ความจริงแล้ว ข้อโต้แย้งอันมาจากสำนักงานอัยการสูงสุดก็เพื่อที่จะทำให้สำนวนของป.ป.ช. มีความหนักแน่น จริงจัง
เมื่อไม่สมบูรณ์ก็ต้องทำให้สมบูรณ์
เหมือนกับคดีที่มีการฟ้องร้อง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ว่าทุจริตอ้างว่าจัดสัมมนาโดยไม่มีการสัมมนาก็ไปหาพยานหลักฐานมายืนยัน จากนั้นก็มีคำสั่งฟ้อง
หากว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุจริตก็ไปหาหลักฐานมายืนยันให้แน่ชัด
การอ้างรายงานการวิจัยของสถาบันวิจัยและการพัฒนาประเทศไทยก็ยังไม่เพียงพอ ต้องมีพยาน ต้องมีหลักฐาน หนักแน่นยิ่งกว่านั้น
โอกาสที่จะเล่นงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงจะไม่เลื่อนลอย
การดำเนินคดีโครงการรับจำนำข้าวต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจจำเป็นต้องเลื่อนแต่ก็ระยะหนึ่ง
มิได้เป็นการเลื่อนโดยไม่มีการฟ้องร้อง ขณะเดียวกัน หากสำนักงานอัยการสูงสุดและ ป.ป.ช. ตั้งคณะกรรมการร่วมแล้วยังมีความเห็นต่าง ป.ป.ช. ก็สามารถหาทนายฟ้องร้องได้โดยตรง
คดีนี้จึงเป็นเพียงการชะลอ แต่มิได้เป็นการยุติ.....
ม.ร.ว.ปรีดิยาธรไม่ประหลาดใจอสส.ตั้งคณะทำงานร่วมป.ป.ช.ปมจำนำข้าวปู
วันที่ 5 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอสส.กับป.ป.ช. เพื่อพิจารณาสำนวนคดีรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไร แค่มีการตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อที่จะได้ไปพูดคุยกัน ต้องให้คณะทำงานได้คุยกันก่อน ตนไม่เห็นมีอะไรประหลาด ตอนแรกเห็นต่างกันสักพัก เดี๋ยวพอคุยกันก็เห็นตรงกันเอง ตอนนี้อาจยังเห็นรายละเอียดไม่เท่ากัน
′ปึ้ง′จวก′วิชา มหาคุณ′ตั้งธงในใจคดีจำนำข้าว ทำตัวเป็นเด็กโจมตีอสส.ยังไม่สั่งฟ้อง
 สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล |
วันที่ 6 กันยายน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ออกมาโจมตีอัยการสูงสุด(อสส.)อย่างรุนแรง สืบเนื่องจากการยังไม่ไม่สั่งฟ้องคดีรับจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ถือเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม เหมือนนายวิชามีอะไรในใจ มีการตั้งธงในคดีนี้ไว้แล้ว
สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
ทั้งที่ความจริงไม่ว่า ป.ป.ช. หรืออสส.ต่างมีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆด้วยความเป็นธรรม การเห็นต่างในบางจุดไม่ใช่เรื่องที่จะต้องนำมาเป็นความขัดแย้ง ป.ป.ช.ควรเดินหน้าทำงานของตัวเองไปตามกระบวนการดีกว่า การออกมาพูดแบบนี้เหมือนทำตัวเป็นเด็กชวนทะเลาะ ทำให้ความน่าเชื่อถือหมดไป วันนี้บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจ (PERC)ให้คะแนนป.ป.ช.ในการปราบปรามการทุจริตอยู่ในระดับต่ำสุดของเอเชีย ยังไม่รู้สึกตัวอีกหรืออย่างไร.... |
