WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ป.ป.ช. มีมติไต่สวนข้อเท็จจริงโครงการจำนำข้าว ในประเด็นความเสียหายช่วง 'นิวัฒน์ธำรง -ยรรยง'รับผิดชอบ เตรียมเรียกไต่สวนพยานบุคคล 4 ราย

    นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แถลงถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญากรณีกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวโดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามที่มีอำนาจหน้าที่ ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงจากการไต่สวนว่า การปิดบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของกระทรวงการคลัง ในครั้งที่ ๓ มีผลขาดทุนเป็นจำนวนสูงถึง ๓.๓ แสนล้านบาท และยังมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปริมาณข้าวจำนวน ๒.๙๘ ล้านตัน ที่ไม่สามารถนำเข้ามาสู่กระบวนการปิดบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีดังกล่าวได้ เนื่องจากยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจำนวนข้าวดังกล่าวมีอยู่จริงหรือไม่

      ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาประกอบกับข้อเท็จจริงตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนกรณีผลการประชุมของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการคลัง ปรากฏว่า คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ได้ตรวจสอบผลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปีกว่า (2554/2555, 2555/2556, 2556/2557) พบว่ามี ผลขาดทุนสูงขึ้นกว่าเท่าตัว หรือขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาขายต่ำกว่าราคาต้นทุน 1.5 หมื่นบาทต่อตัน โดยคณะอนุกรรมการฯ ได้คำนวณต้นทุนข้าวเปลือกที่แปรสภาพเป็นข้าวสารไว้เฉลี่ยที่ราคา 2.3 หมื่นบาทต่อตัน ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ขายข้าวไปที่ราคา 1.2-1.4 หมื่นบาทต่อตัน และเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการได้ขายข้าวไปด้วยราคาเพียงตันละ 8 พันบาทเท่านั้น ทำให้มีส่วนต่างราคาขายกับราคาต้นทุนสูงขึ้น ซึ่งทำให้โครงการรับจำนำข้าวขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังพบว่าข้าวสารหายไปจากสต๊อกอีกราว 2.8 ล้านตัน โดยปรากฏว่าในสต๊อกไม่มีข้าวอยู่จริง เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชีเท่านั้น และยังพบว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพอีกจำนวนมากที่ยังรอให้เซอร์เวเยอร์ตีราคา ซึ่งหากมีการตีราคาแล้ว คาดว่าจะทำให้ผลขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวจะเพิ่มมากกว่า 5 แสนล้านบาท นั้น

   คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติในดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในประเด็นเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยในชั้นนี้ให้ไต่สวนพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๔ ราย ได้แก่

            1. นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน

            2. นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง

            3. นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง

            4. ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ผู้แทน

      นอกจากที่กล่าวแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังเห็นควรให้ขยายผลในเรื่องดังกล่าว โดยจะดำเนินการตรวจสอบรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เกี่ยวข้องในโครงการดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!