แม้ว่าเม็ดเงิน FDI ในอาเซียนลดลงในปี 2566 แต่ FDI ในภาคอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียและเวียดนามยังเพิ่มขึ้น ไทยควรเร่งนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน
- Details
- Category: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- Published: Thursday, 15 February 2024 13:20
- Hits: 10953
แม้ว่าเม็ดเงิน FDI ในอาเซียนลดลงในปี 2566 แต่ FDI ในภาคอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียและเวียดนามยังเพิ่มขึ้น ไทยควรเร่งนโยบายที่เอื้อต่อการลงทุน (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)
● นับตั้งแต่เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อินโดนีเซียและเวียดนามเป็นประเทศที่ได้รับอานิสงค์หลักจากการกระจายฐานการผลิตออกจากจีน เมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซียและไทย
● การลดลงของ FDI ในอาเซียนในปี 2566 เป็นผลพวงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการขึ้นดอกเบี้ยที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนออกไปก่อน แต่สำหรับอินโดนีเซียและเวียดนาม FDI ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเทศไทย FDI ที่ลดลงเป็นผลมาจากการปิดกิจการของธุรกิจต่างชาติ อาทิ การขายกิจการปั๊ม ESSO ในขณะที่ FDI ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตยังเพิ่มขึ้นในปี 2566
● ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เวียดนามและอินโดนีเซียยังเป็นแหล่งดึงดูด FDI ในภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญของอาเซียน ในขณะที่ไทยก็ยังพอมีศักยภาพในการดึงดูด FDI ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตอยู่บ้าง จึงควรเร่งนโยบายที่เอื้อแก่การลงทุนมากขึ้น
2499