WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCพาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนตั้งธุรกิจใหม่ เดือนก.ค.58 จำนวน 5,388 ราย ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

    นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม 2558 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 5,388 ราย  เพิ่มขึ้น 227  ราย คิดเป็น 4% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,161 ราย และลดลง 204 ราย คิดเป็น 4% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 5,592 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคม 2558 มีจำนวน 1,544 ราย

    มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 20,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 8,372 ล้านบาท คิดเป็น 70% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2558 ซึ่งมีจำนวน 11,905 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจำนวน 3,202 ล้านบาท คิดเป็น 19% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2557 ซึ่งมีจำนวน 17,075 ล้านบาท

    ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 569 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 303 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 141 ราย ขายส่งเครื่องจักร จำนวน 124 ราย และการติดตั้งไฟฟ้า จำนวน 109 ราย

    ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 614,968 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 19.61 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 433,577 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,101 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,290 ราย

  อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.58) มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้ง ทั้งสิ้น 36,945 ราย เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.- ก.ค.57) จำนวน 1,887 ราย คิดเป็น ร้อยละ 5 และคาดว่าตลอดทั้งปี 2558 จะมีนิติบุคคลจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจประมาณ 60,000 - 65,000 ราย โดยได้รับปัจจัยบวกที่เป็นแรงสนับสนุนจากแผนการลงทุนในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ เช่น โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนน ประกอบกับภาค  การท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับดัชนีการลงทุนภาคเอกชน เดือน มิ.ย.58 ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 2 อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การนำเข้าส่งออก และราคาสินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทโดยรวม

   สำหรับ เรื่องที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 นั้น โดยในเดือนกรกฎาคม 2558  มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 872 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ จำนวน 5,388 ราย หรือคิดเป็น 16% โดยแบ่งออกเป็น        

   - ส่วนกลาง 596 ราย คิดเป็น 11% โดยสำนักงานในส่วนกลางที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ) จำนวน 172 ราย รองลงมา สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 5 (บางนา) จำนวน 90 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 3 (รัชดาภิเษก) จำนวน 84 ราย

   - ส่วนภูมิภาค 276 ราย คิดเป็น 5% โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่รับจดทะเบียนข้ามเขต มากที่สุด คือ สพค.จังหวัดชลบุรี จำนวน 38 ราย รองลงมา สพค.จังหวัดนนทบุรี จำนวน 28 ราย  และ สพค.จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 25 ราย

    นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายังได้เปิดให้บริการโปรแกรมตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยสามารถค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนของนิติบุคคล รวมทั้งข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) โดยระบบจะแสดงผลเป็นภาษาไทย ซึ่งสามารถใช้งานผ่านระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้ใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 รวมทั้งสิ้น 575,577 ครั้ง โดยในเดือนกรกฎาคม 2558 มีการเข้าใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 53,534  ครั้ง คิดเป็น 10%

    อย่างไรก็ตาม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังคงส่งเสริมให้มีการใช้ e-Commerce เพื่อประกอบธุรกิจและขยายตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรมได้ออกเครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered) เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือ นิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้มีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 12,573 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (มิ.ย.58) 422 ราย คิดเป็น 3.5% ประกอบด้วยนิติบุคคล 3,354 ราย คิดเป็น 27% บุคคลธรรมดา 9,219 ราย คิดเป็น 73% และมีเว็บไซต์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 14,268 เว็บไซต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (มิ.ย.58) 457 เว็บไซต์ คิดเป็น 3% โดยธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ธุรกิจคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต จำนวน 2,472 เว็บไซต์ คิดเป็น 17%  2) ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 2,296 เว็บไซต์ คิดเป็น 16% และ 3) ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ จำนวน 1,652 เว็บไซต์ คิดเป็น 12% ซึ่งการได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ กรมได้ประสานขอความร่วมมือกับตลาดกลางออนไลน์ให้กำกับดูแลสมาชิกให้มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมาย เพราะหากปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีโทษปรับ และอาจถูกพิจารณางดให้บริการเข้าขายสินค้าในตลาดกลางด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นการขยายตัวของการซื้อขายทางออนไลน์ของไทยให้เติบโตในอัตราก้าวกระโดดเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ

    ปัจจุบัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการรับงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี XBRL มาสนับสนุนการให้บริการรับงบการเงินผ่านทางเว็บไซต์กรม www.dbd.go.th> เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” โดยสถิติผู้ใช้บริการจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 14,409 ราย มาแสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่ จำนวน 7,231 ราย และส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว จำนวน 2,029 ราย ซึ่งระบบนี้สามารถรองรับการนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้นิติบุคคลส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing กรมจึงได้ร่วมมือกับบริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) หรือ BOL ในการจัดทำฐานข้อมูลงบการเงินในรูปแบบ XBRL สำหรับนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2557 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นิติบุคคลที่จะนำส่งงบการเงินรอบปี 2558 เพียงแค่บันทึกงบการเงินเฉพาะปีล่าสุดปีเดียว โดยไม่ต้องบันทึกข้อมูลงบการเงินรอบปีก่อนหน้าอีก

   ทั้งนี้ นิติบุคคลที่จะส่งงบการเงินผ่านระบบ DBD e-Filing จะต้องยื่น คำขอรับ Username และ Password และเอกสารหลักฐานได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหน่วยบริการของกรมทุกสาขา ทั่วประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.dbd.go.th >เลือก “ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing)” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร.02-547-4376, 02-547-4390, 098-830-4376 หรือสายด่วน 1570 โทรสาร. 02-547-4372 และ e-Mail : efiling.training@gmail.com

    สุดท้ายนี้ กรมยังได้เปิดให้บริการใหม่อีกหนึ่งบริการ คือ การออกหนังสือรับรองนิติบุคคลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อย่างเต็มรูปแบบ โดยสถิติการใช้บริการจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2558 มีผู้ยื่นขอรับบริการทั้งสิ้น 1,496 คำขอ จำนวน 1,532 ฉบับ แบ่งเป็นส่วนกลาง 969 คำขอ 998 ฉบับ ส่วนภูมิภาค 527 คำขอ 534 ฉบับ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!