Details

Category: พาณิชย์

Published: Tuesday, 18 August 2015 22:34

Hits: 8954

พาณิชย์ ถกเอกชนเช็คผลกระทบหยวนอ่อน หามาตรการรับมือก่อนส่งออกทรุดยาว

    แนวหน้า : พาณิชย์ นัดภาคเอกชนหารือผลกระทบเงินหยวนอ่อนค่า แต่มั่นใจยังส่งผลดีต่อสินค้าไทย ด้านแบงก์ชาติยืนยันเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ยังไม่พบการเก็งกำไร

   ร้อยเอกสุวิพันธุ์ ดิษยมณฑล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะหารือร่วมกับภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากภาคการเงินมาร่วมประชุมด้วยเพื่อประเมินผลกระทบกรณีการลดค่าเงินหยวนของจีน และการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร แต่ในเบื้องต้นหากมองในแง่ส่งออกสินค้าไทยไปตลาดจีน น่าจะเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทยไปตลาดจีน เพราะหากจีนสามารถส่งออกสินค้าได้มากขึ้น จีนก็จะนำเข้าสินค้าไทยที่มีคุณภาพสูง นำไปผลิตเพื่อการส่งออก เพราะขณะนี้คุณภาพสินค้าไทย เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นผลดีต่อภาพรวมการส่งออกไทยไปตลาดจีน

   พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะยังคงเดินหน้าผลักดันการส่งออกอย่างเต็มที่ แม้จะมีการประเมินว่าปีนี้อาจติดลบ 3% ซึ่งการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้เพื่อประเมินผลกระทบจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลงและหาแนวทางออกร่วมกัน โดยในช่วงครึ่งปีหลัง กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าขยายตลาดส่งออกไปยังตลาดใหม่และผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ยังยืนยันว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง สถานะการส่งออกจะดีขึ้น รวมทั้งสถานการณ์ของสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะดีขึ้นโดยเฉพาะข้าว จากการที่กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับจีน ปากีสถาน และแอฟริกาใต้

   นายไตรรงค์ บุตรากาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบี กล่าวว่า นับตั้งแต่เงินบาทอ่อนค่าลงและตามด้วยการปรับลดค่าเงินหยวนของจีน ส่งผลให้ผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศหันมาทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มมากขึ้นประมาณ 20-30%เมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะต้องการป้องกันผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน ส่วนผู้ส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศ ยังทำประกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นไม่มากนัก

   ส่วนผลของการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนต่อการส่งออกไทยนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นผลกระทบชัดเจน คาดว่า จะเห็นผลกระทบชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า แต่ขึ้นอยู่กับคู่ค้าของผู้ส่งออกของไทยด้วยว่าค่าเงินเมื่อเทียบกับเงินบาทไทยเป็นอย่างไร จึงไม่สามารถตอบได้ชัดเจน แต่โดยภาพรวมแล้วประเทศไทยค้าขายกับประเทศคู่ค้าในกลุ่มเอเชียมากกว่าส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้ฟื้นตัวช้าในลักษณะกราฟตัว U อย่างไรก็ตาม คาดว่า เศรษฐกิจไทยในภาพรวม จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้จากการเดินหน้าลงทุนภาครัฐ

   นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือธปท.ยืนยันว่า การที่เงินหยวนอ่อนค่าลง และส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าตามไปด้วยนั้นเป็นไปตามเงินสกุลภูมิภาค เพราะใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่นอยู่แล้ว ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลง 7% และค่าความผัวนผวนอยู่ระดับกลาง เมื่อเทียบกับภูมิภาค ธปท.ยังคงติดตามสถานการณ์จีนใกล้ชิดต่อไปและจะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ฝืนทิศทางตลาด อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินบาทเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ธปท.จะเข้าไปดูแลซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวล รวมทั้งไม่พบการเก็งกำไรที่ผิดปกติแต่อย่างใด