Details

Category: พลังงาน

Published: Friday, 27 June 2014 07:21

Hits: 3033

เอ็กโก กรุ๊ป ขยายฐานการลงทุนในฟิลิปปินส์ต่อเนื่อง ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาด 630 เมกะวัตต์

     บริษัท ผลิตไฟฟ้า จากัด (มหาชน)หรือ  EGCO ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่แห่งแรกของไทย เดินหน้าขยายฐานการลงทุนในธุรกิจผลิตไฟฟ้าในประเทศฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเออีเอส คอร์เปอเรชั่น (เออีเอส) บริษัทพลังงานระดับโลกสัญชาติอเมริกัน โดยซื้อหุ้นทางอ้อมในโรงไฟฟ้าถ่านหิน 'มาซินลอค'(Masinloc) ขนาด 630 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดซัมบาเลส (Zambales) บนเกาะลูซอน

    นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวว่า “เอ็กโก กรุ๊ป ได้ลงนามในสัญญาเพื่อซื้อหุ้นโดยทางอ้อมของบริษัท มาซินลอค พาวเวอร์ พาร์ทเนอร์ จากัด หรือ เอ็มพีพีซีแอล (Masinloc Power Partners Co.Ltd. - MPPCL) ในสัดส่วนร้อยละ 40.95 จากบริษัท เออีเอส ฟิล อินเวสเม้นท์ จากัด (AES Phil Investment Pte.Ltd.,) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2557 โดยการซื้อขายหุ้นครั้งนี้มีมูลค่า 453 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 14,750 ล้านบาท และคาดว่าการซื้อขายหุ้นและการโอนหุ้นจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3ของปีนี้

    ทั้งนี้ หลังการซื้อขายหุ้น เออีเอสจะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 51 และบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation - IFC) ยังคงถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 8.05

    โรงไฟฟ้าถ่านหิน 'มาซินลอค'เดิมเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลฟิลิปปินส์ เริ่มเดินเครื่องตั้งแต่ปี 2541 และได้แปรรูปเป็นเอกชนภายใต้โครงการแปรรูปของรัฐบาลในปี 2551 โดยเออีเอสเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อโรงไฟฟ้าแห่งนี้ และได้ปรับปรุงโรงไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยมีการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าด้วยความปลอดภัย และมีความสัมพันธ์กับชุมชนที่ดีเยี่ยมมาโดยตลอด โรงไฟฟ้า “มาซินลอค” มีสัญญาจาหน่ายไฟฟ้าหลักกับมะนิลา อิเล็กทริค คัมปานี (Manila Electric Company - Meralco) ประมาณร้อยละ 70 ผู้จาหน่ายไฟฟ้ารายย่อย ประมาณร้อยละ 20 และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ประมาณร้อยละ 10 ของกาลังการผลิต

    นายสหัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “การซื้อหุ้นครั้งนี้นับเป็นการขยายฐานการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเอ็กโก กรุ๊ป ในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะสั้นในการดาเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อช่วยให้บริษัทรับรู้รายได้ทันที นอกจากนั้น พื้นที่ของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ยังมีศักยภาพที่จะขยายหรือเพิ่มหน่วยผลิตในอนาคต ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ ได้ ในระยะยาว”

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย