Details

Category: ยานยนต์

Published: Sunday, 26 July 2015 11:08

Hits: 3690

ญี่ปุ่นกังวลกำลังซื้อหดตัว สถาบันยานยนต์ปรับลดเป้าผลิตรถ 3 ล้านคัน

    แนวหน้า : 'จักรมณฑ์'เผยกำลังซื้อลด ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ 2-3 ราย ผลิตรถอีโคคาร์ไม่ถึง 1 แสนคัน ตามข้อกำหนดบีโอไอด้านสถาบันยานยนต์ ขยับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ให้ได้ 3 ล้านคัน ในปี 2562 จากเดิมปี 2560

     เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2558 นายมาซายาสุ โฮซูมิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือ เจโทร เข้าพบ นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เพื่อรายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นต่อเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรก

    รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่าประธานเจโทร รายงานว่า ภาพรวมความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2557 แม้ขณะนี้ไทยจะปกครองด้วยรัฐบาลทหาร แต่สถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพ และสามารถดำเนินโครงการส่วนใหญ่ได้ตามแผน ส่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้าออกไป ก็เชื่อว่าจะไม่กระทบความเชื่อมั่น เพราะมีการวางแผนงานที่ชัดเจนเอาไว้แล้ว

   สำหรับ ภาวะการผลิตรถยนต์ ในไทยปัจจุบันมีการปรับตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากที่ผ่านมากำลังซื้อในประเทศมีไม่มากนัก ค่ายรถยนต์ต่างๆจึงใช้วิธีการผลักดันการส่งออกรถยนต์ให้มากขึ้นเพื่อทดแทนกำลังซื้อในประเทศที่ลดลง และเพื่อรักษากำลังการผลิตให้อยู่ในสภาพเดิม ถือว่าสามารถทำได้เป็นอย่างดี ยกเว้นในส่วนของรถยนต์อีโคคาร์ 1 ที่มี 5 ค่ายรถยนต์เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย นิสสัน ซูซูกิ มิตซูบิชิ ฮอนด้า และโตโยต้า ซึ่งเงื่อนไขของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ได้กำหนดเงื่อนไขเพื่อรับสิทธิประโยชน์ว่าต้องผลิตรถยนต์ให้ได้ 1 แสนคันภายใน 5 ปี

     นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า จากสภาพตลาดในประเทศไม่เอื้ออำนวย และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้ขณะนี้มี 2-3 ค่าย ที่เข้าโครงการอีโคคาร์ 1 ขอยื่นผ่อนปรนต่อบีโอไอเนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไข คือผลิตให้ครบ 1 แสนคันได้ ส่วนบีโอไอจะผ่อนปรนหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าแต่ละค่ายรถยนต์ได้มีความพยายามเต็มที่ในการผลิตหรือยัง และได้ลงทุนก่อสร้างตัวโรงงานและไลน์การผลิตตามที่รัฐบาลกำหนดหรือไม่หากเป็นเหตุสุดวิสัย ก็สามารถผ่อนปรนได้ทั้งนี้คาดว่าจะมีทยอยขอผ่อนปรนตามมาอีกหลายค่าย

   นายวิชัย จิราธิยุต ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า โครงการอีโคคาร์ 1 ที่มีบริษัทรถยนต์เข้าร่วมโครงการ 5 รายนั้น คาดว่าน่าจะมีบางรายไม่สามารถผลิตรถยนต์อีโคคาร์ได้ 1 แสนคันตามข้อกำหนดของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เนื่องจากเศรษฐกิจโลกซบเซา อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้คาดว่า บีโอไอ จะพิจารณาลดหย่อนข้อกำหนดหากไม่สามารถผลิตได้ครบ 1 แสนคัน ในปีที่ครบกำหนด 2559 โดยสามารถนำยอดการผลิตในโครงการอีโคคาร์ 1 ไปรวมกับโครงการอีโคคาร์ 2 ได้ เช่น หากถึงกำหนดผลิตรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ 1 ได้ 8 หมื่นคัน ก็สามารถนำรถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ 2 มารวมอีก 2 หมื่นคันเป็น 1 แสนคันได้ และในปี 2562 ที่ถึงกำหนดอีโคคาร์ 2 ที่ต้องผลิตให้ได้ 1 แสนคันเช่นกัน รวมแล้วจะต้องผลิตให้ได้รวม 2 แสนคัน แต่สามารถเอารถยนต์จากโครงการอีโคคาร์ 1 และ 2 มารวมกันให้ได้ 2 แสนคัน

    “ผู้บริโภคต่างก็อยากได้รถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ 2 มากกว่า เพราะมีประสิทธิภาพสูงกว่ารถยนต์ในโครงการอีโคคาร์ 1 ดังนั้นบีโอไอ จึงเปิดช่องให้สามารถรวมยอดการผลิตระหว่างอีโคคาร์ 1 และ 2 ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถผลิตรถยนต์อีโคคาร์ได้ตามเป้าหมาย และประเทศชาติก็ไม่ได้เสียผลประโยชน์แต่อย่างใด” นายวิชัย กล่าว

    นายวิชัย กล่าวว่า เป้าหมายการผลิตรถยนต์ให้ได้ 3 ล้านคัน ในปี 2560 คาดว่าน่าจะเลื่อนเป้าหมายดังกล่าวไปเป็นปี 2562 เนื่องจากเป็นปีที่ครบกำหนดที่บริษัทรถยนต์ทั้ง 9 ราย ในโครงการอีโคคาร์ 2 จะต้องผลิตรถยนต์รถยนต์อีโคคาร์ได้ไม่ต่ำกว่าบริษัทละ 1 แสนคัน หรือจะมียอดรวมไม่ต่ำกว่า 9 แสนคัน ส่วนในปี 2560 คาดว่ายอดผลิตสูงสุดจะไม่เกิน 2.5 ล้านคัน