Details

Category: อสังหาริมทรัพย์ฯ

Published: Sunday, 22 November 2015 12:18

Hits: 2924

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตแนวโน้มเติบโต

    แนวหน้า : น.ส.อลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เนื่องจากปกติลูกค้าที่ซื้อบ้านพักตากอากาศในภูเก็ตจะให้ความสนใจบริเวณชายฝั่งด้านตะวันตก อย่างหาดกมลา หาดสุรินทร์ หาดบางเทา และหาดลายัน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์และลักซ์ชัวรี่ ซึ่งจากการสำรวจของแผนกวิจัยซีบีอาร์อี ประเทศไทย พบว่า 86% ของโครงการคอนโดมิเนียมมีการก่อสร้างแล้วเสร็จ และ 50% ของโครงการวิลล่าที่มีการก่อสร้างแล้วเสร็จนั้น ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งด้านตะวันตก

    สำหรับ เกณฑ์ในการตัดสินใจของผู้ซื้อบ้านพักตากอากาศ ได้แก่ ทำเลที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้หรืออยู่ติดชายหาด ความเป็นส่วนตัว ความสะดวกในการเดินทางไปยังสนามบิน และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบนอกจากนี้แบรนด์ก็นับเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญสำหรับโครงการในทำเลใหม่ เนื่องจากพบว่าการเชื่อมโยงโครงการกับแบรนด์โรงแรม ที่มีชื่อเสียง จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้ถึงมาตรฐานด้านการบริการและการดูแลโครงการ รวมถึงด้านการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ภายในโครงการ

   “ปัจจุบันภูเก็ตมีแนวโน้มไม่ต่างจากกรุงเทพฯ ที่ดินชั้นดีในย่านใจกลางธุรกิจหรือซีบีดีนั้นเริ่มหายาก ดังนั้นแนวโน้มด้านทำเลที่ตั้งจึงกำลังเปลี่ยนไปยังทำเลใหม่ๆ แปลงที่ดินที่สามารถมองเห็นวิวทะเลที่สวยงามและติดริมทะเลที่สามารถเดินทางเข้าออกได้ง่าย รวมถึงอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกนั้น เริ่มหายากมากขึ้น และหากมีแปลงที่ดินลักษณะดังกล่าวก็มักจะมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะด้านฝั่งตะวันตก นอกจากนี้ชายฝั่งด้านตะวันตกยังเริ่มมีความหนาแน่นและการจราจรที่ติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ” น.ส.อลิวัสสากล่าว

   อย่างไรก็ตาม ล่าสุดซีบีอาร์อีได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนในการบริหารงานขายโครงการ “บาบา บีช คลับ ภูเก็ต” ของบริษัทชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โครงการดังกล่าวประกอบด้วยโรงแรมที่เป็นโอเชี่ยนวิลล่า 16 หลัง และบ้านพักตากอากาศ ที่เป็นบีชฟร้อนท์วิลล่า ขนาด 5 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 1,300 ตารางเมตร จำนวน 6 หลัง พูลวิลล่า ขนาด 2 ห้องนอน 36 หลัง และอีก 104 หลัง เป็นส่วนของบาบา สวีทหรือพูลสวีท ขนาด 1 ห้องนอน และเพนท์เฮ้าส์ ขนาด 2 ห้องนอน มูลค่าโครงการรวม 3,000 ล้านบาท มีกำหนดสร้างเสร็จและเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 4 ปี 2559