WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1เซอรา ซ เคยว

เซอรา ซี-เคียว ปักธงผู้นำตลาดอาเซียน เจาะกลุ่ม CLMV คาดปีนี้โตไม่น้อยกว่า 15%

     บ้านเมือง : เซอรา ซี-เคียว ผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนว แบรนด์จระเข้ ประกาศศักยภาพอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมก้าวขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ตลาดอาเซียน และเอเชียด้วยนวัตกรรมสินค้า เดินหน้ารุกตลาดโลก และตลาดประชาคมอาเซียน เจาะกลุ่มประเทศ CLMV คาดว่าปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15%

      นายศุภพงษ์ เพชรสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซอรา ซี-เคียว จำกัด เปิดเผยว่า เซอรา ซี-เคียว เป็นบริษัทของคนไทย 100% ก่อตั้งและดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อแบรนด์ "จระเข้" ซึ่งเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนานจวบจนปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 24 ครองแชมป์ผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวเจ้าตลาดอันดับ 1 ของไทย

      ปัจจุบันผลิตภัณฑ์สินค้าของจระเข้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ติดตั้งและตกแต่งกระเบื้อง 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีซีเมนต์เพื่อแก้ปัญหาร้าวรั่วซึม 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์คัลเลอร์ซีเมนต์ ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างยอดขายให้กับเรามากที่สุด โดยเฉพาะกาวซีเมนต์จระเข้เขียว

      สำหรับ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรายังคงเป็นช่างและผู้รับเหมาเป็นส่วนใหญ่ แต่ในปี 2558 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน เห็นได้ชัดว่าการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างนั้นเจ้าของบ้านมีส่วนร่วมในการซื้อและตัดสินใจมากขึ้น เราจึงเพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ไปยังเจ้าของบ้านมากขึ้น

       ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า เรามีร้านค้าที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจทั่วประเทศกว่า 4,000 ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรดต่างๆ ดีลเลอร์ทั้งรายใหญ่รายเล็ก รวมไปถึงโครงการต่างๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ในด้านแผนงานการบริหารธุรกิจและการลงทุนในส่วนงานต่างๆ นั้น ในปี 2558 ที่ผ่านมาเราใช้งบประมาณลงทุนใน 2 ส่วนงานใหญ่ ได้แก่ 1.การขยายโรงงาน และการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาเสริมในสายงานการผลิต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มกำลังการผลิต ให้รวดเร็วมากขึ้นทันต่อความต้องการของตลาด และส่วนที่ 2 คือการลงทุนในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งในส่วนนี้เราตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เซอรา ซี-เคียวของเรามีการปรับปรุง พัฒนาด้านสิ่งแวดล้อมตลอดเวลา เราคำนึงถึงการมีสุขภาพที่ดีของพนักงาน และชุมชมรอบข้าง

       ล่าสุด เราจึงได้นำเทคโนโลยีลดฝุ่นมาใช้ในโรงงานและบริเวณโดยรอบ ส่วนในปีนี้ด้วยความเติบโตของบริษัทที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี การขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นทำให้เราต้องเพิ่มบุคลากรด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันเรามีพนักงานรวมกว่า 1,000 คน เราจึงวางแผนการลงทุนในการจัดตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัททั้งในและต่างประเทศ

     สำหรับ ทิศทางธุรกิจและการขยายตลาดในประเทศและต่างประเทศต่อจากนี้ ในประเทศเราจะเน้นรุกตลาดซ่อมสร้างมากขึ้น เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน ตลาดบ้านใหม่มีกำลังซื้อที่ถดถอยลง แต่เราเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์สินค้าจระเข้ จะเติบโตได้ในตลาดรีโนเวท (Renovate) ทั้งนี้เรายังคงจับตามองทิศทางและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการขยายตลาดของเรา นอกจากนี้ในปีนี้จะเน้นหนักในด้านการให้บริการที่เป็นเลิศมากยิ่งขึ้นทั้งก่อนและหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดทีมวิทยากรอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ให้ร้านค้าและตัวแทนจำหน่าย สนับสนุนเรื่องสื่อในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมการขายต่างๆ

    สำหรับ ต่างประเทศ ในปีนี้ถือได้ว่าเป็นการเริ่มเปิดตลาดประชาคมอาเซียนเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ ทิศทางธุรกิจและการขยายตลาดของเรา ก็คือการรุกตลาดโลก และตลาดประชาคม

    อาเซียนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ ขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งจะเน้นส่งออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้ามูลค่าสูง (High Value) เพื่อให้ได้เม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ประเทศไทย หลังวางรากฐานมาแล้วใน 8 ประเทศ โดยเราเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์แบรนด์จระเข้สู่ตลาดต่างประเทศตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งทำการส่งออกสู่ตลาดประชาคมอาเซียนใน 4 ประเทศหลักได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม หรือที่เรียกกันว่าประเทศในกลุ่ม CLMV ส่วนตลาดโลกก็ได้แก่ ประเทศจีน บังกลาเทศ แคนาดา และมัลดีฟส์ ส่งผลให้ปี 2558 ที่ผ่านมา เซอรา ซี-เคียว มีผลประกอบการสร้างยอดขายประมาณ 2,300 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 10% พร้อมประกาศศักยภาพแสดงวิสัยทัศน์อย่างยิ่งใหญ่ เตรียมก้าวขึ้นแท่นผู้นำตลาดกาวซีเมนต์และกาวยาแนวอันดับ 1 ของตลาดอาเซียนและเอเชียตามลำดับ ตั้งเป้าปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีที่แล้วอย่างแน่นอน

      นายศุภพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงภาพรวมตลาดอุปกรณ์เพื่องานก่อสร้างว่า ปีที่แล้วตลาดโดยรวมถือว่ามีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในเรื่องสงครามราคา และคาดว่าในปีนี้การแข่งขันจะสูงขึ้นไปอีก เนื่องจากมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ จากต่างประเทศเข้ามาแข่งขันในประเทศเราเพิ่มมากขึ้น ถ้ามองถึงการเติบโตของตลาดโดยรวม คาดว่าคงไม่แตกต่างจากปี 2558 เท่าไหร่นัก โดยผลประกอบการปี 58 เติบโตมากกว่า 10% โดยคาดว่าปีนี้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 15% ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศของเราเองด้วย ส่วนเรื่องคู่แข่งเรายังคงจับตามองคู่แข่งรายใหม่ๆ อย่างใกล้ชิด แต่ถึงอย่างไรเรายังเชื่อมั่นว่าจะยังรักษาแชมป์ความเป็นผู้นำในตลาดไว้ได้อย่างแน่นอน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!