WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

knightfrank Risineeไนท์แฟรงค์ฯ เผยราคาคอนโดฯซูเปอร์ไพร์ม-ไพร์ม ในกทม.ยังปรับสูงขึ้น เหตุมีในตลาดน้อย

     ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย เผยระดับราคาคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯ ยังคงไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีปริมาณอุปทานน้อย

    ผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่า  ตลาดคอนโดมิเนียมซุปเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯกำลังเป็นที่ต้องการมาก ด้วยปริมาณที่น้อยกว่า 5% จากจำนวนอุปทานคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯทั้งหมด ตลาดมียอดขายที่อยู่ในระดับดี  เนื่องจากมีที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯที่มีความสะดวกด้านระบบขนส่ง ง่ายต่อการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และด้วยปัญหาการขาดแคลนพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจในเขตกรุงเทพฯ ส่งผลให้อุปทานใหม่ๆในภาคตลาดนี้ ทำการปรับราคาขายได้สูงลิบหากเทียบกับราคาคอนโดมิเนียมระดับล่างในกรุงเทพฯ

    สำหรับ ราคายูนิตซูเปอร์ไพร์มเพิ่มขึ้นจาก 303,250 บาทต่อตร.ม.ในช่วงท้ายปี 2558 ปรับขึ้นไปที่ 319,095 บาทต่อตร.ม.ในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ในขณะเดียวกัน ราคาขายของคอนโดระดับไพร์มเพิ่มขึ้นจาก 226,350 บาทต่อตร.ม.ในปี  2558 ปรับขึ้นไปที่ 242,313 บาทต่อตร.ม. นอกจากนี้โครงการระดับไพร์มที่ยังไม่ได้เปิดตัว มีการคาดการณ์ว่าราคาขายโดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้น แม้ตลาดแสดงสัญญาณการชะลอตัวในปี 2559 ก็ตาม

  ตลาดซูเปอร์ไพร์มยังไม่มียูนิตใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดในช่วงนี้ ดังนั้นจึงมีเพียง 1,960 ยูนิตรวมจากทั้งหมด 10 โครงการ เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯมีที่ตั้งบริเวณริมแม่น้ำ เป็นโครงการล่าสุดในตลาดซูเปอร์ไพร์มที่เปิดตัวไปในครึ่งปีหลัง ปี 2558 มีจำนวน 146 ยูนิต ส่วนแบ่งทางตลาดที่แบ่งตามเขตที่ตั้ง มีปริมาณเท่าๆกันโดยย่านสุขุมวิทที่มีส่วนแบ่งสูงสุดอยู่ที่ 29% มีจำนวน 578 ยูนิตในระดับซูเปอร์ไพร์ม

   สำหรับตลาดระดับไพร์ม โครงการ KRAAM บนถนนสุขุมวิท ซอย 26 เป็นโครงการระดับไพร์มแห่งเดียวที่เปิดตัวไปในช่วงระยะเวลาเดียวกัน มี 126 ยูนิตเพิ่มเข้ามาในตลาดคอนโดมิเนียมไพร์มในกรุงเทพฯ ตลาดระดับไพร์มในปัจจุบันมีจำนวนอุปทานรวม  2,674 ยูนิต โดยย่านสาทรยังคงมีส่วนแบ่งตลาดใหญ่ที่สุดของอุปทานคอนโดมิเนียมไพร์ม คิดเป็น 37% และตามติดมาด้วยย่านสุขุมวิทที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วอยู่ที่ 28%

  ตลาดคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มมีความต้องการสะสมเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 มีประมาณ 69 ยูนิตที่ถูกครอบครอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปเร็วๆนี้ การซื้อ-ขายส่วนใหญ่ที่มีในช่วงนี้เป็นยูนิตที่ถูกนำกลับมาขายเข้าตลาดอีกครั้ง และเป็นยูนิตเก่าจากปี 2558 ที่ขายโดยผู้ซื้อที่ต้องการเก็งกำไรการลงทุนก่อนการแล้วเสร็จของโครงการและวันโอนยูนิตจริง ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรหรือไม่ เนื่องจากผู้ซื้อจำนวนมากในตลาดนี้ชี้แจงว่าเป็นการซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง อัตราการขายสะสมโดยรวมมีปริมาณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก  63.4% เมื่อหกเดือนก่อน โดยเพิ่มขึ้นไปที่ 66.9%

  สำหรับ ตลาดไพร์มมี 190 ยูนิตที่ถูกขายออกไปในช่วงนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสองโครงการที่พึ่งเปิดตัวไป ได้แก่ BEATNIQ บนถนนสุขุมวิท (ใกล้ซอย 32) และ KRAAM บนถนนสุขุมวิทซอย 26 มี 190 ยูนิตที่ถูกครอบครอง คิดเป็น  3.8% เพิ่มขึ้นของอัตราการขายสะสม เนื่องจากมีอุปทานใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาด ยอดขายของโครงการเก่าๆยังคงชะลอตัวอยู่ซึ่งเป็นเพราะปริมาณความต้องการในปี 2558 มีสูงมาก

  นางสาวริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ซื้อชาวต่างชาติที่สนใจคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสัดส่วนผู้ซื้อชาวต่างชาติโดยเฉลี่ย มีประมาณ  5-10% และในขณะนี้ เชื่อว่าตัวเลขอาจเพิ่มขึ้นไปที่ประมาณ  10-15%

    ผลวิจัยไนท์แฟรงค์ประเทศไทยคาด ภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มส่งผลกระทบต่อภาคตลาดอสังหาฯระดับไฮเอ็นในกรุงเทพฯ นักพัฒนาเริ่มชะลอการเปิดตัวโครงการไฮเอ็นใหม่ในขณะนี้ ที่ดินย่านไพร์มที่นักพัฒนาซื้อและเริ่มต้นพัฒนาไปแล้วบางส่วนหยุดชะงักไว้ ความเสี่ยงด้านอุปทานต่างๆ เช่น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงและภาวะฝืดเคือง ส่งผลให้การครอบครองยูนิตมีปริมาณน้อยลง ในขณะที่การเก็งกำไรยังคงมีอยู่สังเกตจากยูนิตที่ยังไม่แล้วเสร็จจำนวนมากถูกนำกลับมาขายในตลาดอีกครั้งอย่างไรก็ตาม ตลาดคอนโดมิเนียมซูเปอร์ไพร์มและไพร์มในกรุงเทพฯ ยังคงเติบโตกว่าตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวมในกรุงเทพฯ เพราะยังมีจำนวนอุปทานน้อย ในช่วงนี้ของปีจะมีโครงการไฮเอ็นด์หลายแห่งที่สร้างเสร็จ และประเด็นที่น่าสนใจคือที่จำนวนผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยด้วยตนเองจะมากกว่าผู้ซื้อเพื่อการลงทุน เช่น ปล่อยเช่า

BSP

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!