WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

1LPN31

เครือ LPN ปรับโมเดลธุรกิจก้าวสู่'บริบทใหม่แห่งความยั่งยืน'

     กลุ่ม LPN จัดทัพธุรกิจครั้งใหญ่ ก้าวสู่ 'บริบทใหม่แห่งความยั่งยืน' แบ่งกลุ่ม 2 ธุรกิจ LPN มุ่งตลาดกลาง-ล่างถึงบน ลุยเปิดใหม่ปีนี้ 12 ทำเลทอง พรสันติมุ่งตลาดแนวราบเพื่อกระจายฐานธุรกิจ LPP ชูจุดแข็งการบริหารชุมชน ลุยเปิดรับบริหารงานนอก LPC มุ่งสู่'Social Enterprise' LPS ปรับโมเดลธุรกิจจากบริหารงานก่อสร้างเป็นบริหารการให้บริการครบวงจรสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยหัวใจสำคัญของการปรับครั้งใหญ่นี้เพื่อสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน

   โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานคณะกรรมการบริหาร (CEO) บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) เปิดเผยว่า ในปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทได้ประสบอุปสรรคที่ส่งผลให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ด้วยสาเหตุจากทั้งปัจจัยภายใน คือ สินค้าค้างขาย (Inventory) และกลยุทธ์การเปิดโครงการทั้งขนาดและทำเล และปัจจัยภายนอก คือ หนี้สินครัวเรือนและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของกลุ่มลูกค้ากลางล่าง ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีของการเริ่มต้นวิสัยทัศน์รอบใหม่ บริษัทจึงได้กำหนดให้เป็น 'ปีแห่งการปรับ' หรือ 'YEAR OF SHIFT' ซึ่งจะเป็นการปรับทิศทางในการดำเนินงานของ LPN และ บริษัทในเครือทั้งหมด โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่มธุรกิจในการดำเนินงาน ได้แก่ 

กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) คือ

     1. บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN)

     2. บริษัท พรสันติ จำกัด (PST)

กลุ่มธุรกิจให้บริการ (Service Provider) คือ

     3. บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด (LPC)

     4. บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP)

     5. บริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) 

สำหรับ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) โดยนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่าในปี 2559 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประมาณ 8,500 ลบ. และรายได้จากการขายประมาณ 13,000 ลบ. ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะเพิ่มการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้ากลาง-บนมากขึ้น โดย 7 จาก 12 โครงการจะเป็นโครงการสำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลาง-บนมูลค่าโครงการประมาณ 16,000 ลบ. เจาะทำเลใจกลางเมือง หรือแหล่งที่อยู่อาศัยที่ยังมีความต้องการซื้อ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 20,000 ลบ. ซึ่งในวันเสาร์ที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเปิดขายใน 2 ทำเลเด่น คือ ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน และ ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 สร้างยอดขายสูงกว่า 1,700 ลบ. และในปีนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายระบายสินค้าพร้อมอยู่ให้ได้มากที่สุดโดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7,000 ลบ. ขณะเดียวกันบริษัทยังต้องเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดและปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ตราผลิตภัณฑ์ (Brand Image)ให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเป็นระดับกลางถึงบนอีกด้วย

      ด้าน บริษัท พรสันติ จำกัด (PST) โดยนายจรัญ เกษร กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ภายใต้แนวทางรองรับฐานลูกค้าลุมพินีและกระจายฐานธุรกิจของ LPN  ในปี 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายประมาณ 850 ลบ. และยอดขายประมาณ 1,400 ลบ. สำหรับปีนี้บริษัทมุ่งนโยบายที่จะเพิ่มรายได้ของโครงการแนวราบให้สูงขึ้นเพื่อทดแทนรายได้ของอาคารชุด ซึ่งในปี 2560 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 8 โครงการ โดยมีเป้าหมายยอดขายที่ 2,000 ลบ. และยอดรับรู้รายได้ที่ 1,500 ลบ. พร้อมพัฒนากระบวนการก่อสร้างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านคุณภาพ ต้นทุนและเวลาส่งมอบ สำหรับการพัฒนาศูนย์การค้าชุมชน ในปัจจุบันบริษัทมีศูนย์การค้าชุมชนที่บริหารทั้งหมด 5 แห่ง คือ ศูนย์การค้าชุมชนขนาดเล็ก โครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ วงศ์อมาตย์, ลุมพินี คอนโดทาวน์ พัทยาเหนือ-สุขุมวิท, ลุมพินี พาร์ค เพชรเกษม 98, ศูนย์การค้าชุมชน มิลล์ เพลส โพศรี จ.อุดรธานี และ มาร์เกต เพลส รังสิต-คลอง 1 ในโครงการ ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต-คลอง 1 รวมทั้งร้านค้าในชุมชนกว่า 300 ร้าน ที่ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตการอยู่อาศัยใน'ประชาคมลุมพินี'

กลุ่มธุรกิจให้บริการ บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด (LPC) โดยนางสาวสุรัสวดี ซื่อวาจา กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้ดำเนินธุรกิจตามนโยบาย CSR เพื่อช่วยเหลือสตรีด้อยโอกาสที่มีการศึกษาน้อยจนถึงไม่ได้รับการศึกษาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบค่าจ้างแรงงาน บางรายมีปัญหาทางครอบครัว ถูกสามีทอดทิ้งและต้องรับผิดชอบดูแลบุตร ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการหลังการขายโดยเฉพาะงานบริการ จึงได้จัดตั้งหน่วยงานบริการรักษาความสะอาดและงานบริการชุมชนให้กับชุมชนที่ LPN บริหาร เพื่อเปิดโอกาสให้สตรีด้อยโอกาสได้เข้ามาทำงานกับบริษัท LPC จึงเป็นธุรกิจที่ปันผลกำไรคืนสู่สังคม สามารถสร้างงานและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่สตรีด้อยโอกาสในชุมชนลุมพินีกว่า1,800 คนแล้ว สำหรับทิศทางของ LPC ปีนี้ คือการเปิดรับงานบริการภายนอกโครงการ LPN จำนวน 20 โครงการ โดยจะขยายกลุ่มพนักงานจากสตรีด้อยโอกาสไปสู่คนพิการและผู้สูงอายุ และการปรับแผนธุรกิจไปสู่วิสาหกิจเพื่อสังคมแบบเป็นทางการ (Social Enterprise)

บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) โดยนางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่าบริษัทได้ดูแลงานบริการหลังการขาย ภายใต้กลยุทธ์ 'ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย' ซึ่งเป็นจุดแข็งของแบรนด์ 'ลุมพินี'ตามคุณค่าการบริการหลังการส่งมอบ (FBLES+P) ซึ่งได้พัฒนาการบริหารชุมชนเฉพาะโครงการของ LPN มากว่า 20 ปี สำหรับในปี 2560 นี้บริษัทจะเพิ่มความเข้มข้นด้านกลยุทธ์ในการบริหารชุมชน จาก 'ชุมชนน่าอยู่' เป็น 'ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย' เพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงของการอยู่อาศัยให้กับชุมชน 'ลุมพินี' กว่า 130,000 ครอบครัว ใน 143 โครงการ ในขณะเดียวกัน บริษัทจะขยายงานบริหารชุมชนสู่ภายนอก โดยในเบื้องต้นตั้งเป้าหมายไว้ที่ 15 โครงการ รวมเป้าหมายรายได้ประมาณ 520 ลบ.

       สำหรับ บริษัท ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส จำกัด (LPS) ในปีนี้ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ ดร.พร วิรุฬห์รักษ์ แทนกรรมการผู้จัดการคนเดิมที่เกษียณอายุ ซึ่งการปรับเปลี่ยนธุรกิจของบริษัท LPS จะเป็นการ 'Transformation' ด้วยการขยายฐานธุรกิจจากเดิมที่เป็นผู้บริหารงานก่อสร้าง ให้บริการเฉพาะโครงการของ LPN ไปบริหาร

การให้บริการครบวงจรสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สู่ภายนอกเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำศักยภาพและจุดแข็งด้าน Product Value ที่มีอยู่มาสร้างประโยชน์สูงสุดแก่บริษัท

CEO กล่าวในตอนท้ายว่า “ปีแห่งการ SHIFT ของเครือบริษัท LPN ในครั้งนี้เป็นความท้าทายครั้งสำคัญ เป็นบริบทใหม่แห่งความยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะเป็นแนวทางสู่การเติบโตของบริษัทอย่างมั่นคงและยั่งยืนแล้ว ยังสร้างความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพของยอดขาย รายได้ และคุณค่าของผลิตภัณฑ์ บริการ ที่จะสะท้อนกลับไปยังผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของบริษัทในอนาคตอีกด้วย”

โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปี 2560 

แผนการดำเนินงาน บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์

โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปี 2560 จำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท 

โครงการ

จำนวน

(ยูนิต)

มูลค่าโครงการ
(ล้านบาท)
กำหนดเปิด กำหนดส่งมอบ
     1. ลุมพินี พาร์คบีช ชะอำ 2 124 400.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     2. ลุมพินี วิลล์ พระนั่งเกล้า-ริเวอร์วิว 907 990.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     3. ลุมพินี วิลล์ ราษฎ์บูรณะ-ริเวอร์วิว 2 700 910.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     4. ลุมพินี เพลส บางนา กม.3 609 990.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     5. ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์* 427 710.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     6. ลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน 636 2,400.00 ไตรมาส 1 ปี 2561
     7. ลุมพินี สวีท ดินแดง-วิภาวดี -             - ไตรมาส 2 ปี 2561
     8. ลุมพินี สวีท เกษตร-งามวงศ์วาน -             - ไตรมาส 2 ปี 2561

 

        *ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ อยู่ระหว่างดำเนินการซื้อที่ดิน 

แผนการดำเนินงาน บจก.พรสันติ

โครงการที่จะเปิดตัวใหม่ในปี 2560 จำนวน 8 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,500 ล้านบาท 

โครงการ

จำนวน

(ยูนิต)

มูลค่าโครงการ
(ล้านบาท)
กำหนดเปิด กำหนดส่งมอบ
     1. บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ รังสิต คลอง ๒ 268 440.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     2. บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า 400 1,000.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     3. บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ ท่าข้าม-พระราม ๒ 280 700.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     4. บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ บางใหญ่-บางบัวทอง 200 340.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     5. บ้านลุมพินี สวนหลวง ร.๙ (เฟส 3) 29 220.00 ไตรมาส 1 ไตรมาส 4
     6. บ้านลุมพินี ทาวน์วิลล์ เพิ่มสิน-วัชรพล (เฟส 2) 120 300.00 ไตรมาส 1 ปี 2561
     7-8. อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน 200 500.00 ไตรมาส 2 ปี 2561

 

ฝ่ายสื่อสารองค์กร LPN  โทร. (02) 285 5011 6 ต่อ #240 คุณแสงชัย, #495 คุณสุภาวดี, #427 คุณนัคมน, #462 ขนิษฐา

 

LPN วางเป้ารายได้ต่ำกว่าปีก่อนพร้อมปรับกลยุทธเน้นโครงการกลาง-บน,เปิดธุรกิจรับบริหารโครงการดึงพันธมิตรร่วม

    บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดให้มีการแถลงข่าวผลการดำเนินงานปี 59 และแผนการดำเนินงานปี 60 ของบริษัทและบริษัทย่อยในวันนี้ โดยในปี 59 บริษัทมีประมาณการยอดขาย 8,500 ล้านบาท และประมาณการรายได้ 13,000 บาท (งบการเงินยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี) และในปี 60 บริษัทมีประมาณการยอดขาย 20,000 ล้านบาท และประมาณการรายได้ 10,000 ล้านบาท

      นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ LPN เปิดเผยว่า แผนการเปิดโครงการในปีนี้บริษัทจะเพิ่มการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองต่อกลุ่มลูกค้ากลาง-บนมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการระดับกลาง-ล่า โดยมีแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ทั่งหมด 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมทั้งหมด โดยมีโครงการที่เป็นกลุ่มระดับกลาง-บนจำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการ 1.6 หมื่นล้านบาท

      ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการลุมพินี สวีท เพชรบุรี-มักกะสัน มูลค่า 2.4 พันล้านบาท และโครงการลุมพีนี เพลส บางนา กม.3 มูลค่า 990 ล้านบาท ซึ่งการเปิดขายได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้มูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ของบริษัทล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท จากสิ้นปี 59 อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท

      ส่วนรายได้ไนปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายไว้มี่ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายรายได้ที่ลดลงจากปีก่อนราว 20% ซึ่งในปี 59 บริษัทคาดว่ามีรายได้อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งรายได้ที่ลดลงในปี 60 ถือเป็นแนวโน้มรายได้ที่ลดลงเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันตั้งแต่ปี 58

      นายโอภาส กล่าวว่า การที่แนวโน้มรายได้ของบริษัทลดลงเป็นเพราะการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทที่จะหันมาเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนมากขึ้น หลังจากแนวโน้มของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัทซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และมีหนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ไนระดับสูงได้รับผลกระทบเรื่องความสามารถในการกู้ยืม ทำให้มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในปี 59 จากปี 58 ที่ 10% ซึ่งส่งผลกระทบในด้านรายได้ของบริษัท เพราะเกิดปัญหาการกู้สินเชื่อไม่ผ่านและการยกเลิกการจองเพิ่มขึ้น

       การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานในปีนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไปสู่กลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บนมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงของการรับรู้รายได้ในอนาคต ประกอบกับ เน้นการระบายสต็อกพร้อมขายเพื่อให้กลับมาเป็นรายได้ของบริษัท ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายยอดขายจากการระบายสต็อกพร้อมขายในปีนี้อยู่ที่ 7 พันล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายในปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดขายอีก 1.3 หมื่นล้านบาท จะมาจากยอดขายการเปิดโครงการใหม่

       "2-3 ปีที่ผ่านมามีปัญหาความเสี่ยงหนี้ครัวเรือนและภาวะเศรษฐกิจชะลอ เราก็เจอผมปัญหานี้ด้วยเพราะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราซึ่งเป็นลูกค้านะดับกลาง-ล่าง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็กระทบรายได้และยอดขายของเรา เราจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ให้สอดคล้องกับภาวะ จากเดิมที่เรายืนยัดพัฒนาโครงการตอบโจทย์ลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ซึ่งการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานใหม่ของเราจะต้องปรับเปลี่ยน Brand Image ให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บนด้วย และหน้าที่ผมตอนนี้ก็ต้องเดินหน้า Clearance Stock ที่มีอยู่ให้สดลงเพื่อสร้างรายไดิให้กับบริษัทตามเป้าหมายรายได้ปีนี้ 1 หมื่นล้านบาท แม้ว่ารายได้จะลดลงแต่จะมีความยั่งยืนในอนาคต และยังให้กำไรที่ดี ส่วนอีกหน้าที่ของผมคือการสร้าง Backlog ใหม่ และทำให้มีรายได้กลับมาในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า"นายโอภาส กล่าว

         นอกจากนี้ บริษัทจะมีการเปิดตัว ผศ.พร วิรุฬห์รักษ์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บจก. ลุมพินี โปรเจค มาเนจเมนท์ เซอร์วิส (LPS) คนใหม่

         ทั้งนั้ LPN แจ้งความคืบหน้าในเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจของ LPS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มบริษัท LPN. โดยบริษัทได้พิจารณาปรับเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นใน LPS ลดลงเหลือในอัตรา 20% จากเดิมบริษัทถือหุ้น 99.93% และบริษัทได้พิจารณาปรับรูปแบบของการทาธุรกิจของ LPS จากเดิมดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการบริหารโครงการ (Project Management Consultancy) และรับเฉพาะงานบริหารโครงการภายในกลุ่มบริษัท LPN ไปเป็น บริษัทที่ให้บริการด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Development Service Provider) ให้กับโครงการทั้งที่พัฒนาโดยบริษัทและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่น ซึ่งเป็นการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบันและช่วยให้เกิดคล่องตัวในการดำเนินงาน รวมทั้งเป็นการขยายธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้น

        การปรับเปลี่ยนโครงสร้างในครั้งนี้ บริษัทมีแผนในการเจรจาทาบทามบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์บางแห่งและบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ LPN รวมถึงอาจพิจารณาในเรื่องการเพิ่มทุนใน LPS ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทาบทามและเจรจา ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นอีกครั้ง

       อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!