ขออนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 10 January 2016 20:34
- Hits: 4851
ขออนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน
เรื่อง ขออนุมัติการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดนว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการภายใต้โครงการดัดแปรสภาพอากาศโดยเทคโนโลยีฝนหลวง
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติให้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงคมนาคม รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการภายใต้โครงการดัดแปรสภาพอากาศโดยเทคโนโลยีฝนหลวง
2. เห็นชอบให้กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นหน่วยงานบริหารโครงการ (Executive Agency) รับผิดชอบในการจัดตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการ
3. อนุมัติในหลักการว่า ก่อนที่จะลงนาม หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขบันทึกความเข้าใจในประเด็นที่ไม่ใช่หลักการสำคัญ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก
4. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายเป็นผู้มีอำนาจลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
5. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้มีอำนาจลงนาม
สาระสำคัญของเรื่อง
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดกรอบการทำงานร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน เช่น ขอบเขตความร่วมมือ ความรับผิดชอบของคณะกรรมการร่วมเพื่อขับเคลื่อนโครงการสิทธิและหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญ เอกสิทธิ์การยกเว้นและสิทธิประโยชน์ สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา การรักษาความลับ การระงับข้อพิพาท และการแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งนี้ ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จะมีผลตั้งแต่วันที่ลงนาม จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะขอยกเลิกเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าเป็นเวลา 3 เดือน และบันทึกความเข้าใจฯ จะลงนามในต้นฉบับ 3 ชุด ในภาษาไทย ภาษาอารบิก และภาษาอังกฤษ โดยทุกฉบับมีความถูกต้องเท่าเทียมกัน ในกรณีที่มีความแตกต่างในการตีความ ให้ใช้ฉบับภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดทำบันทึกความเข้าใจฯ จะช่วยเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในระดับรัฐบาลและระดับประชาชนของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีในการเพิ่มบทบาทของไทยในฐานะประเทศผู้ให้ความช่วยเหลือและเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือนวัตกรรมที่ได้ระหว่างหรือหลังจากปฏิบัติการตามบันทึกความเข้าใจฯ นอกจากนี้การดำเนินการตามความร่วมมือนี้จะเป็นช่องทางให้ไทยได้ขยายความสัมพันธ์กับประเทศในแถบภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งจะเป็นช่องทางในการกระจายสินค้าและตลาดใหม่ของภาคธุรกิจไทย
สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ เป็นการกำหนดกรอบความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศทั้งสองในโครงการการดัดแปรสภาพอากาศโดยเทคโนโลยีฝนหลวง โดยกำหนดรายละเอียดของโครงการฯ และแบ่งความรับผิดชอบของภาคีแต่ละฝ่าย ร่างบันทึกความเข้าใจฯ จึงไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ในแง่การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ได้จัดทำขึ้นในระดับรัฐบาลโดยมีรูปแบบและถ้อยคำที่แสดงเจตนาที่จะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับกฎหมายระหว่างประเทศแก่คู่กรณี จึงเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนลงนาม
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 มกราคม 2559
