บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน5-9-14

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 05 September 2014 15:36; Hits: 2151

อย่าลืม!...กดไลน์-แชร์กันด้วยนะครับ

บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

SET จะพักฐานรอปัจจัยใหม่
แนวโน้ม วันนี้คาด SET เคลื่อนไหวไร้ทิศทางในกรอบ 1570-1585 จุดเพื่อรอปัจจัยใหม่ (1) ผิดหวังที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวาน ไม่ได้ออกมาตรการอัดฉีดเงินขนาดใหญ่ให้กับธ.กลางในยุโรปโดยตรงเหมือนกับที่ตลาดคาดการณ์ มีเพียงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงนโยบายเสริมสภาพคล่องด้วยการจะเข้าซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันจากภาคเอกชนในเดือนต.ค. (2) นักลงทุนบางส่วนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนส.ค.คืนนี้หากออกมามากกว่าคาดที่ 2.2 แสนตำแหน่งความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะกลับมาอีกครั้ง (3) แรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารก่อนขึ้น XD สัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามเชื่อ SET ยังมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบ 1600 จุด ในระดับ 1-2สัปดาห์จากการปรับลดดอกเบี้ยในยุโรปจะมีเงินไหลเข้ามาเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยงใน Emerging market ระยะถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน รอซื้อเมื่อราคาพักตัว เพื่อขายสัปดาห์หน้า
(1) Top Daily Pick : TUF (การเข้าซื้อกิจการ MerAlliance ผู้ผลิตปลาแซลมอนในยุโรปที่มียอดขายต่อปีราว US$220 ล้าน หรือ 5% ของ TUF ช่วยเพิ่มฐานกำไรและขยายฐานตลาดระยะยาว ประเมินจากขนาดรายการต่ำกว่า 2% ของสินทรัพย์ TUF ราคาซื้อน่าจะตกที่ราว 0.3 เท่าของยอดขายถือว่าซื้อได้ถูกเมื่อเทียบกับราคาตลาดของ TUF ที่ราว 0.7 เท่าของยอดขาย) และ HOTPOT (เราปรับมูลค่าเหมาะสมขึ้น 12% และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนศักยภาพในการเติบโตหลังปี 57 จากแผนการเปิดสาขาใหม่ และปิดสาขาเดิมที่ไม่ทำกำไร)
(2) Technical Pick : IVL TSR TUF SUPER BGT
(3) Theme Play : กลุ่มขนส่ง/ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW) ได้ประโยชน์จากการยกเลิกกฎอัยการศึก/มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว กลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ (CK ITD STEC) โครงการโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่กลับมาพิจารณาอีกครั้ง สำหรับกลุ่มอาหาร/อิเล็กทรอนิกส์ (CPF TUF DELTA HANA SVI) ยอดขายเร่งตัวช่วง 2H57 ตามปัจจัยฤดูกาล กลุ่มทีวีดิจิทัล (WORK) ได้ประโยชน์เรื่องจากคูปองกลางเดือน ต.ค.นี้

กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน รอซื้อเมื่อราคาพักตัว เพื่อขายสัปดาห์หน้า
(1)Top Daily Pick : TUF (การเข้าซื้อกิจการ MerAlliance ผู้ผลิตปลาแซลมอนในยุโรปที่มียอดขายต่อปีราว US$220 ล้าน หรือ 5% ของ TUF ช่วยเพิ่มฐานกำไรและขยายฐานตลาดระยะยาว ประเมินจากขนาดรายการต่ำกว่า 2% ของสินทรัพย์ TUF ราคาซื้อน่าจะตกที่ราว 0.3 เท่าของยอดขายถือว่าซื้อได้ถูกเมื่อเทียบกับราคาตลาดของ TUF ที่ราว 0.7 เท่าของยอดขาย) และ HOTPOT (เราปรับมูลค่าเหมาะสมขึ้น 12% และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนศักยภาพในการเติบโตหลังปี 57 จากแผนการเปิดสาขาใหม่ และปิดสาขาเดิมที่ไม่ทำกำไร)

(2)Technical Pick : IVL TSR TUF SUPER BGT

(3)Theme Play : กลุ่มขนส่ง/ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW) ได้ประโยชน์จากการยกเลิกกฎอัยการศึก/มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว กลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ (CK ITD STEC) โครงการโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่กลับมาพิจารณาอีกครั้ง สำหรับกลุ่มอาหาร/อิเล็กทรอนิกส์ (CPF TUF DELTA HANA SVI) ยอดขายเร่งตัวช่วง 2H57 ตามปัจจัยฤดูกาล กลุ่มทีวีดิจิทัล (WORK) ได้ประโยชน์เรื่องจากคูปองกลางเดือน ต.ค.นี้
ระยะ 1-2 สัปดาห์
Trading AAV BANPU CPF MAJOR PSL SRICHA WORK
ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
Growth SAMART SEAFCO TUF TVD WORK
Dividend INTUCH BBL MC MODERN PTTEP PTTGC SRICHA
Quant AJD BLA BTS EFORL TMB TRUE

รายงานวันนี้
Update : HANA (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 48 บาท) แปลงโฉมเป็นหุ้นเติบโต
Update : HOTPOT (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 3.80 บาท) ราคาหุ้นไม่สะท้อนการเติบโต
Update : PTTEP (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 187 บาท) แหล่งปิโตรเลียมใหม่หนุนยอดขายครึ่งปีหลัง
Comment : กลุ่มที่อยู่อาศัย (น้ำหนักการลงทุน / เท่าตลาด) ยอดขายเดือน ส.ค.เติบโต 39%MoM เลือก LH SPALI QH PS เป็น Top Pick
Update : กลุ่มสื่อสาร (น้ำหนักการลงทุน / มากกว่าตลาด) ความเสี่ยงจากรายการนอกงบการเงิน เลือก ADVANC DTAC เป็น Top Pick

Fundamental Talk
ทยอยขายหุ้นกลุ่มธนาคารได้แล้ว
แม้ความคาดหวังเชิงบวกต่อการมาตรการการเงินผ่อนคลายของยุโรปจะสนับสนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุนควรใช้เป็นจังหวะทยอยขายหุ้นกลุ่มธนาคาร ดัชนีกลุ่มธนาคารกำลังทดสอบแนวต้านสำคัญทางเทคนิคบริเวณ 61.8% Fibonacci ซึ่งเป็น Golden Ratio ที่นักวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้เป็นเครื่องมือประเมินแนวรับ/ต้านตามธรรมชาติ (ได้มาจากการสังเกตเห็นสัดส่วนที่ปรากฎในธรรมชาติไม่ว่ากลีบดอกไม้ ก้นหอย ปีกผีเสื้อ ใยแมงมุมและอื่นๆอีกมากมาย)
ที่จริงเรามิได้สนใจแนวต้านทางเทคนิคแต่อย่างใด เพียงแต่ระดับดังกล่าวดัชนีกลุ่มธนาคารจะซื้อขายที่ 1.9x P/BV (1.9 เท่าของมูลค่าทางบัญชี) ซึ่งเรามองว่าไม่ถูกเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน และแพงกว่าธนาคารในเอเซียฯที่ซื้อขายเฉลี่ยเพียง 1.2 เท่า นับตั้งแต่ปี 2554 ดัชนีกลุ่มธนาคารขึ้นมาทดสอบบริเวณนี้ถึง 9 ครั้งและมีเพียงครั้งเดียวคือปี 2555 ที่สามารถผ่านขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 2.3 เท่า แต่ปีนั้นกลุ่มธนาคารบันทึกกำไรเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 29% ขณะที่ 4 ครั้งที่ไม่ผ่าน ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดกว่า 14 - 28% ก่อนที่จะกลับสู่ทิศทางขาขึ้น แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตอาจไม่สามารถในการทำนายอนาคตได้ แต่ปัจจัยแวดล้อมในปัจจุบันอาจสามารถเปรียบเทียบกับปี 2555 ได้
ปัจจัยพื้นฐานกลุ่มธนาคารไม่เอื้อต่อการเติบโตกำไรในอัตราเร็วเทียบเท่าอดีต ผลจากการชะลอการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยจากภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและภาวะหนี้เสียที่เริ่มก่อตัวขึ้น, กำลังการบริโภคที่ลดลงอันเนื่องมาจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจประสบปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งความสามารถการแข่งขันภาคส่งออกที่ลดลง ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลก และอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคโรงงานยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 50-60% กอปรกับสภาพคล่องส่วนเกินในตลาดการเงินโลกหลังสิ้นสุดการทำ QE ของเฟดในเดือนต.ค. นี้จะลดลงมากเมื่อเทียบกับปี 55 โอกาสที่นักลงทุนจะยอมซื้อหุ้นแพงเทียบเท่าระดับดังกล่าวมีน้อย
เรามองว่า BBL มีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรต่ำกว่ากลุ่มเนื่องจากเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่ถูกสุดในแง่ P/BV (แค่ 1.2 เท่า)

Smart Port Note
TUF ซื้อกิจการเมอร์อไลอันซ์ ผู้ผลิตแซลมอนรมควันชั้นนำของยุโรป ส่งผลให้ TUF เพิ่มศักยภาพทางการตลาดจากความเชี่ยวชาญของเมอร์อไลอันซ์ รวมไปถึงขยายการเติบโตด้านรายได้ให้แข็งแกร่งขึ้นในธุรกิจอาหารประเภทแช่เย็นในยุโรป (รายได้ของกลุ่ม TUF เพิ่มขึ้นอีก 5-6% )
BTS ซื้อหุ้นคืนภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 6 พันล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนประมาณ 5% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้ว กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อคืนตั้งแต่ วันที่ 25/08/57 – 24/02/58
TRUE หุ้นเพิ่มทุนเข้าซื้อ-ขายวันแรก 10/09/2557
AJD มูลค่าเหมาะสมอยู่ในระหว่างทบทวนประมาณการ
AJD ติด Cash Balance ระหว่าง 13/08/20147 – 19/09/2014