- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 September 2014 16:14
- Hits: 1888
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'Sim Trade'
SET วันก่อนมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จากภาพรวมที่ขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่น ลดความร้อนแรงของ Fund Flow โดยนักลงทุนยังคงจับตาการประชุมครม. นัดแรกที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ SET ปิดทรงตัวที่ 1,584.77 จุด (+0.45 จุด) vol 4.7 หมื่นลบ.
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) Moody ประเมินอันดับความน่าเชื่อถือของภาคธนาคารไทยมีเสถียรภาพดีขึ้น ภายใต้ภาวะนโยบายการเงินกับการคลังผ่อนคลาย คาดหมายการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ที่ 7%
(+) Fund Flow ต่างชาติมี Net Buy ต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 มูลค่า 1.4 พันล้านบาท รวมซื้อติดต่อกัน 6 วันทำการ มูลค่ารวม 7.9 พันล้านบาท
(-) แนวโน้มค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการคาดหมายว่า FED อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด กดดันความต้องการสินทรัพยเสี่ยง
(-) ความวิตกกังวลว่าสก็อตแลนด์อาจแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ในการลงมติในวันที่ 18 กันยายนนี้ ซึ่งจะมีผลต่ออันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษ และความเสียงของการดำเนินนโยบายการเงิน
(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีน และการรายงานปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียที่เพิ่มขึ้น
(-) ภาพรวมตลาดที่ขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่น เปิดโอกาสให้เกิดแรงขายทำกำไรกดดันดัชนี
(+/-) ปัญหาการเมืองในยูเครนที่คลีคลายลง ส่งผลให้ยุโรปดำเนินการเลื่อนการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียออกไป
(+/-) ปริมาณการซื้อขายที่มีแนวโน้มลดลงจากภาพรวมที่ขาดปัจจัยที่โดดเด่น
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การประชุมครม นัดแรกวันที่ 9 กันยายน ติดตามความคืบหน้าการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกในบางจังหวัด และการดำเนินแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ การแถลงนโยบายรัฐบาลในวันที่ 12 กันยายน
* การประชุม BOI นัดสุดท้ายของคสช ก่อนส่งต่อให้รัฐบาล จับตาโครงการ Echo Car Phase และโครงการที่รออนุมติกว่า 5 หมื่นล้านบาท
กลยุทธ์การลงทุน “รอดูการประชุม ครม”
ประเมินแนวโน้มดัชนีมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จากภาพรวมต่างประเทศที่ขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่น โดยนักลงทุนยังคงรอดูว่าการประชุมครม. ในวันนี้ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนได้หรือไม่ จากนโยบายเศรษฐกิจ และการคาดหมายการยกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ยังคงเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากนโยบายภาครัฐ ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม ท่องเที่ยว เป็นหลัก และหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลดีจากสินเชื่อที่ขยายตัว
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
MAJOR ราคาปิด 22.90 บาท ราคาพื้นฐานที่ 28 บาท
* คาดรายได้ 2014 ที่ 5.1 พันลบ. (+25%YoY) และกำไรที่ 1.2 พันลบ. (+18% YoY) ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและขยายจำนวนโรงขึ้นอีก 36 โรงเป็น 515 โรง และธุรกิจเกี่ยวเนื่องขายอาหารเครืองดื่ม และโฆษณาเติบโตขึ้น
* ตั้งเป้าขยายโรงภาพยนต์สู่ 600 โรงในปี 2015 ตามการขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าและ Hypermarket
CPN ราคาปิด 47 บาท ราคาพื้นฐาน 57.60 บาท
* 2H14 คาดบุ๊กกำไรพิเศษ 2 พันลบ. จากการนำศูนย์ฯเชียงใหม่แอร์พอร์ทขาย เข้ากองทุน CPNRF มูลค่า 1 หมื่นลบ ปี 2557 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ สมุย ศาลายา
* คาดกำไรปี 2014 ที่ 6.8 พันลบ. (+8%YoY) ตามการขยายสาขา โดยรายได้เติบโตขึ้นทุกหน่วยธุรกิจ เช่น การให้เช่า โรงแรม อาหารและเครื่องดื่ม
* ปี 2015 มีแผนเปิด 3 สาขา ได้แก่ เวสต์เกต . อีสท์ วิลล์ และระยอง
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ