Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 15 September 2014 16:37

Hits: 2037

บล.เคเคเทรด : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

SET จะไร้ทิศทางรอผลประชุมเฟด
SET View
      แนวโน้ม วันนี้คาด SET จะแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบ 1570-1590 จุด เพื่อสร้างฐาน (1) นักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูถ้อยแถลงของเฟดหลังการประชุม FOMC คืนวันพุธที่ 17 นี้ (2) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีที่ยังปรับสูงต่อเนื่องมาที่ 2.61% สูงสุดในรอบเก้าสัปดาห์เป็นสัญญาณเตือนถึงสภาพคล่องส่วนเกินที่ลดลง จะกดดันจิตวิทยาการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง (3) ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ยังลดลงมาที่ US$95 ต่อบาร์เรลต่ำสุดในรอบ 27 เดือน ยังเป็นปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามหาก SET ปรับลงมายังคาดมีแรงรับจากความคาดหวังเชิงบวกของนักลงทุนรายย่อยต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่รัฐบาลใหม่จะเริ่มดำเนินการหลังแถลงนโยบายไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
        กลยุทธ์การลงทุน ระยะ 1-2 วัน ดูแนวรับที่บริเวณ 1570 จุด เน้นขึ้นขายลงซื้อ
       (1) Top Daily Pick : JAS (ราคาหุ้นสะท้อนกรณีพิพาทกับ TT&T ไปแล้ว ขณะที่ผลประกอบการ 2H57 มีแนวโน้มดีกว่าคาด มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ) SVI (ปรับเพิ่มมูลค่าเหมาะสมขึ้น 11% สะท้อนความสามารถในการทำกำไรดีกว่ามุมมองเดิม คาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องใน 3Q57-4Q57)
(2) Technical Pick : TGPRO SUPER EMC ITD KBANK
(3) Theme Play : กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ (BBL KBANK SCB) คาดการรีบาวน์ทางเทคนิค กลุ่มที่เราให้คำแนะนำ “ซื้อ” และมี upside มากกว่า 20% จากมูลค่าเหมาะสม (TVD RS KTIS KAMART HOTPOT HANA) กลุ่มสื่อสารบางตัวที่ laggard และมี Upside สูงกว่ากลุ่ม (INTUCH THCOM) กลุ่มนิคมและชิ้นส่วนรถยนต์ (HEMRAJ AH SAT) ได้ประโยชน์จากมาตรการเร่งอนุมัติส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะโครงการอีโคคาร์ 2 กลุ่มขนส่งและท่องเที่ยว (AOT ERW) ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

ระยะ 1-2 สัปดาห์
??Trading KTIS M RS SRICHA SYMC TOP WORK
??Add: RS SYMC Delete: AMATA BANPU

ระยะ 3- 6 เดือนขึ้นไป
Growth SAMART SEAFCO TUF TVD WORK
Dividend BBL INTUCH MC MODERN PTTEP PTTGC SRICHA
Quant BTS EGCO GFPT MODERN STANLY TOG

รายงานวันนี้
Update : JAS (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 8.15 บาท) การฟ้องร้องยังมีโอกาสเกิดขึ้นอีก
Update : SVI (ซื้อ / มูลค่าเหมาะสม 5.90 บาท) ขยายไลน์การผลิตรองรับการเติบโต

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ (15-19 กันยายน)
       •คาด SET มีโอกาสแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานในกรอบ 1560 -1600 จุด ด้วยปัจจัย (1) คาดนักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอผลการประชุม FOMC ในวันที่ 16-17 นี้ แม้คาดว่าจะมีการลดวงเงินการทำ QE ลงอีก US$1 หมื่นล้านต่อเดือนเหลือเพียง US$1.5 หมื่นล้าน ก่อนที่จะยุติการทำ QE ในการประชุมครั้งสุดท้ายปลายเดือนต.ค. แต่เนื่องจากการประชุมครั้งนี้เฟดจะมีการทบทวนประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจและมีแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชน ข้อมูลที่ได้จากทางเฟดอาจก่อให้เกิดความคาดหวังทั้งบวกและลบต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน (2) เป็นสัปดาห์แรกที่รัฐบาลใหม่จะเริ่มทำงานหลังแถลงนโยบายไปเมื่อศุกร์ที่แล้ว คาดหวังการออกมาตรการเศรษฐกิจระยะสั้นตามที่แถลงไว้ อาทิมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน

       •ปัจจัยเสี่ยง (1) Valuation ของ SET ปัจจุบันซื้อขายที่ 16.9x P/E’57 ไม่ถูกเมื่อเทียบกับค่ากลางที่เคยซื้อขายปี 56 เพียง 15x (2) กลุ่มธนาคารแม้มีโอกาสรีบาวน์ทางเทคนิค แต่มีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1.9x P/BV การรีบาวน์จะไปได้ไม่ไกล (3) ราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในทิศทางขาลงยังเป็นปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน (4) กลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือยังมีเรื่องการประมูล 4G และกรณีพิพาทกับ TOT และ CAT เรื่องการแปลงสัญญาสัมปทานเป็นปัจจัยกดดันการลงทุน

       •กลยุทธ์การลงทุน เน้นชะลอการลงทุนเพื่อรอดูถ้อยแถลงของเฟด เว้นแต่มีแรงขายตกใจจน SET ปรับลดลงบริเวณแนวรับ (1560-1570 จุด) จะเป็นจังหวะเข้าลงทุนระยะสั้น (1) กลุ่มที่เราให้คำแนะนำ “ซื้อ” และมี upside มากกว่า 20% จากมูลค่าเหมาะสม (MFEC TVD MC RS SRICHA SIM PTTGC KTIS KAMART HOTPOT BANPU HANA) (2) กลุ่มสื่อสารบางตัวที่ laggard และมี Upside สูงกว่ากลุ่ม (INTUCH THCOM) (3) กลุ่มนิคมและชิ้นส่วนรถยนต์ (AMATA HEMRAJ AH SAT STANLY) ได้ประโยชน์จากมาตรการเร่งอนุมัติส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะโครงการอีโคคาร์ (4) กลุ่มขนส่งและท่องเที่ยว (AAV AOT CENTEL ERW MINT) ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว

Smart Port Note
MODERN ชี้แจงข้อเท็จจริงที่มีข่าวลงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจเกี่ยวกับคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2557 จะอยู่ที่ 833 ล้านบาทนั้น บริษัทได้คำนวณตัวเลขจากการประมาณการยอดการจัดส่งสินค้าที่บริษัทสามารถจัดส่งได้ หักกับค่าใช้จ่ายที่มีอยู่ประจำ โดยรวมกำไรที่ได้จากการขายหุ้น MFEC โดยเราคาดกำไรสุทธิปี 2557 ที่ 831 ล้านบาท และมูลค่าเหมาะสมปี 2558 ที่ 11.80 บาท

BTS ซื้อหุ้นคืนภายในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 6 พันล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนประมาณ 5% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้ว กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อคืนตั้งแต่ วันที่ 25/08/57 – 24/02/58

หุ้นใน Smart Port ที่จะขึ้น XD ได้แก่
2/10/2557 - TVD