Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 17 September 2014 17:50

Hits: 1986

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวรับหลัก 1,560
Technical : แนวรับ : 1,560 / 1,551 แนวต้าน : 1,566 / 1,580
หุ้นแนะนำพิเศษ : HMPRO แนวรับ 10 / 9.5 แนวต้าน 10.5/11.20
หุ้นเด่นรายวัน : RATCH ARIP

        วันอังคารตลาดหุ้นไทยปิดลบแรงช่วงก่อนปิดตลาด ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,565.41 จุด ลดลง 13.71 จุด(-0.87%) มูลค่าการซื้อขาย 47,024.61 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 872.46 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 แรงขายลดความเสี่ยงเพื่อรอผลการประชุมเฟดFOMCที่ตลาดหุ้นทั่วโลกกังวลว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ รวมทั้งความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการภาษีที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม การปรับตัวมีโอกาสกลับตัวขึ้นทางเทคนิคที่แนวรับ 1,560/1,551ในขณะที่ SET50 ระหว่างวันวกกลับเหนือSMA25วัน 1,046 ไม่ได้แนวโน้มการปับตัวมีความเสี่ยงที่จะทดสอบแนวรับ 1,039 /1,030 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,780-19,100 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,850-19,170
กลยุทธ์ การปรับตัวลงของตลาดเป็นการตอบรับปัจจัยลบที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง (การคาดการณ์เชิงลบ) ดังนั้นการปรับตัวลงแรงในวันนี้แนะนำให้เข้าซื้อเพื่อเล่นรอบการกลับตัวขึ้นทางเทคนิค กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCC TASCO CCP กลุ่มรับเหมาฯ CK ITD STEC STPI กลุ่มอาหาร CPF SAPPE TUF กลุ่มธนาคาร ปรับตัวลงซื้อเพิ่ม BBL KBANK TMB กลุ่มอสัหาฯ NUSA MK PS SPALI หุ้นรายหลักทรัพย์ TWZ LOXLEY ระยะกลาง ถือ / รอขายบางส่วน

หุ้นแนะนำพิเศษ
       HMPRO (ราคาปิด 10.10 ซื้อ เป้าปี 58 เท่ากับ 12.30 บาท) ปัจจัยพื้นฐานยังดีเนื่องจากยอดขายและผลประกอบที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ ฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรสุทธิใหม่ปี 57 ราว 3.5 พันล้านบาทซึ่งเติบโตราว 16% แต่อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นลดลง 9% ตามจำนวนหุ้นปันผลที่เพิ่มขึ้น สำหรับประมาณการกำไรสุทธิปี 58 อยู่ที่ราว 4 พันล้านบาทเติบโต 11% จากประมาณการในปี 57 ส่วนอัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้นพลิกกลับมาเติบโต 11% ล่าสุดบริษัทประกาศจ่ายหุ้นปันผลอัตราส่วน 8 หุ้นได้ 1 หุ้นปันผล และเงินสดปันผลหุ้นละ 0.013889 บาท กำหนด XD 21 ต.ค. วันจ่าย 13 พ.ย.(กำหนดประชุมผู้ถือหุ้น 15 ต.ค.เพื่ออนุมัติรายการดังกล่าว)

หุ้นเด่นรายวัน
      RATCH (ราคาปิด 58 ซื้อเก็งกำไร ) ร่วมทุนกับน้ำตาลราชบุรีตั้งบริษัท ราชบุรีโคเจนเนอเรชั่น จำกัด โดยถือหุ้นในสัดส่วน 35% และ 65% ตามลำดับพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าประเภทโคเจนเนอเรชั่นใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ตามโครงการ SPP ขนาดกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ มูลค่า 4,700 ล้านบาท เดินเครื่องผลิตและจ่ายไฟฟ้าได้ในปี 62
        ARIP (ราคาปิด 1.39 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารมั่นใจปีนี้พลิกมีกำไรแม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะขาดทุน 6.32 ล้านบาท โดยในช่วง 3Q57 จะเริ่มรับรู้รายได้จากรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศในช่องทีวีดิจิตอลทีเอ็นเอ็นซึ่งเป็นช่องที่ได้รับความนิยมติด 1 ใน 10 ช่องทีวีดิจิตอล และผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีน่าจะดีขึ้นจากปัญหาการเมืองคลี่คลายและทิศทางของอุตสาหกรรมไอทีในตลาดโลกเริ่มดีขึ้น โดยแอปเปิ้ลและซัมซุงจะออกสินค้าประเภทใหม่น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดไอทีได้ โดยบริษัทจะได้รับประโยชน์ในฐานะเป็นผู้ผลิตรายการและนิตยสารที่เกี่ยวข้องกับไอที รวมถึงเป็นผู้จัดงานไอทีภายใต้ชื่อ “คอมมาร์ต ซึ่งได้รับความนิยมสูง ทำให้เม็ดเงินจากค่าโฆษณาน่าจะเพิ่มขึ้น (ที่มา : ข่าวหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
*ADAM/ SLC / IFEC / AJD มีผลบังคับใช้ 13 ส.ค. - 19 ก.ย.57
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. - 3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER / GENCO / SST / TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
/ SEAOIL / SPVI
***ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกเลิกการกำหนดให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าซื้อหลักทรัพย์ TRUE โดยการวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนการซื้อ (Cash Balance) มีผลตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 16 กันยายน 2557 เป็นต้นไป***
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 100.83 จุด
      ดัชนี ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 100.83 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับการแสดงความคิดเห็นของนายจอน ฮิลเซนรัธ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของวอลล์สตรีท เจอร์นัล ที่กล่าวว่า เฟดอาจจะยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปคอาจจะปรับลดเป้าหมายการผลิตในปีหน้าลง ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 100.83 จุด หรือ +0.59% ปิดที่ 17,131.97 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 33.86 จุด หรือ +0.75% ปิดที่ 4,552.76 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 14.85 จุด หรือ +0.75%ปิดที่ 1,998.98 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 1.96ดอลลาร์/บาร์เรล
      ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากนายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่า โอเปคอาจจะปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้าลง 500,000 บาร์เรลต่อวันจากการประชุมครั้งล่าสุดที่ยังคงระดับเพดานการผลิตไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวันนอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า พนักงานของการปิโตรเลียมแห่งชาติไนจีเรียจะเริ่มผละงานประท้วง ซึ่งคาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตน้ำมันดิบภายในประเทศ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 tawatchai@globlex.co.th
วิลาสินี 02-6725937 wilasinee@globlex.co.th
อาทิตย์ 02-6725946artit@globlex.co.th
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์