Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 26 September 2014 16:47

Hits: 1688

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
ขาย
  SET วานนี้ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 16 เดือนที่ 1598.45 จุด และปิดตัวลงในจุดต่ำสุดของวันที่ 1591.99 (+0.1 จุด) กลุ่มที่ปรับตัวลงได้แก่ สื่อสาร ธนาคาร ปิโตร เกษตร ยานยนต์ การเงิน และเหมืองแร่ กลุ่มที่เหลือปรับตัวขึ้น และมูลค่าการซื้อขายยังอยู่ในระดับสูงและเพิ่มขึ้นเป็น 55,737 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 2,398 ล้านบาท (1-25 ก.ย. ซื้อสุทธิ 22,409 ล้านบาท) กองทุนในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องอีก 206 ล้านบาท (1-24 ก.ย. ขายสุทธิ 5,877 ล้านบาท)

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯประจำเดือนส.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 18% สู่ระดับ 504,000 ยูนิตจากเดิม 427,000 ยูนิต สูงสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2008 สะท้อนถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของภาคอสังหาริมทรัพย์ –ค่าเงิน US$ แข็งค่าขึ้น ต่อเนื่อง US$ Index ขึ้นยืนเหนือ 85.14 จากแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่าเงินเยนอ่อนค่าสู่ระดับ 108.69 เยน/US$ และค่า เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2781 ดอลลาร์/ยูโรต่ำสุดในรอบ 14 เดือน
  ก.คลัง เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะเป็นนโยบายการจ้างงานระยะสั้นทำได้ทันทีเช่น โครงการเสริมความรู้ให้กับนักศึกษาอาชีวะให้พร้อมทำงานได้ทันที, โครงการปรับปรุงโรงพยาบาลชุมชน, โครงการสร้างฐานข้อมูลการคลังท้องถิ่น, และการซ่อมแซมถนนของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท การต่อยอดโครง การ 1 ไร่ 1 แสน, แผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยจะให้ค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวนำ มาลดหย่อนภาษีได้ทั้งบุคคลธรรมดา, ลดหย่อนได้ไม่เกิน 2 หมื่นบาท, และนิติบุคคลไม่เกินสองเท่าของรายจริงในการสัมมนา, ส่วนมาตรการระยะกลางและยาวจะมีการเสนอโครงการโครงสร้างพื้นฐาน, การปรับโครงสร้างภาษี โดยจะเร่งผลัก ดันภาษีมรดกและภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

  ตลอด 4 วันทำการที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีลักษณะแกว่งตัวในกรอบแคบๆและพยายามทรงตัวขึ้นโดยสามารถปิดบวกได้ประมาณ 1 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่สามารถผลักดันให้ดัชนีขึ้นได้อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากมีการสลับเข้าซื้อหุ้นที่ราคาค่อนข้างต่ำเชิงเปรียบเทียบและขายทำกำไรหุ้นที่มีราคาสูง เราเชื่อว่ากรณีแรงซื้อเพื่อผลักดันราคาขึ้นสำหรับปิดงวดสิ้นไตรมาส 3/57 นั้นได้ดำเนินไปในระดับที่มากแล้ว เชิงเทคนิคการที่ SET ปรับขึ้นแล้วเกิดแรงขายในช่วงท้ายตลาดออกมาจำนวนมาก (Evening Attack) คาดว่าจะนำไปสู่แรงขายที่ต่อเนื่องในวันนี้ แนะนำขาย (ITD, KTB) หรือรอ

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 20%

  เราได้ลดพอร์ตถือครองหุ้นเหลือ 20% และสัดส่วนการถือครองเงินสด 80% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 4 บริษัทคือ PTTEP, HMPRO, CPALL, และ ADVANC

  Accumulate : -- รอสะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1595 จุด ต่ำกว่า รอ

  เปรียบเทียบดัชนี

  สถานะพอร์ตจำลอง
  พอร์ตหุ้น 20% ถือเงินสด 80%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +1.6%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +3.2%
ผลตอบแทนตลาด SET = +17.7%

  พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 4 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
  วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
  วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
  วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
  รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130