Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 29 September 2014 17:42

Hits: 1813

บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ 1,600 ”
  แม้จะถูกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาด แต่ SET วันก่อนยังฝืนกระแสตลาดหุ้นทั่วโลกขึ้นปิดบวกได้สำเร็จ จากแรงซื้อดัก Window dressing และการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,600.16 จุด (+8.17 จุด) vol 4.4 หมื่นลบ.

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
  (+) การคาดหมายการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินจาก ECB
   (+) รัฐบาลจีนจะยกเลิกกฎเกณฑ์การลงทุนจากต่างชาติสำหรับธุรกิจ 27 ประเภทในเขตการค้าเสรีนำร่องเซี่ยงไฮ้ (Shanghai FTZ)
  (+) การคาดหมายการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่
  (+) รัสเซียและยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นด้านแก๊สธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดแรงกดดันจากที่ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว
  (+) ราคาน้ำมัน WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
  (-) การประท้วงในฮ่องกงเริ่มเข้มข้น มีการปิดถนน รวมถึงการประทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการใช้แก๊ซน้ำตาเข้าควบคุมสถานการณ์
  (-) ดัชนีเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ระดับ 1,649.77 จุด เราจึงมองว่าจะมีแรงขายทำกำไร หากยังไม่ปัจจัยภายในประเทศใหม่เข้ามาสนับสนุนดัชนี
   (+/-) สหรัฐเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย. ที่ระดับ 84.6 ต่ำกว่าตลาดคาดเล็กน้อยที่ 84.8 แต่ยังปรับเพิ่มขึ้น MoM
  (+/-) BOT คงคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ปี 57 ที่ระดับ 1.5%
  (+/-) Fund Flow ต่างชาติมี Net Sell 1 ร้อยล้านบาท ซึ่งเป็น Net Sell วันแรก หลังจาก Net Buy ติดต่อกัน 5 วัน ด้วยมูลค่า มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
  * ปัญหาการเมืองในรัสเซียและตะวันออกกลาง
  * การรายงาน HSBC PMI ของจีน ในวัน อังคาร
  * การประชุม ครม. วันที่ 1 ต.ค. คาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
  * การแถลงของมาริโอ ดาร์กี้ในช่วงค่ำของวันที่ 2 ต.ค.

กลยุทธ์การลงทุน “ปรับขึ้นรอนโยบาย”
  วันนี้เราคาดว่าตลาดมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดไทยยังมีโมเมนตัมบวกจากความคาดหวังต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงกลางสัปดาห์รออยู่ ทั้งนี้เราคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมาจากกลุ่มกองทุน Trigger แต่เรามองว่ายังไม่ใช่ปัจจัยที่น่ากังวลเพราะเราคาดหวังแรง Window Dressing ของกองทุนจะเข้ามาสนับสนุน เรายังคงแนะนำสะสมหุ้นกลุ่ม ICT และหุ้นที่ได้รับผลดีจากนโยบายรัฐอย่าง ก่อสร้าง ท่องเที่ยว เป็นต้น

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
MAJOR ราคาปิด 24.10 บาทราคาพื้นฐานที่ 28 บาท/หุ้น
  * คาดรายได้ 2014 ที่ 5.1 พันลบ. (+25%YoY) และกำไรที่ 1.2 พันลบ. (+18% YoY) ตามการขยายจำนวนโรงขึ้นอีก 36 โรงเป็น 515 โรง และธุรกิจเกี่ยวเนื่องขายอาหารเครืองดื่ม และโฆษณาเติบโตขึ้น
  * ตั้งเป้าขยายโรงภาพยนต์สู่ 600 โรงในปี 2015 ตามการขยายสาขาใหม่ของห้างสรรพสินค้าและ Hypermarket
  * คาดปันผลปี 2014 ที่ 1.26 บาท/หุ้น Div yield 6%

BCP ราคาปิด 37.25 บาท ราคาพื้นฐาน 37.75 บาท
  * คาดกำไรปี 2014 ทรงตัวที่ 4.5 พันลบ. คาดกำไร Q3/14 ฟื้นตัวจากกำลังการผลิตที่กลับมาหลังจากปิดซ่อมบำรุง
  * ตั้งงบลงทุน 5 พันลบ./ปี เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 50 MW ที่ญี่ปุ่น ,โรงงานผลิตเอทานอล และ upstream โรงกลั่นน้ำมัน
  * P/E 10.2 , P/BV 1.4 เท่า ถูกกว่ากลุ่ม แต่ Div สูงราว 3.8%
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ