Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 03 October 2014 14:41

Hits: 2413

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

คาด SET เริ่มเข้าสู่รอบแกว่งตัวลงลึกแต่ยังมีจังหวะรีบาวด์ให้เทรดดิ้งได้
      กลยุทธ์ : หลังจากสัปดาห์นี้ SET เริ่มมีจังหวะปรับพักตัวรุนแรงมากขึ้นแล้ว ทำให้เราคาดว่าตลาดจะอยู่ในรอบขาลงอีกสักพักใหญ่ๆ ซึ่งเป้าหมายการลงคาดว่าจะอยู่ที่บริเวณ 1500 จุดหรือลุ้นต่ำกว่าได้ ดังนั้นถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อถือลงทุนอีกครั้ง เราจึงแนะนำให้รอให้ SET แกว่งลงไปที่บริเวณดังกล่าวก่อนดีกว่า อย่างไรก็ตามในระหว่างทางของการแกว่งลง คาดว่าจะมีจังหวะรีบาวด์สลับขึ้นให้เห็นด้วย ดังนั้นช่วงนี้สามารถเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อเทรดดิ้งสั้นได้

หุ้นเด่นทางเทคนิค : SINGER, LIT, TPIPL(short)
       แนวโน้ม : ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ยังปิดปรับตัวลงรุนแรงพอควร เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าโครงการซื้อสินทรัพย์ที่ ECB เปิดเผยในการประชุมเมื่อวานนี้ อาจจะไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งกดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงกว่า 100 จุดในช่วงต้นชั่วโมงด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐยังพอมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดาวโจนส์กลับมาปิดลดลงเพียงเล็กน้อยได้ โดยคาดว่านักลงทุนยังรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนวันนี้อีกครั้ง ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ได้รับแรงกดดันให้เปิดเป็นลบด้วย แต่กรอบการปรับตัวลงไม่ได้รุนแรงเท่า ขณะที่ในช่วงสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาแรงพอควรแล้ว จึงทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะมีจังหวะแกว่งทรงตัวได้บ้างในช่วงปลายสัปดาห์นี้ต่อเนื่องต้นสัปดาห์หน้า และอาจมีจังหวะบวกกลับให้เห็นด้วย แต่เรายังมองว่าจะเป็นการดีดกลับแค่ช่วงสั้น โดยยังมีแนวโน้มที่จะกลับไปแกว่งตัวลงต่อได้อีก ดังนั้นถ้าเลือกหุ้นเข้ารับช่วงนี้ จึงยังเน้นเป็นแค่การเทรดดิ้งสั้นตามรอบ โดยควรมองหาจังหวะขายทำกำไรช่วงรีบาวด์ไว้ด้วย เพื่อลดความเสี่ยง
แนวรับ 1565 , 1562-1560 จุด แนวต้าน 1572-1575 , 1578-1582 จุด
      Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคในปริมาณที่หนาแน่นเป็นวันที่ 16 ติดต่อกัน โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$329.6 ล้าน ไต้หวัน US$207.5 ล้าน อินโดนีเซีย US$122.2 ล้าน ไทย US$18.8 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$12.9 ล้าน แต่ซื้อเวียดนาม US$3.7 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง ประกอบกับนักลงทุนผิดหวังกับ ECB หลังจากที่คาดหวังมากเกินไป จึงเชื่อว่าไม่น่ากระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดย ECB ระบุว่าจะเริ่มซื้อ Covered bonds จากธนาคารพาณิชย์กลาง ต.ค. นี้ และซื้อ ABS ในช่วง 4Q14 โครงการนี้มีอายุ 2 ปี มีเป้ากระตุ้นเงินเฟ้อให้ถึง 2% เลี่ยงภาวะเงินฝืด ดังนั้น Flow น่าจะไหลออกต่อ

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
   (0) DTAC เรากลับมาประเมินมูลค่าของ DTAC ในปีหน้าใหม่ได้เท่ากับ 115 บาท จากเดิม 113 บาท และยังคงแนะนำเพียงถือ แม้ผลการดำเนินงานกำลังจะ Bottom ใน 3Q14 แต่การฟื้นตัวในระยะถัดไปยังไม่เต็มที่เพราะ DTAC จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเพื่อยกระดับคุณภาพของบริการหลังจากเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการให้บริการสูงขึ้น ขณะที่การลดลงของ Regulatory Cost เริ่มช้าลง เราคาดกำไรปกติปี 2014-15 โตไม่โดดเด่นนักที่ 4.5% และ 7.7% ตามลำดับ ขณะที่ ADVANC ผ่านช่วงของการลงทุนสูงไปแล้ว และกำลังเริ่มเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการลงทุน ทำให้กำไรปี 2015 โตสูงกว่าคือ 12.5% เราจึงยังคงชอบ ADVANC (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 260 บาท) มากกว่าทั้งในแง่ PE ที่ถูกกว่าคือ 16.3 เท่า เทียบกับ DTAC ที่ 18.8 เท่า และผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูงกว่า
(-) BBL เราคาดกำไรปกติ 3Q14 ที่ 8.4 พันล้านบาท -7% Q-Q, -6% Y-Y ถือว่าน่าผิดหวังจากสินเชื่อที่ยังอ่อนแอ ขณะที่ NPL มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปัญหาเฉพาะรายของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจ เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2014 ลง 3% จากสินเชื่อที่แย่กว่าคาดและ NIM ใน 4Q14 เริ่มถูกกดดันจากต้นทุนเงินฝาก รวมทั้งรายได้ค่าธรรมเนียมที่อ่อนแอกว่าคาด แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2015 ที่คาดโต 8.5% ยังคงคำแนะนำซื้อ คงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 243 บาท
  (+) LPN เราคาดกำไรปกติ 3Q14 ที่ 523 ล้านบาท +42% Q-Q, -15% Y-Y ตามทิศทางของรายได้โอน ยอด Presales 3Q14 ที่ลดลง 58% Q-Q เหลือ 2.9 พันล้านบาทเป็นเพราะไม่ได้เปิดขายโครงการใหม่ ทำให้ยอดใน 9M14 ทำได้ 65% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท แต่มีโอกาสที่จะทำได้ตามหรือใกล้เคียงเป้า เพราะมีแผนเปิดขายอีก 7 โครงการ มูลค่า 9.2 พันล้านบาทในช่วงที่เหลือของปี และมีโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างขายอีก 3.9 พันล้านบาท ส่วน Backlog สิ้น 3Q14 อยู่ที่ 2.14 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ปี 2014-15 ถึง 83-97% เรายังคงแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 25 บาท
   (+) IPO ล่าสุด ‘SPA’ บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป เป็นผู้ให้บริการสปาเพื่อสุขภาพมานานกว่า 15 ปี และธุรกิจเกี่ยวเนื่องคือ จำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา และธุรกิจโรงแรมกับร้านอาหารที่เชียงใหม่ ปัจจุบันสปาของบริษัทมี 13 สาขาในกรุงเทพและเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด ลูกค้าประมาณ 80% เป็นชาวต่างชาติ ผลการดำเนินงานจึงแปรผันตามภาวะการท่องเที่ยว กำไรในอดีตที่ผ่านมาเติบโตสูงจาก 1 ล้านบาทในปี 2011 เป็น 57 ล้านบาทในปี 2013 แต่ลดลงเหลือ 6 ล้านบาทใน 1H14 จากผลกระทบทางการเมือง เราคาดว่ากำไรทั้งปีนี้จะทำได้ 32 ล้านบาท -44% Y-Y แต่จะเร่งตัวขึ้นเป็น 71 ล้านบาท +122% Y-Y ในปี 2015 ประเมินมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานปี 2015 ที่ 2.36 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ SPA)
   ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดใกล้เคียงเดิมแม้ถ้อยคำแถลงของ ECB จะสร้างความผิดหวัง แต่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายโดยประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือตัวเลขเศรษฐกิจภาคแรงงานที่จะประกาศในคืนวันนี้
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนดิ่งแรงหลังนักลงทุนผิดหวังกับผลการประชุม ECB หลังถ้อยคำแถลงของประธาน ECB ยังไม่ชัดเจนในเรื่องขนาดของการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนลบหลังผิดหวังจากถ้อยคำแถลงของ ECB นอกจากนี้ตลาดยังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้
  ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ล่าสุดปรับตัวในกรอบ 32.33-32.47 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ขยับขึ้น 0.28 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 91.01 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงสต๊อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง
   ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 0.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,215.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงสวนตลาดคาด อย่างไรก็ตามตลาดยังจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญภาคแรงงานคืนนี้

Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852