WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เก็งกำไรสั้นเหนือ 1570 จุด ต่ำกว่า รอ
  SET ผันผวนสูงเมื่อวันศุกร์โดยเปิดตลาด -1.5 จุดหลัง จากนั้นไหลลงในช่วงบ่ายทำจุดต่ำสุดที่ 1553.33 จุด (-16.4 จุด) และเกิดรีบาวด์ขึ้นท้ายตลาดปรับตัวปิดที่ 1570.28 จุด (+0.55 จุด, +0.04%) ขึ้นลงกระจายรายกลุ่มและหุ้นรายตัว มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 46,919 ล้านบาท ราคาทองคำและน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย และเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องเหลือ 32.47 บาท/US$ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 1,326 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 949 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  ฟิทช์ เรทติงส์คงอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและสถาบันการเงินของไทยมีเสถียรภาพอยู่ที่ระดับสมเหตุสมผล BBB+ และฟิทช์คงเรทติ้งในระยะสั้นหรือช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง แม้จะมีความเสี่ยงในช่วงขาลงจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และการเบิกจ่ายลงทุนภาครัฐล่าช้า ฟิทช์ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยลงเหลือ 1.2% จาก 2.5% ระบุพื้นฐานเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งคาดปีหน้าเติบโต 4% สำหรับความเสี่ยงเศรษฐกิจไทยหลักจะมาจาก 2 ทาง คือการส่งออก กรณีเศรษฐกิจโลก เพราะการส่งออกของไทยมีสัดส่วนเทียบเท่า 70% ของจีดีพี
  ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทยหรือเงินเฟ้อเดือน ก.ย.57 สูงขึ้น 1.75%YoY อัตราขยายตัวต่ำสุดรอบปีนี้และลดลง 0.17%MoM ส่งผลให้เงินเฟ้อช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) สูงขึ้น 2.15%YoYแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลัง 57 คาดว่าจะสูงขึ้น 2.05% โดยไตรมาส 3 เงินเฟ้อสูงขึ้น 2% ส่วนไตรมาส 4 คาดว่าจะสูงกว่าไตรมาส 3 ที่ 2.1% เมื่อรวมกับเงินเฟ้อช่วงครึ่งปีแรกที่สูงขึ้น 2.23% ทำให้เงินเฟ้อทั้งปี 2557 คาดว่าจะสูงขึ้น 2.14% ยังอยู่ในกรอบคาดการณ์ปีนี้ที่ 2-2.8%
  บีโอไออนุมัติ 18 โครงการใหญ่และอีก 2 รายขอแก้ไขเพื่อลงทุนเพิ่มรวมเงินลงทุน 8.97 หมื่นล้านบาทเป็นโครงการผลิตอีโคคาร์2 และโครงการผลิต ไฟฟ้ารวม 9 โครงการ รวมยอดอนุมัติหลัง คสช.เข้าบริหารอนุมัติทั้งสิ้น 4.59 แสนล้านบาท

  เงินบาททำสถิติอ่อนค่าในรอบ 3 เดือนที่ 32.55 บาท ต่างชาติและกองทุนยังขายต่อเนื่องตั้งแต่การปิดงวดบัญชีไตรมาส 3 ซึ่งถือว่ายังเป็นความเสี่ยงต่อแรงขายและทุนเคลื่อนย้ายที่อาจเกิดต่อไปโดยเฉพาย่างเข้าสู่การสิ้นสุด QE สหรัฐฯในการประชุม FOMC วันที่ 28-29 นี้ ขณะที่ SET รีบาวด์ได้ 16 จุด หลังปรับตัวลงแรงนั้นมองว่าเป็นซื้อกลับเพื่อเก็งกำไร วันนี้เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรสั้นเมื่อ SET ยืนเหนือ 1570 จุดเช่น ADVANC, CPF, MINT, DTAC หากต่ำกว่าแนะนำให้รอ อาจเกิดปรับฐานต่อได้ในระยะสั้น หุ้นแนะนำขายทางเทคนิคเช่น KTB, BGH, AOT

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ลดพอร์ตถือครองเหลือ 20%

  เราได้ลดพอร์ตถือครองหุ้นเหลือ 20% และสัดส่วนการถือครองเงินสด 80% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 4 บริษัทคือ PTTEP, HMPRO, CPALL, และ ADVANC

  Accumulate : -- รอสะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1570 จุด ต่ำกว่า รอ

  เปรียบเทียบดัชนี

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 20% ถือเงินสด 80%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +1.2%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.8%
ผลตอบแทนตลาด SET = +16.1%

  พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 4 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
  วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
  วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
  วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
  รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!