WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

รอบด้านตลาดหุ้น
ซึมลง
    เมื่อวานลงแรงผิดคาด (ภาพหลักเรายังคงกลยุทธ์กระชับพอร์ต) วันนี้คาด sideways down ลงสลับ-เด้งสั้นๆ แนวรับ 1,537 จุด แนวต้าน 1,557 จุด
การปรับลงแรงของดัชนีฯเมื่อวาน ส่งผลให้แนวโน้มระยะสัปดาห์ แย่กว่าคาด ใครที่ขายกระชับพอร์ตตามคำแนะนำระยะเดือนแล้ว แนะ Wait and see / ใช้เม็ดเงินจำกัดในการเก็งกำไร คาดหุ้นไทยมีโอกาส ซิ๊กแซกลง ในช่วง 4 วันทำการที่เหลือของสัปดาห์ โดยอังคาร-พุธ คาดซึมลงต่อ ก่อนลุ้นเด้งสั้นๆ ปลายสัปดาห์
     กลยุทธ์เล่นรอบระยะเดือน (ตค.) คาดช่วงครึ่งแรกของเดือน หุ้นกลุ่ม ค้าปลีก โรงพยาบาล ขนส่ง สื่อสารฯ (หุ้น Low Beta) ที่ปรับลงมาก่อนหน้า Outperform ตลาด ส่วนกลุ่ม พลังงาน ปิโตรฯ แบงก์ คาด Underperform และแนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก ที่มีข่าวบวกหนุน / คาดการปรับฐานรอบนี้ ดัชนีฯไม่หลุดกรอบขาขึ้นใหญ่ 1,530 จุด ปัจจัยลบ เดือนนี้ วิตกผลการประชุมเฟดปลายเดือนเข้มงวดนโยบายการเงิน, การชุมนุมฮ่องกงยืดเยื้อ ฯลฯ
หุ้นแนะนำ KCE (Consensus คาดกำไร 3Q14 ราว 460+ ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง y-y และ q-q), SST (เก็งกำไรดักหลุด Cash balance สัปดาห์หน้า)

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
     (+) BTS รุกธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวานประกาศ ขาย 2 บ.ย่อย แลกกับการถือหุ้นเพิ่มทุน PP ของ NPARK ที่ 2.13 แสนล้านหุ้น (ไม่เกิน 37.06% ของทุนจดฯ) ณ.ราคา 0.047 บาท (ได้ Warrant ด้วย) คาดการขาย บ.ย่อย BTSA และ KKP เมื่อวานที่ Implied price 8 พัน- 1 หมื่นล้านบาท (Book อยู่ที่ 4-5 พันล้านบาท) คาด BTS จะมีกำไรพิเศษราว 1.5-3 พันล้านบาท (หักภาษี) และคาดว่าการร่วมลงทุนกับ NPARK จะส่งผลบวกต่อมูลค่าพื้นฐานของ BTS เพิ่มขึ้นราว 0.60 บาท/หุ้น เราคงแนะนำ ซื้อ BTS TP 11.60 บาท
(+) TUF เราคงคำแนะนำซื้อ TP 88.5 บาท ราคาทูน่าเดือน กย. US$1,280 / ตัน ลดลง 32% y-y และ 20% m-m ส่งผลให้ราคาเฉลี่ย 9 เดือนอยู่ที่ US$1,419 ลดลง 32% y-y และเราคาดว่าราคาเดือน ตค.จะยังลดลงต่อ เรามองผลกระทบต่อ มาร์จิ้นเฉลี่ยของธุรกิจปรับสูงขึ้น เพราะธุรกิจ Branded Tuna มีสัดส่วนอยู่ที่ 60% จะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากราคาทูน่าที่ลดลง ส่วนธุรกิจ OEM แม้จะมีมาร์จิ้นลดลงแต่การบริหารที่ดีคาดสุทธิแล้วราคาทูน่าที่ลดลงจะเป็นบวกต่อผลการดำเนินงาน
(+) MINT เราคงมุมมองเชิงบวกหลังพาผู้บริหารพบลูกค้าของเรา คงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 41.5 บาท

หุ้นมีข่าว
(-) โรงแรม ท่องเที่ยว การท่าฯ: นายกฯเผยยังมีความจำเป็นคงกฎอัยการศึก (ประชุม ครม.วันนี้คาดไม่ยกเลิก)
(-) BA กำหนดราคา IPO 23-27 บาท จองซื้อ 14-17 ตค. เข้าเทรด 3 พย. / เป็นหุ้น Market cap ใหญ่อาจส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาดที่ลดลงเพื่อกันเงินไปจองหุ้น (Liquidity drain)
(+) BTS จะพิจารณาขายหุ้น 2 บ.ย่อยให้ NPARK แลกกับหุ้นเพิ่มทุน หรือ วอรนต์ หรือ เงินสด ตามความเหมาะสม
(+) IFEC สภาอุตสาหกรรมยื่น รมว.พลังงาน กลับไปใช้ระบบ Adder แบบเดิม และขอปรับ adder พลังงานลมขึ้นเป็น 4.5 บ.จาก 3.5 บ. สำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ส่วนโรงไฟฟ้าขยะขอ adder 3.5 บ. นาน 10 ปี (จาก 7 ปี) เนื่องจาก Fleet in tariff ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง (กรุงเทพธุรกิจ) /คาดราคาหุ้นขึ้น รับประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติขายหุ้นเพิ่มทุน PP และ RO
(+) SST คาดมีดีลซื้อกิจการเพิ่ม

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(*) จำนวนผู้ชุมนุมประท้วงในฮ่องกงเริ่มลดลง และเมื่อวานเริ่มจัดตั้งโต๊ะเจรจา
(+) วันอังคารผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ, คาด ธนาคารกลางอินโดนีเซียคงดอกเบี้ย 7.5%, ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดคงดอกเบี้ย 2.5%
(0) วันพุธรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ, ประชุม EU group (Growth summit ที่มิลาน)
(+) วันพฤหัส G20 ประชุมที่วอชิงตัน, US ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์ และ ยอด Wholesale inventory (สค.) คาด +0.3% จาก 0.1% m-m, รายงานการประชุม ธ.กลางอังกฤษ, สุนทรพจน์ประธาน ECB
(+) วันศุกร์ US Import price (กย.)คาด -0.6% จาก -0.9%
(-) MS ออกรายงานกลยุทธ์ระยะสั้นคาดราคาหุ้น KBANK มีแนวโน้มปรับขึ้น ส่วน BBL คาดราคาหุ้นมีแนวโน้มลง (ภายใน 30 วันข้างหน้า) และ ปรับลด น้ำหนัก BBL ลงเหลือ Underweight จาก Overweight เพราะ Total Shareholder return ต่ำเพียง 43% เทียบกับ KBANK หรือ SCB ที่ 70-60% และยังมีการเติบโต CAGR 3 ปี เพียง 8% ส่วน KBANK โต 13% MS แนะนำ Overweight KBANK และคงน้ำหนัก Equal-weight SCB TISCO KTB
(-) MS แนะ Underweight AOT ราคาเป้าหมาย 192 บ. เพราะคาด 1) ราคาหุ้นขึ้นสะท้อนช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่ดีที่สุดไปแล้ว CAGR ปี 2003-09 โต 64% และการเติบโตจากปี 2014-18 คาด 8.5% 2) การขยายสนามบินใหม่ (สุวรรณภูมิเฟส 2) กว่าจะรับรู้รายได้คาดว่าจะเป็นปี 2018 3) แผนการลงทุนขยายสนามบินยังไม่นิ่ง คาดค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเกินคาดทุก 10% จะกระทบ ราคาเป้าหมาย 1.6%
(+) MS แนะซื้อ PTT คาดจะมีการปล่อยให้ขึ้นราคา NGV และ LPG แบบต่อเนื่อง
หุ้นในกระแส
(+) กระแส M&A: SST IFEC
(+) หุ้นร้อนหลุด Cash balance: AJP SOLAR SUPER VIH หลุด Cash balance และสัปดาห์หน้าออกจาก Cash balance ACD DIMET EMC EVER GENCO SST TAKUNI
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ไทยบ๊วยเออีซี ธนาคารโลกหั่นจีดีพีปีหน้าโต3.5% อัตราขยายตัวต่ำสุดในกลุ่มอาเซียน
ธนาคารโลกหั่นเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตเหลือ 3.5% เติบโตต่ำสุดในอาเซียน นายอูลริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถลงผลการประเมินภาวะเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยได้ปรับลดคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้จาก 2.5% เหลือ 1.5% และในปีหน้าลดการเติบโตจีดีพีเหลือ 3.5% จากคาดการณ์เดิม 4.5% (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

แนะธุรกิจไทยเร่งเป็นหุ้นส่วนพม่า แบงก์กรุงเทพลุย เปิดสาขาใหม่ปีหน้า
ธนาคารกรุงเทพพร้อมลุยสาขาใหม่รับลูกค้าในพม่าปี 2558 แนะไทยเร่งผนึกเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจ นายไชยฤทธิ์ อนุชิตวรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่าหลังจากที่ธนาคารกรุงเทพเป็น 1 ใน 9 ธนาคารต่างชาติและเป็นธนาคารไทยเพียงแห่งเดียวที่ได้ใบอนุญาตเปิดสาขาในพม่า ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมวางระบบต่างๆ ที่สาขาในนครย่างกุ้งแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ทันภายในครึ่งปีแรกของปี 2558 โดยจะมุ่งเจาะกลุ่มธุรกิจไทยที่ไปลงทุนพม่าก่อน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมดาวรุ่ง เช่น ภาคการก่อสร้างโรงไฟฟ้า อาหาร สิ่งทอ และท่องเที่ยว (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

แบงก์ไม่ปล่อยกู้บ้านพุ่ง 30% เหตุตัวเลขหนี้ครัวเรือนปรับสูงขึ้น
นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลเด้น แลนด์ เรสซิเด้นซ์ ในเครือบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า อัตราการปฏิเสธสินเชื่อซื้อบ้านของสถาบันการเงินตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาของภาคอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มสูงขึ้นเป็น 30% จากเดิมเฉลี่ย 20-25% โดยปัจจุบันยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทบ้านเดี่ยวอยู่ที่มากกว่า 20% ส่วนทาวน์เฮาส์อยู่ที่ 30% เนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดและผู้บริโภคมีภาระหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

เปิดซองรถไฟเขียวพร้อมสร้างมิ.ย.58
นายสัจจพงศ์ สนั่นเสียง รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคา โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ระยะทาง 18.4 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 2.6 หมื่นล้านบาทว่า อยู่ระหว่างพิจารณาคุณสมบัติกลุ่มบริษัทเอกชนทั้ง 5 ราย ที่ยื่นซองประกวดราคาในโครงการดังกล่าวรวม 4 สัญญา คาดว่าแล้วเสร็จเดือนตุลาคมนี้ ต่อด้วยพิจารณาซองเทคนิคแล้วเสร็จเดือนพฤศจิกายน และเปิดซองราคาเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นจะสามารถเซ็นสัญญากับกลุ่มบริษัทที่ชนะการประกวดราคาเดือนมิถุนายน 2558 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3-4 ปี แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ (หนังสือพิมพ์มติชน)

'โตโยต้า' ขอรบ.กระตุ้นกำลังซื้อยาหอมยึดไทยฐานการผลิตหลัก
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังผู้บริหารบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เข้าพบเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ว่า โตโยต้า ได้ขอให้ไทยมีส่วนช่วยในการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ยอดขายโดยรวมของ โตโยต้าลดลงถึง 20% ผลพวงจากโครงการรถยนต์คันแรก คาดการณ์ยอดขายในประเทศปีนี้น่าจะลดลงเหลือ 9 แสนคัน จากเดิมคาดไว้ที่ 1.2 ล้านคัน ส่วนยอดส่งออก 1.1 ล้านคัน เหลือยอดขายรวมปีนี้ที่ 1.985 ล้านคัน ต่ำกว่าที่ตั้งไว้ที่ 2 ล้านคัน (หนังสือพิมพ์มติชน)
ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1

รายงานวันนี้
หุ้น: MINT คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 41.50
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2558 ที่ 41.5 บาท
ในกลุ่มท่องเที่ยว เราชื่นชอบ MINT มากที่สุดจากค่า PER ที่ถูกที่สุดในกลุ่มและมีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไร
ผู้บริหารแนะผลการดำเนินงานในไตรมาส 3-4/57 เติบโตแข็งแกร่ง ซึ่งธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศและในต่างจังหวัดซึ่งมีผลการดำเนินงานโดดเด่นได้กลบผลกระทบผลการดำเนินงานของโรงแรมในกรุงเทพที่อ่อนตัว
ขยายหลายภูมิภาค เตรียมตัวไปไกลกว่าเพียง AEC ปี 2558
ผู้บริหารชี้ว่าความเสี่ยงในการเพิ่มทุนนั้นต่ำมาก โดย MINT งบลงทุนและงบการเข้าซื้อกิจการใหม่จะมาจากเงินสดของบริษัท
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร

หุ้น: BTS คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 11.60
วานนี้ คณะกรรมการบริษัท BTS ได้อนุมัติในหลักการที่จะทำการขายบริษัทย่อย 2 บริษัทซึ่งประกอบธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งได้แก่ BTS Assets Co Ltd (BSTA) และ Kamkoong Property Co Ltd (KKP) ให้แก่ NPARK
เพื่อแลกกับค่าตอบแทนซึ่งจะประกอบด้วย 1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ NPARK ซึ่งออกให้แก่บุคคลในวงจำกัดจำนวน 213,000 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.047 บาท
2) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ NPARK ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกให้แก่บริษัทต่อ 1 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า
3) ค่าตอบแทนจากการจำหน่ายหุ้นในบริษัทย่อยอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสดหากมีความเหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับการตกลงกันของคู่สัญญา
เรามองว่าหาก BTS ทำการขายบริษัทย่อยให้แก่ NPARK ตามแผน BTS จะได้กำไรพิเศษจากดีลครั้งนี้ อีกทั้งยังอัพไซด์ต่อกำไรในระยะยาวอีกด้วย
นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข

กลุ่ม: ปิโตรเคมี คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -
ราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงจากอุปสงค์ที่ลดลง โดยเฉพาะในจีนที่อยู่ในช่วงวันชาติจีนซึ่งเป็นวันหยุดยาว
แต่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนมากแข็งแกร่งขึ้น หนุนจากต้นทุนแนฟทาที่ลดลง
ราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีคาดจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลังสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาว หนุนจากช่วงไฮซีซั่นซึ่งโดยปกติจะต่อเนื่องไปถึงช่วงหกสัปดาห์แรกของไตรมาสที่ 4
ส่วนต่างราคาโอเลฟินส์และ HDPE ปรับตัวขึ้น WoW
ส่วนต่างราคา PVC อ่อนตัว แต่ส่วนต่างราคา MEG ฟื้นตัว WoW

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!