WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวรับ 1,521-1,519
Technical : แนวรับ : 1,521-1,519** / 1,508 แนวต้าน 1,537 / 1,555**
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTGC แนวรับ 57.75 / 56.75 แนวต้าน 61 / 63
หุ้นเด่นรายวัน : AOT PTTEP TOP

  วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,532.72 จุด เพิ่มขึ้น 6.58 จุด(+0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 37,275.97 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 109.29 ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,508-1,555 แรงซื้อระยะสั้นบางส่วนกลับเข้าตลาด จากสัญญาณทางเทคนิคที่มีโอกาสกลับตัวขึ้นจากแท่งเทียนDouble Bottom แต่การกลับตัวขึ้นยังคงกรอบแคบๆ เนื่องจากปริมาณการซื้อขายไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ SET50 แท่งเทียนไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าแท่งเทียนก่อนหน้าเป็นสัญญาณบวก 1,009 ที่เป็นแนวรับหลักในการพิจารณาแนวโน้มเชิงบวก ต่ำกว่าหลีกเลี่ยง GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,820-19,040 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,870-19,090
  กลยุทธ์ ปริมาณการหมุนเวียนของหุ้นเริ่มลดน้อยถอยลงเป็นสัญญาณการชะลอตัว วันนี้มีแนวรับสำคัญในระหว่างวัน 1,524 (หรือการผ่านยืนแนวต้าน 1,535 จะกลับเป็นสัญญาณซื้อ) การแกว่งตัวของระดับราคาหุ้นโดยรวมจะมีความผันผวนสูงขึ้นตามแนวโน้มผลประกอบการ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง SCCC GEL TASCO กลุ่มอสังหาฯ SPALIแนวโน้มผลประกอบการเติบโต WIN MK NCH RML กลุ่มโรงกลั่น BCP หุ้นรายหลักทรัพย์ AOT PDI SPVI PTTGC ระยะกลาง ถือ

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTTGC (ราคาปิด 59 อยู่ระหว่างปรับประมาณการราคาเป้าหมายเดิม 84) แนวโน้มผลประกอบการใน 3Q57 คาดออกมาดีแต่ราคาหุ้นยังมีความเสี่ยงจากประเด็นการปฏิรูปราคาพลังงานและมีความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิในปีนี้และปีหน้าลงหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยคาดกำไรสุทธิ 3Q57 ออกมาประมาณ 6,800 -7,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 14-16%qoq เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจปิโตรฯสายโอเลฟินด์ที่มีปัจจัยหนุนจากราคาและส่วนต่างของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย 3Q57 บริษัทมีส่วนต่าง HDPE-Naphtha เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 691$/tonเพิ่มขึ้น 11.8%qoq อย่างไรก็ตามภาพรวมกำไรสุทธิใน 3Q57 อาจจะเพิ่มขึ้นไม่มากนักเนื่องจากยังมีแรงกดดันจากผลขาดทุนในธุรกิจโรงกลั่นซึ่งคาดจะมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบประมาณ 2,200 ล้านบาท หลังราคาน้ำมันดิบในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลงราว 10$/bbl เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและบริษัทมีสต๊อกน้ำมันดิบอยู่ราว 8.5 ล้านบาร์เรล

หุ้นเด่นรายวัน
  AOT (ราคาปิด 229 ซื้อ เป้า consensus 245) คาดปริมาณผู้โดยสาร-เที่ยวบินต.ค.57-มี.ค.58 ซึ่งถือเป็นช่วงท่องเที่ยว (High Season) คาดว่าจะมีผู้โดยสารและเที่ยวบินมาใช้บริการท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT เป็นจำนวนมาก เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน หนุนรายได้เติบโตดี (ที่มา : ข่าวหุ้น)
  PTTEP (ปิด 144 ซื้อ เป้าหมาย 171 ) TOP(ปิด 42.50 ถือ เป้าหมาย 54) เก็งกำไรข่าวราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นกลุ่มน้ำมันและโรงกลั่นโดยเฉพาะ PTTEP และ TOP ที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
* AQ / CYBER / IFEC / KTP / PRINC/ SLC / TGPRO / WIIK มีผลบังคับใช้ 29 ก.ย. - 7 พ.ย. 57
*AJD / BGT / CEI / CGD / DNA / MILL / PE / PRECHA / TH / THANA / TPOLY มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 14 พ.ย. 57
* COLOR / SMART / EVER / RICH / SUPER / SOLAR / CWT / TMI / FVC มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 21 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 216.58 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวขึ้นแรง 216.58 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชนในสหรัฐและรายงานตัวเลขดัชนีภาคการผลิตที่ที่แข็งแกร่งของยูโรโซนโดยเมื่อวานนี้หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง พุ่งขึ้น 4.97% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้น 1.72 ดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 1.36 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรโซนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.7 ในเดือนต.ค. จากระดับเดือนก.ย.ที่ 50.3 ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น216.58 จุด หรือ +1.32% ปิดที่ 16,677.90 จุดดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,452.79 จุด เพิ่มขึ้น 69.94 จุด หรือ +1.60% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,950.82 จุด เพิ่มขึ้น 23.71 จุด หรือ +1.23%

ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 1.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับตัวสูงขึ้น 1.57ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ลดปริมาณการส่งออกน้ำมันในเดือนที่แล้ว โดยรายงานระบุว่าซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาดโลกในเดือนก.ย.ที่ 9.36 ล้านบาร์เรลต่อวันลดลง 328,000 บาร์เรลจากเดือนส.ค.นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีนและเยอรมนี โดยเอชเอสบีซี/มาร์กิตรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนต.ค.อยู่ที่ 50.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 50.2 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะ 51.8 ในเดือนต.ค. จากระดับเดือนก.ย.ที่ 49.9 ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX เพิ่มขึ้น1.57 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบ.เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 86.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 tawatchai@globlex.co.th
วิลาสินี 02-6725937 wilasinee@globlex.co.th
อาทิตย์ 02-6725946artit@globlex.co.th
Assistant : ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!