WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +17.60, NASDAQ -15.27, S&P -5.71, FTSE -34.00, CAC -63.84 และ DAX -85.23 โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงผันผวน จากหุ้นในกลุ่มน้ำมันที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ในขณะที่สหรัฐประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ (1) ยอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 7.6% อยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่าคาด (2) ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือน ก.ย. ลดลง 0.6% ตามคาด แสดงถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง หลังจากคณะกรรมการยุโรป (EC) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรในปี 2015 ลงเป็น 1.1% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 1.7%
  …..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.59 อยู่ที่ US$77.19 ต่อบาร์เรล โดยราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการที่ซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาขายน้ำมันดิบให้ลูกค้าในสหรัฐฯ
  ....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$2.1 อยู่ที่ US$1,167.7 ต่อออนซ์ จากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัว ลดความต้องการลงทุนในทองคำ
   (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +271 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -19,729 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : คาดดัชนียังคงผันผวนและมีโอกาสอ่อนตัวลง? คาดตลาดมีโอกาสปรับลดลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ จากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงน่าเป็นห่วง และส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ซึ่งคาดว่าปี 57 การเติบโตอาจจะอยู่ที่เพียง 0-0.5% ในขณะที่คาดการเติบโตของ GDP ไทยในปี 57 อยู่ที่ระดับ 1.0-1.5% ในขณะที่ล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงมาอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 4 ปี ยังคงกดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อไป
  ....ทางด้านประเด็นในประเทศ นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมของ กนง.ในวันนี้ (5 พ.ย.) คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.0% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนและยังไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ ขณะที่ยังอยู่ในช่วงการประกาศผลการดำเนินงานประจำ 3Q/57 ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไร (+/-) ต่อเนื่องถึงกลางเดือน พ.ย. ขณะที่ภาพรวม Fund Flow ยังมีความผันผวน แรงซื้อ/ขายสุทธิ สลับกัน
  .....โดยยังแนะติดตามความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือน พ.ย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว
  ....รวมถึงประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.01 อยู่ที่ 2.34% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.16 อยู่ที่ 14.89
  หุ้นแนะนำ : PS

ประเด็นที่ต้องติดตาม (5 – 7 พย.’57)
   5/11/57 : ประชุม กนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.0%) สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน - ตค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้าย - ตค. (3) ดัชนี PMI ภาคบริการ - ตค. (4) สต็อกน้ำมัน
   6/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ประชุม ECB – คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05 %
   7/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร - ตค.

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ 02-684-8789

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!