WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET ยืนเหนือ 1570”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SNC (จากซื้อเป็น ถือ)
       ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์เล็กน้อย โดยปิด +3.37 จุดที่ 1580.77 โดยหุ้นที่ช่วยพยุงตลาดให้บวกไว้ คือ PTTEP, PTTและการซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็ก นักลงทุนสถาบันในประเทศ, พอร์ตบล. และต่างชาติซื้อสุทธิ ส่วนรายย่อยขายสุทธิ สำหรับวันนี้ ตลาดยังแกว่งในโมเมนตัมบวก ปัจจัยหนุน คือ 1. การซื้อเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 3/57, 2. มีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นในปี 58 โดยความเชื่อมั่นเริ่มพลิกฟื้นขึ้นหลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, 3. การปรับโครงสร้างด้านพลังงานจะเห็นชัดเจนภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ และคาดว่าจะส่งผลกระทบกับ PTT ไม่มาก ขณะเดียวกันการปรับขึ้นราคา LPG และ NGV ให้ใกล้เคียงกับราคาตลาดมากขึ้นเป็นการลดผลขาดทุนของ PTT ลง, 4. ECBและ BOJ เดินหน้าใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยดำเนินการผ่าน QE ที่ได้ประกาศออกไปในช่วงก่อนหน้านี้ และ 5. คาดว่าตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐจะออกมาดี โดยคืนนี้จะมีรายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.57 และเชื่อว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ในระดับ 5.9% ซึ่งต่ำสุดในรอบ 6 ปี ส่วนปัจจัยเสี่ยง คือ Valuation ของตลาดและหุ้นที่สูงขึ้น ทำให้ Upside ของหุ้นหลายตัวเหลือจำกัด และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย& โลกที่ล่าช้ากว่าคาด สำหรับหุ้นพื้นฐานแนะนำในวันนี้ คือ SEAFCO

      การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดในระยะสั้นมากเป็นบวก โดยมีพื้นที่แนวต้าน 1590, 1600 แต่ยังวางใจไม่ได้เสียทีเดียว การอ่อนตัวของ SET ต่ำกว่า 1555 ดูไม่ดี ควร Stop loss หรือลดพอร์ตตาม แต่หากอ่อนไม่มากก็ยังซื้อเก็งกำไร/ถือต่อได้ หุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิคและมีโอกาสทำ Newhigh ที่แนะนำให้ถือต่อ คือ PS, TPOLY, BMCL, EPCO, WORK, JAS ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่ ได้แก่ CKP, ITD, HANA, GRAND, RCL หุ้นที่หลุด Listคือ –ไม่มี- สำหรับหุ้นที่แนะนำไปแล้วและอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit คือ NMG, ESTAR, NBC

Market Drivers
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ยูโรโซน : ECB เดินหน้า QE & LTRO กระตุ้นเศรษฐกิจ นายดรากิประธาน ECB กล่าวว่า ECB จะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (Asset-backed Securities : ABS) ในเร็วๆนี้ ภายใต้โครงการซึ่งจะดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี และจะเดินหน้าปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (Targeted LTRO) ควบคู่กันไป
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นราว 0.4% ทั้ง DJIA, S&P500 และ NASDAQตอบรับตัวเลขภาคแรงงานที่ออกมาดี โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สิ้นสุด 1 พ.ย.57 ลดลง 10,000 ราย แตะที่ 278,000ราย (ต่ำกว่า 3 แสนรายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 8) ด้านประสิทธิภาพการผลิตแรงงานนอกภาคเกษตร +2%YoY ต้นทุนแรงงานต่อหน่วย +0.3%YoY

• สหรัฐ ; จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร & อัตราว่างงานเดือนต.ค.57 ของสหรัฐคืนนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มมากกว่าเดือนก่อนที่ปรับตัวขึ้น 248,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานน่าจะทรงตัวที่ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
- ดัชนีราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์แรกเดือนพ.ย.57 ร่วงลงต่อเป็น63.05 US$/ตัน ใกล้ระดับต่ำสุดในปี 52 (สูงสุด 191 US$/ตันในก.ค.51ต่ำสุด 62 US$/ตันในเม.ย.52) ปัจจัยกดดัน คือ ปริมาณการใช้ชะลอตัวลงจากเศรษฐกิจจีน & โลกที่ยังซบเซา และมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานประเภทอื่นมากขึ้น เรายังคงแนะนำ Underperform BANPU

- สัญญาน้ำมันดิบอ่อนตัวต่อ โดย WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. -77 เซนต์ ปิดที่ 77.91 US$/bbl ด้าน BRENT -9 เซนต์ ปิดที่ 82.86 US$/bbl
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลงต่อ 3.1 US$หรือ -0.27% ปิดที่ 1,142.6 US$/ออนซ์

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหลักทรัพย์เด่น
      •/+ กลุ่มยานยนต์ : มาสด้าขึ้นไลน์การผลิตอีโคคาร์เฟส 2 รายแรกโดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1.2 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าจะให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถประหยัดพลังงานเพื่อส่งออกไปทั่วโลก ด้านรมว.คลังกล่าวว่ากำลังหาโอกาสชักชวนผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมนีมาลงทุนอีโคคาร์ในไทย โดยหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอีโคคาร์ของเอเชีย

       ความเห็น DBS Retail Research : นับเป็นข่าวบวกกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในระยะยาว แต่ระยะสั้นและปี 58 อุตสาหกรรมยังฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ เพราะอุปสงค์ภายในยังซบเซาและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้า หุ้นเด่นคือ SAT ซึ่งมีรายได้จากคูโบต้าและฮีโน่ด้วยจึงไม่พึ่งพิงแต่เฉพาะรถซีดาน ทำให้การชะลอตัวของรายได้น้อยกว่าอุตสาหกรรม คาดกำไรสุทธิ3Q57 เติบโต 10-15%QoQ และขยายตัวต่อใน 4Q57 ส่วนปี 58คาดการณ์การเติบโตไว้ที่ 10-12%

     + ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคกระเตื้องขึ้น เดือนต.ค.57 อยู่ที่ 80.1 จาก 79.2ในเดือนก่อนหน้า โดยผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้นในปี 58 หลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังกังวลความไม่แน่นอนการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก ม.หอการค้าไทยคาด GDP ไทยปีนี้โต 1.3-1.5% ส่วนปี58 เพิ่มขึ้น 4-5%

       -/• CSL ขาดทุนจากการบันทึกด้อยค่าบริษัทที่ทำสมุดหน้าเหลืองบริษัทรายงานขาดทุนสุทธิ 3Q57 เท่ากับ 464 ล้านบาท (-0.78 บาท/หุ้น)และงวด 9M57 ขาดทุนสุทธิ 246 ล้านบาท (-0.41 บาท/หุ้น) ทั้งนี้บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานใน 3Q57 เท่ากับ 86 ล้านบาท (+0.14 บาท/หุ้น)ลดลง 17%YoY เพราะรายได้ด้านเสียงและบริการเสริมลดลงตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้ Text มากขึ้น ผนวกกับการยืดอายุบัตรเติมเงินระบบPrepaid ตามประกาศของกสทช. และมีรายการพิเศษคือ การบันทึกด้อยค่าความนิยมและเงินลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสมุดหน้าเหลือง 550 ล้านบาทใน 3Q57 ทำให้บรรทัดสุดท้ายเป็นขาดทุนสุทธิดังข้างต้น แต่รายการดังกล่าวเป็นทางบัญชี จึงไม่กระทบสภาพคล่องทางการเงินของ CSL และบอร์ดบริษัทมีมติให้โอนสำรองตามกฎหมาย 31 ล้านบาท + ส่วนเกินมูลค่าหุ้น 141 ล้านบาทไปหักขาดทุนสะสมที่มี ณ สิ้นก.ย.57 ที่ 172 ล้านบาท ทำให้ไม่มีผลขาดทุนสะสมและสามารถจ่ายปันผลได้ ทั้งนี้หลังดำเนินการแล้วส่วนเกินมูลค่าหุ้นจะคงเหลือ 321 ล้านบาท เราประเมินว่าบริษัทจะจ่ายปันผล 0.55-0.60 บาท/หุ้นในปี 58 คิดเป็น Yield 5.5-6.0% ซึ่งลดลงจากในอดีต ในเชิงกลยุทธ์ปรับคำแนะนำเป็นถือ (เดิมซื้อเพื่อรับปันผล)

       •/+ LHBANK : ยังเก็งกำไรเรื่องพันธมิตรใหม่ แม้ว่าธนาคารจะปฎิเสธข่าวว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ LH (ถือ 34.12%) และ QH (ถือ 21.43%) ยังไม่มีการตกลงหรือสรุปซื้อขายหุ้นกับพันธมิตรรายใดก็ตาม สำหรับ BVS ของLHBANK ณ สิ้นก.ย.57 อยู่ที่ 1.19 บาท หากให้มีการซื้อขายกันที่ P/BV1.50-2.25 เท่า จะได้ราคาซื้อขายตามตารางด้านล่างนี้


BVS (Bt) – End Sep 2014 1.19
LHBANK Price (Bt) 2.04
Given P/BV (x) Selling Price % Upside
1.50 1.79 -13%
1.75 2.08 2%
2.00 2.38 17%
2.25 2.68 31%
ที่มา : SET, DBS Vickers
• การเมือง : การแก้ไขยกร่างรัฐธรรมนูญเริ่มเดินหน้า โดยกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 และปี 50 มาปรับแก้ โดยไล่ดูไปทีละมาตรา โดยอิงกับสถานการณ์ปัจจุบัน หวังลดความขัดแย้งและกำจัดคอร์รัปชั่น

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 arparporns@th.dbsvickers.com

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!