Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 14 November 2014 21:27

Hits: 1577

บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “เขียวเต็มแท่ง”
     SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.18 จุด มาปิดที่ 1,577.21 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.1 หมื่นลบ. โดยเป็นผลจากการรีบาวด์ขึ้นจากแนวรับที่ระดับ 1,555 จุด โดยนักลงทุนสถาบันกลับมามี Net Buy เป็นวันแรกหลังจากขายต่อเนื่องหลายวัน ขณที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ส่วนใหญ่ปิดลบเล็กน้อย ลดความร้อนแรงหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันหลายวัน

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวลดลงแรง 2.97 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันที่เมืองคุชชิงปรับตัวเพิ่มขึ้น
(-) ในวันที่ 19 พ.ย. ที่ประชุมตลท.จะมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการควบคุมหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง หลังจากพบว่า สัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหุ้นเก็งกำไร ในปัจจุบัน สูงถึง 20% ของมูลค่าการซื้อขายรวม
(-) ผลสำรวจ Bloomberg Global Poll ออกมาว่านักลงทุนต่างชาติยังกังวลต่อเศรษฐกิจในภูมิภาคยุโรปและกลุ่ม emerging โดยเฉพาะภาวะเงินฝืด
(-) ธนาคารกลางอังกฤษ ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ปี 58 ลงมาที่ 2.9% จากคาดการณเดิมที่ 3.1% จากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว
(+) ความคืบหน้ารถไฟฟ้ากึ่งความเร็วสูงเชื่อมไทย-ลาว-จีน เตรียมเสนอแผนเข้า ครม. 18 พ.ย. และเตรียมเซ็น MOU ในเดือน ธ.ค.
(+) Fund Flow จากนลท.ต่างชาติ กลับมาเป็น Net Buy เป็นวันที่ 2 วานนี้ที่ 4 ร้อยลบ. รวมยอด Net Buy สะสม 2 วัน 9 ร้อยลบ.
(+) ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง (ล่าสุด 32.81 บาท/US) คาดว่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มส่งออก (อาหาร และ อิเล็กทรอนิกส์)

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* การรายงานผลประกอบการ 3Q57 ของบริษัทจดทะเบียน
* ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน
* รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐ เดือน ต.ค. (ตลาดคาด +0.2%YoY)

กลยุทธ์การลงทุน “แกว่งขึ้นต่อ”
คาดหมายการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีในวันนี้ โดยตลาดในวันนี้ได้แรงหนุนจากโมเมนตัมตลาดจากต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแรง และข่าวดีเฉพาะของตลาดไทย อีกทั้งยังมีความคืบหน้าของโครงการภาครัฐที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจในปี 59 แนะนำ เก็งกำไรกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่างไรก็ดีจากที่ตลาดปรับขึ้นแรงวานนี้ เราจึงคาดหมายแรงขายทำกำไรสร้างความผันผวนระหว่างวัน

หุ้นเด่นประเด็นร้อน
JAS (ราคาปิด 7.50 บาท/ ราคาเหมาะสม 8 บาท)
* กลต. อนุมัติ Filing ตั้งกองทุน JASIF ตั้งแต่ 12 พ.ย. 57
* มูลค่ากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าไม่เกิน 6.5 หมื่นลบ. คาดมีกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 1.45-2.2 หมื่นลบ. (คิดเป็น 2.05-3.10 บาท/หุ้น) และคาดมีการจ่ายปันผลพิเศษออกมาราว 0.50 บาท/หุ้น (Div. Yiled 7%)
* ประเมินที่ระดับ PER 15 เท่า ได้ราคาพื้นฐาน JAS ปี 58 ที่ 9 บาท (0.61*15) แต่หักผลกระทบจากประเด็นเจ้าหนี้แผนฟื้นฟูกลับมาเรียกร้องหนี้ไป 1 บาท

CK ราคาปิด 26.50 บาท ราคาเหมาะสม 28.80 บาท
* เก็งกำไรข่าวได้ประโยชน์จากโครงการรถไฟฟ้ากึ่งความเร็วสูง
* คาดกำไรงวด 3Q57 ทะลุ 1,000 ลบ.หลังจากบันทึกกำไรขาย BMCL
* ลุ้นสิ้นปี 57 มูลค่างานในมือสูงถึง 1 แสนลบ. (รองรับรายได้ไปได้อีก 2-3 ปีข้างหน้า)

ฝ่ายวิเคราะห์ฯ