WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

SET กลับมาบวกได้ดีแต่มีสิทธิผันผวน จึงถือต่อได้แต่ซื้อน่ารออ่อนตัว...

  กลยุทธ์ : หลังจาก SET เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนอีกครั้ง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำต่างๆ เริ่มพลิกกลับเป็นบวก ทำให้ยังลุ้นโอกาส SET แกว่งตัวขึ้นต่อ ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นทยอยซื้อช่วงลบไปแล้วก็สามารถถือต่อเนื่องได้ เนื่องจาก FSS ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงท้ายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า แต่ถ้าจะเทรดดิ้งต่อก็ต้องตามดูจังหวะการแกว่งของตลาดด้วย และยังแนะนำให้รอซื้อเพิ่มในช่วง SET อ่อนตัวลงดีกว่าอยู่


  หุ้นเด่นทางเทคนิค : ERW, STEC , KTC(short)
  แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET สามารถพลิกกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวในด้านบวกได้อีกครั้ง เพื่อตอบรับข่าวดีจากการที่ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป และจะดำเนินการมากขึ้นเพื่อหนุนเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากที่ในช่วง 2 วันก่อนหน้า SET ก็ได้ปรับพักตัวลงพอควรแล้วด้วย โดยวานนี้มีทั้งแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าเป็นปัจจัยสนับสนุน ขณะที่เช้านี้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียก็ถือว่ายังค่อนข้างสดใสตามภาวะตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ที่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ยังขยับขึ้นด้วยกรอบจำกัด และมีแนวโน้มที่จะแกว่งผันผวนได้อยู่ ทำให้ยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนของ SET ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบ่ายวันนี้คงต้องรอดูผลประชุมบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ กับสมาคม บล.ด้วยว่าจะมีมาตรการคุมเข้มหุ้นเก็งกำไรในลักษณะใดออกมากดดันตลาดหรือไม่
  แนวรับ 1580-1576 , 1573-1568 จุด แนวต้าน 1584-1588 , 1590-1595 จุด
  Fund Flow วานนี้ไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคเกือบทุกตลาดในปริมาณที่หนาแน่น โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$241.7 ล้าน ไต้หวัน US$11.2.7 ล้าน ไทย US$43.6 ล้าน อินโดนีเซีย US$20.1 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$14.3 ล้าน แต่ขายเวียดนาม US$10.2 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow น่าจะไหลเข้าต่อ

 

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) ระวังหุ้นเล็กทำ sentiment เสีย จับตาผลการหารือของคณะกรรมการตลท.วันนี้ถึงมาตรการคุมหุ้นร้อน โดยตลท.ส่งสัญญาณว่าจะไม่ใช่มาตรการเหวี่ยงแห แต่เพิ่มเวลาให้นักลงทุนตัดสินใจมากขึ้น และทำให้ PE ของตลาด mai ปรับลงมาจากปัจจุบัน 72 เท่า ซึ่งปัจจุบันมีบริษัท 1 ใน 4 ที่ยังขาดทุนอยู่
  (+) JSP เริ่มซื้อขายวันนี้ JSP ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาฯประเภทอาคารพาณิชย์ ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และรับจ้างบริหารโครงการอสังหาฯ ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างขาย 3 โครงการ มูลค่า 1.48 หมื่นล้านบาท คือสำเพ็ง 2 (อาคารพาณิชย์) โครงการทิวลิปสแควร์ และไมอามี่บางปู (คอนโด) ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ใน 3-5 ปี และมีโครงการในอนาคตอีก 5 โครงการ มูลค่า 4.16 พันล้านบาท เราคาด EPS ปี 2014-15 โต 53.5% และ 167% ตามลำดับ โดยรายได้หลักในปี 2015 จะมาจากโครงการสำเพ็ง2 เฟส 3 และ 4 เริ่มโอนตั้งแต่ 1Q15 (คาดโอน 100%) ทิวลิปสแควร์และไมอามี่บางปู ที่ราคา IPO คิดเป็น PE 8 เท่า เราประเมินเป้าหมายปี 2015 ที่ 3.30 บาท (PE 10 เท่า) (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ JSP)
  (+) ท่องเที่ยวฟื้น นักท่องเที่ยวเดือน ต.ค. พลิกเป็น +6% Y-Y เป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนเป็น 2.18 ล้านคน นักท่องเที่ยวชาววจีนกลับมาโตอย่างโดดเด่น 67% Y-Y เป็นสัญญาณที่ดีหลังจากปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากทัวร์ศูนย์เหรียญ ขณะที่ยุโรปและอเมริกายังติดลบ 11% Y-Y และ 7% Y-Y เรายังคงนำหนัก Overweight จากสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่ชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะกำลังเข้าสู่ high season ใน 4Q14-1Q15 แนะนำ CENTEL (TP 40 บาท) ERW (TP 5.90 บาท) และ AAV (TP 5.40 บาท)
  (+) RML กำไรปกติ 3Q14 ดีกว่าคาด เราปรับกำไรปกติปี 2014 ขึ้น 11% เป็นโต 79% Y-Y แต่คงกำไรปกติปี 2015 โตต่อเนื่องอีก 7% Y-Y ปัจจุบันมี Backlog 1.02 หมื่นล้านบาท และมีแผนเปิดโครงการบ้านเดี่ยว 1 แห่งมูลค่า 600 ล้านบาทปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า รับรู้เป็นรายได้ปลายปี 2016 ทั้งนี้ บริษัทอาจงดจ่ายปันผลปี 2014 หรือหากจ่าย อาจจ่ายเป็นหุ้นปันผล เรายังคงแนะนำซื้อ ไม่ใช่ด้วย Dividend yield แต่เป็นการเติบโตของกำไรที่สูงและ PE ที่ต่ำเพียง 5.4 เท่าปีหน้า ราคาเป้าหมายคงเดิมที่ 2.40 บาท
  (+) RS กำไร 3Q14 ดีกว่าคาดจากทั้งกำไรบอลโลกและจากธุรกิจหลักที่ฟื้นแรง เพราะ Rating ของช่อง 8 (ทีวีดิจิตอล) ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เราปรับกำไรปี 2014 ขึ้น 36% เป็นโต 13% Y-Y และปรับกำไรปี 2015 ขึ้น 41% เป็นโต 18% Y-Y ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2015 เป็น 11.80 บาทจากเดิม 8.40 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหลังดัชนีที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงแรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นตัดสินใจเลื่อนการปรับขึ้นภาษีผู้บริโภค
  ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้ต่อเนื่องหลังตัวเลขดีชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้พอสมควรซึ่งลดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ชะลอตัว
  ส่วนตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้หลัง DJIA ปิดทำจุดสูงสุดใหม่รวมถึงปัจจัยบวกจากการเลื่อนการปรับขึ้นภาษีผู้บริโภคของญี่ปุ่น
  ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกทางข้าง ล่าสุดแกว่งตัวในกรอบ 32.70-32.85 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 1.03 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 74.61 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนจับตาดูการประชุม OPEC ปลายเดือนนี้ว่าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงหรือไม่
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้น 13.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,197.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรหลังตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาดีกว่าคาด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

19 พ.ย. - ไทย: JSP เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.60 บาท)
- ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ต.ค.)
20 พ.ย. - จีน: HSBC China Manufacturing PMI (พ.ย.)
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อและยอดขายบ้านเก่า (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (พ.ย.)
21 พ.ย. - ไทย: CBG เริ่มเทรด (ราคา IPO 28 บาท)
24 พ.ย. - ไทย: ดุลการค้า (ต.ค.), VPO เริ่มเทรด (ราคา IPO 2.70 บาท)
- สิงคโปร์: 3Q14 GDP
25 พ.ย. - สหรัฐ: 3Q14 GDP
26 พ.ย. - ไทย: MTLS เริ่มเทรด (ราคา IPO 5.50 บาท)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน, ยอดขายบ้านใหม่ (ต.ค.)
27 พ.ย. - ฟิลิปปินส์: 3Q14 GDP
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!