WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (-/+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA -2.09, NASDAQ -26.73, S&P -3.08, FTSE -12.53, CAC +3.81 และ DAX +16.27 จากการขายทำกำไรหลัง DJIA ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผย (-) ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน – ตค. ลดลง 2.8% อยู่ที่ 1.009 ล้านยูนิต แต่ (+) ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้าง – ตค. ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคตปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% อยู่ที่ 1.08 ล้านยูนิต และรายงานการประชุมเฟด (28-29/10/57) ระบุอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อาจลดลงในระยะเวลาอันใกล้นี้ หลังราคาน้ำมันชะลอตัวลง แต่คาดจะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ทำให้คาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไปอีก และคาดช่วยหนุนตลาดหุ้นให้แข็งแกร่งมากขึ้น
  …..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธค. -US$0.03 อยู่ที่ US$74.58 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากสต็อกน้ำมันดิบล่าสุด เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล (สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 0.78 ล้านบาร์เรล) อยู่ที่ 381.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่วันที่ 4/7/57 ก.ค. ขณะที่อยู่ระหว่างรอการประชุมกลุ่มโอเปค (27/11/57) โดยยังมีความเห็นที่แตกต่างว่าควรจะปรับลดเพดานการผลิตหรือไม่?
  ....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$3.2 อยู่ที่ US$1,193.9 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยกดดันจากประเด็นที่ชาวสวิสจะปฏิเสธแผนการเปิดทางให้ธนาคารกลางสวิสสามารถถือครองทองคำอย่างน้อย 20% ในสินทรัพย์ของธนาคารกลาง
   (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +493 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -12,725 ล้านบาท (สิ้นปี’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
  ทิศทางตลาด : Sideway ? ภายใต้ปัจจัยหนุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากรายงานการประชุมของเฟด ที่มีการคาดหมายว่าเฟดคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไป หลังอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ รวมถึงการส่งสัญญาณของ ECB ก่อนหน้านี้ว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
  …..ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับปัจจัยบวกจากประเด็น Fund Flow หลังต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค ขณะที่แนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลัง GDP – 3Q/57 เติบโตต่ำกว่าคาด
  .....รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับวงเงินลงทุนกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 8 ปี (ปี’ 58 – 65) ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะสรุปในเดือน พ.ย. หลัง (21/10/57) ครม. อนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ในปี ’58 – ’65 เช่น รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า การขยายถนน และการขยายสนามบินฯ เป็นต้น เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพของประเทศ ให้รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งคาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะได้รับผลดีต่อเนื่องในระยะยาว โดยล่าสุด (18/11/57) ครม. อนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางหนองคาย – มาบตาพุด ระยะทาง 867 กม. ระหว่างไทย – จีน ด้วยวิธี G to G เงินลงทุน 400,000 ล้านบาท คาดเริ่มก่อสร้างปี’59
  ....นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง หลังมีการยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต เมื่อ 30/9/57 ซึ่งมีผู้ยื่นซองทั้งหมด 4 ราย (ITD, CK, STEC และ UNIQ) คาดใช้ระยะเวลา 1 – 3 เดือน ทราบผลการประมูล คาดอย่างเร็วคาดสามารถลงนามสัญญาและเริ่มก่อสร้างในช่วง 1H/58
  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.03 อยู่ที่ 2.35% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.10 อยู่ที่ 13.96
  หุ้นแนะนำ : BCP

ประเด็นที่ต้องติดตาม (20 - 21 พย.’57)
   20/11/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - ตค. (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ยอดขายบ้านมือสอง - ตค. (4) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น - พย. (5) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - ตค. (6) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - พย.
21/11/57 : ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!