Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 24 November 2014 16:59

Hits: 1391

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
สลับมาซื้อหุ้นขนาดใหญ่ที่ยัง Laggard
     SET ฟื้นตัวแรงบวกถึง 10.5 จุดมาปิดที่ 1579.2 จุด มูลค่าซื้อขายแตะระดับ 6 หมื่นล้านบาทสูงสุดนับตั้งแต่ 10 พ.ย.57 หุ้นกลุ่มนำตลาดได้แก่ รับเหมา (+2.5%), ปิโตร (+1.8%), ธนาคาร (+1.7%) กองทุนในประเทศซื้อสุทธิมากถึง 2.3 พันล้านบาท ร่วมกับนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิเล็กน้อยราว 45 ล้านบาท แต่พอร์ตโบรคเกอร์ขายสุทธิ 585 ล้านบาท

ปัจจัยการลงทุนวันนี้

      ธนาคารกลางจีน สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.ค.55 โดยเป็นการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.4% เหลือ 5.6% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลง 0.25% เหลือ 2.75% เรามองว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของจีน สะท้อนว่า (1) เศรษฐกิจจีนอาจเติบโตได้ต่ำกว่าคาด จึงจำเป็นต้องใช้นโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ (2) ปัญหาฟองสบู่อสังหาฯน่าจะอยู่ในระดับที่รัฐบาลจีนควบคุมได้
      ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงจุดยืนชัดเจนที่จะต่อสู่กับภาวะเงินฝืดในยูโรโซนและเปิดกว้างสำหรับการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
รมว.พลังงาน เผยว่า กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล โดยจะทยอยปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต ซึ่งในที่สุดจะทำให้ราคาขายน้ำมันดีเซลขยับขึ้นมาใกล้เคียงกับราคาน้ำมันเบนซิน
     รมว.คลัง เผยว่า ปลายปีงบประมาณ 58 รัฐบาลจะพิจารณาปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ราว 1-3% จากปัจจุบันที่ 7%
     ท่าอากาศยานไทย (AOT) เผยแผนการลงทุนพัฒนาสนามบินในปี 2558-62 เบื้องต้นใช้เงินลงทุน 9.3 หมื่นล้านบาท
     ปปช.คาดจะส่งรายงานถอดถอน 38 ส.ว.กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ให้กับสนช.ในช่วง 26-28 พ.ย.นี้
     แม้ Fed ยุติโครงการ QE แต่สภาพคล่องในระบบการเงินโลกยังคงอยู่ในระดับสูง เพราะธนาคารกลางหลายประเทศในโลก เช่น ญี่ปุ่น ยูโรโซน และจีน มีแนวโน้มใช้มาตรการผ่อนคลายอย่างต่อเนื่อง สภาพคล่องดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนให้ SET ทรงตัวในระดับสูง แม้ Valuation ค่อนข้างแพง ด้วย prospective P/E ratio เกิน 18x ณ สิ้นปี 57 ในเชิงกลยุทธ์ เรายังเชื่อว่า SET จะถูกขับเคลื่อนด้วยแรงซื้อของกองทุนในประเทศ (ตามสถิติ 10 ปีล่าสุด นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิในเดือน พ.ย. บ่อยถึง 9 ปี เฉลี่ย 5.7 พันล้านบาทต่อเดือน) แนะนำซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดย switch จากกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวแรงเมื่อวันศุกร์ มาสู่กลุ่มวัสดุฯ (SCC), กลุ่ม ICT (INTUCH) และกลุ่มพลังงาน (PTT, BCP)

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
    ถือหุ้น 10%
    เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC

Accumulate: -- รอสะสมหุ้น
Trading: เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1560 จุด ต่ำกว่า รอ

เปรียบเทียบดัชนี

สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (30%) = +0.4%
ผลตอบแทนถือเงินสด (70%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.2%
ผลตอบแทนตลาด SET = +16.7%
??พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
??วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
??วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
??วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
??วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
??รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130