Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Wednesday, 26 November 2014 16:56

Hits: 1810

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : เป้าหมายมีไว้พุ่งชน
Technical : แนวรับ 1,591 / 1,576 แนวต้าน : 1,600 / 1,632
หุ้นแนะนำพิเศษ : SAMART
หุ้นเด่นรายวัน : BWG

  ปัจจัยบวกจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น และ ECB ยังคงเป็นแรงหนุนให้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นำโดยกลุ่ม ICT และพลังงาน ส่งผลให้ SET ดีดตัวขึ้นปิดที่ 1,596.80 (+6.66 จุด) Volume 6.4 หมื่นลบ. โดย Foreign Net buy 1.2 พันลบ. และ Net Long TFEX 1 หมื่นสัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  Momentum เชิงบวกจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศ รวมถึงแรงซื้อจาก Fund flow ทั้งฝั่งของหุ้นและ TFEX ยังคงเป็นแรงหนุนต่อภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ดังนั้นยังคงมุมมองว่า SET จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบ High เดิมบริเวณ 1,602 จุด อย่างไรก็ตามคาดว่าภาวะตลาดระหว่างวันจะมีความผันผวนสูงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นตามสัญญาณเทคนิคที่ดีดตัวขึ้นทดสอบ High เดิม

กลยุทธ์
  แนะนำซื้อเก็งกำไร และสามารถถือหุ้นข้ามวันได้ (หาก SET ไม่ปิดต่ำกว่า 1,580 จุด) โดยเน้นหุ้นในกลุ่มที่เป็นเป้าหมายการซื้อของ Fund flow เช่น ธนาคาร ICT รับเหมาก่อสร้าง รวมถึงซื้อสะสมในหุ้นที่คาดว่าจะเข้าSET50Index ในรอบถัดไป CK KTIS HEMRAJ และหุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์จากการที่บอร์ด BOI อนุมัติโครงการลงทุนอีโคคาร์ เฟส 2 ได้แก่ HEMRAJ AMATA

หุ้นแนะนำพิเศษ
SAMART : ราคาปิด 36.00 บาท ซื้อเก็งกำไร
  เป้ารายได้ปี 57 ที่ 3 หมื่นลบ. คาดกำไร Q4/57 ขยายตัวขึ้นจากยอดขายกล่อง Set top box บ.ตั้งเป้า 2 ล้านกล่อง มูลค่า 2 พันลบ.ในปีนี้ , การส่งมอบงานของ SAMTEL และ High season การขายมือถือ SIM
  รับรู้กำไรเพิ่มขึ้นจากการเข้าถือ SIM เพิ่มขึ้นเป็น 70%
  ตั้งบริษัทย่อยลุยธุรกิจพลังงานทดแทน คาดเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังงานทดแทน 2 แห่งภายในสิ้นปีนี้
  เตรียมออกหุ้นกู้ 5 พันลบ.ใน Q4/57 ใช้ลงทุนและชำระหนี้

หุ้นเด่นรายวัน
BWG : (ราคาปิด 5.25 บาท ซื้อเก็งกำไร)
  ก.อุตสาหกรรมมีโครงการผลักดันให้โรงงานที่มีขยะของเสียอุตสาหกรรมทั้งระบบทั่วประเทศจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกาก (ที่มา..ไทยรัฐ)
  มุมมองเทคนิค - แนวรับ 5.15 แนวต้าน 5.45 , 6.00 จุด cut loss 5.00
  กราฟอยู่ในช่วงกลับตัว W shape และราคายกตัวขึ้นเหนือเส้น EMA 10 วันได้ต่อเนื่อง พร้อมกับเครื่องมือ RSI + MACD ชี้ขึ้นสนับสนุนทิศทาง จึงคาดว่าจะปรับตัวขึ้นต่อได้

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* AJD / CGD มีผลบังคับใช้ 6 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
*RICH / SUPER มีผลบังคับใช้ 13 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* ACD / CIG / EMC / FOCUS / GENCO / NIPPON / SST / TAKUNI / TIES มีผลบังคับใช้ 20 ต.ค. - 28 พ.ย. 57
* BSM / PCA / SANKO / SVOA / TFI / WIN มีผลบังคับใช้ 27 ต.ค. - 4 ธ.ค. 57
* ABC / CCN / CSS / EVER / GENCO-W1 / KC / LOXLEY-W / RCI / RPC / WAT มีผลบังคับใช้ 3 พ.ย. – 12 ธ.ค. 57
* AEC/ AEC-W2 / CGD-W3 / CHOW / CKP / GEL-W4 / LIVE / MILL-W2 / PAE / PLE-W2 / RWI มีผลบังคับใช้ 10 พ.ย. - 19 ธ.ค. 57
SPA / TEAM / TSE/ CEN / E / EE / IFEC / MAX / MIDA / NMG / TWZ / UWC / VTE / VTE-W1 มีผลบังคับใช้ 17 พ.ย. - 26 ธ.ค. 57
CGS / FSMART / MACO-W1 / PAE-W1 / PRECHA / PRINC / SMM / TIES-W2 มีผลบังคับใช้ 24 พ.ย. - 30 ธ.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : -2.96 จุด
  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,814.94 จุด ลดลง 2.96 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,758.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ +0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.03 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.12% หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของสหรัฐปรับตัวลง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาบ้านในสหรัฐก็ชะลอตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากตัวเลขGDP ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3

ตลาดน้ำมัน NYMEX : -1.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.69 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย และจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันพฤหัสบดีนี้อย่างใกล้ชิด

Analyst :
วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร
Assistant Analyst : บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์