WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
กลุ่มพลังงานกดดันตลาด
      SET ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.82 จุดมาปิดที่ 1599.82 มูลค่าการซื้อขายลดลงเหลือ 5 หมื่นล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 อีก 155 ล้านบาท ขณะที่ผู้ซื้อสุทธิหลักยังคงเป็นพอร์ตโบรคเกอร์ 382 ล้านบาท (ซื้อสุทธิ 4 วันติดต่อกัน) และต่างชาติ 211 ล้านบาท (ซื้อสุทธิ 5 วันติดต่อกัน)

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
     การประชุม OPEC วานนี้ มีมติคงกำลังการผลิต ทำให้สถานการณ์น้ำมันของโลกยังมีอุปทานส่วนเกิน (Oversupply) ราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงแรง เพราะก่อนหน้านี้ ตลาดประเมินว่าการลดกำลังการผลิตอย่างน้อย 1 ล้านบาร์เรลจะช่วยพยุงราคาน้ำมันได้
จำนวนผู้ว่างงานในเยอรมันเดือน พ.ย.ลดลง 1.4 หมื่นตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg survey ที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1 พันตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 6.6% เท่ากับเดือน ก.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ดี แม้พื้นฐานเศรษฐกิจเยอรมันจะแข็งแกร่ง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนยังฟื้นตัวช้า สัปดาห์หน้าต้องติดตามการรายงาน GDP 3Q57 ของกลุ่มยูโรโซน (3 ธ.ค.) และการประชุม ECB (4 ธ.ค.)
      กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน ต.ค.ลดลง 2.1%YoY นับเป็นการหดตัวมากสุดนับตั้งแต่ ส.ค.55 และแย่กว่าเมื่อเดือน ก.ย.ที่ขยายตัวได้ 0.4%YoY แสดงให้เห็นว่า จีนมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงิน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี
  ราคาน้ำมัน WTI และ Brent ปรับตัวลงแรงมากถึง 7% และ 6.65% ตามลำดับ ส่งผลลบต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งมีน้ำหนักต่อ SET มาก ด้วยสัดส่วน Market cap. มากถึง 17% และสัดส่วนกำไรสุทธิใน 9M57 เท่ากับ 26% สูงสุดใกล้เคียงกับกลุ่มธนาคาร ดังนั้น เราคาดว่า SET มีโอกาสพักฐานวันนี้ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมีในระยะสั้น ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ KSS research ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 99 เหรียญฯต่อบาร์เรลในปีนี้ และมีแนวโน้มลดลงเหลือ 90 เหรียญฯต่อบาร์เรลในปีหน้า โดยค่าเฉลี่ยราคาน้ำมันดิบดูไบตั้งแต่ต้นปีถึง 21 พ.ย.57 เท่ากับ 100 เหรียญฯ
       กลยุทธ์วันนี้ เราแนะนำซื้อหุ้นเชิงรับเพื่อป้องกันความผันผวนจากตลาด เช่น กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC, INTUCH ซึ่งมีปันผลสูง, ราคายัง laggard และนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสะสมไม่มากในปีนี้ หรือเก็งกำไรหุ้นขนส่งที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันที่ลดลง

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือหุ้น 10%
เราถือครองหุ้นเหลือ 10% และถือเงินสด 90% โดยจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ 2 บริษัทคือ HMPRO, และ ADVANC

  Accumulate : -- รอสะสมหุ้น
  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1590 จุด ต่ำกว่า รอ

เปรียบเทียบดัชนี
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่มวันที่ 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 10% ถือเงินสด 90%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (10%) = +0.5%
ผลตอบแทนถือเงินสด (90%) = +1.8%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +2.3%
ผลตอบแทนตลาด SET = +18.3%

พอร์ตลงทุน KSS ได้รับรู้กำไรจากการลดพอร์ต 5 ครั้งในวันที่ 2 ก.ย. ลดจาก 70% เหลือ 60% (ส่วนต่างขาดทุนเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก -0.7%)
วันที่ 5 ก.ย. จาก 60% เหลือ 50% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +3.3%)
วันที่ 16 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 50% เหลือ 30% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +5.9%)
วันที่ 24 ก.ย. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 30% เหลือ 20% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก +1.7%)
วันที่ 15 ต.ค. ขายหุ้นลดพอร์ตจาก 200% เหลือ 10% (ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 0%)
รวมการรับรู้ส่วนต่างกำไรเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจากการลดพอร์ต 4 ครั้งคิดเป็น +10.2%

Analysts :
Registration 17622
Piyapat Patarapuvadol Registration No. 49016
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!