WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ภาวะตลาดหุ้นเมื่อวันอังคาร:
      SET ปรับฐานแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 15.99 จุด ปิดที่ 1559.56 มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ปรับตัวลดลงแรง 3.8% และ 2.6% ตามลำดับ ตามทิศทางขาลงของราคาน้ำมันดิบโลก นักลงทุนต่างชาติเทขายหนักมากถึง 3.5 พันล้านบาท มากสุดนับตั้งแต่ 19 มิ.ย.57 ที่เคยขายสุทธิ 3.9 พันล้านบาท ร่วมกับพอร์ตโบรคเกอร์ 1.2 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาท

แนวโน้มวันนี้:
       ความผันผวนในตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดขึ้นต่อเนื่อง พร้อมด้วยปัจจัยกดดันใหม่คือ ความไม่มั่นคงทางการเมืองของกรีซ ขณะที่ปัจจัยลบเดิมอย่างราคาน้ำมันตกต่ำยังมีผลต่อตลาดหุ้นโลกอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมัน WTI และ Brent ร่วงลงเหลือ 61 และ 64 เหรียญฯ/บาร์เรล ตามลำดับ เราประเมินว่า SET มีโอกาสปรับฐานต่อเนื่อง ตามแนวโน้มของตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้น กลุยทธ์ในช่วงนี้ เน้นซื้อหุ้นตั้งรับ (Defensive) ที่มีความผันผวนต่ำเป็นหลัก หรือทยอยซื้อหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะ เมื่อราคาอ่อนตัว
เช้านี้ KSS research ออกรายงาน Special Issue: Global liquidity will remain ample in the next year ประเมินสภาพคล่องของตลาดทุนโลกในปีหน้ายังอยู่ในระดับสูง จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของหลายประเทศ ขณะที่ Fed ยังไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ย ถือเป็น ปัจจัยบวกสำหรับ SET ในปีหน้า

ปัจจัยที่มีผลกระทบ (รายละเอียดเพิ่มเติมหน้า 2)
      ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา สร้าง sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ (-)
ความเสี่ยงทางการเมืองกรีซ อาจนำไปสู่ความยากลำบากในขอความช่วยเหลือทางการเงิน (-)
ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงทั้ง WTI และ Brent กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน (-)
เงินเฟ้อจีนต่ำสุดในรอบ 5 ปี เพิ่มแรงกดดันในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เสริมสภาพคล่องของโลก (+)

กลยุทธ์การลงทุน
เน้นหุ้นเชิงรับ ปลอดภัยไว้ก่อน เลือกหุ้น Low beta เช่น M (Beta = 0.80), SAT (0.80)
ทยอยซื้อสะสมหุ้นที่คาดว่า กำไรสุทธิ 4Q57 จะเป็นจุดสูงสุดของปี ได้แก่ LPN, PS, SPALI

รายงานประจำวันนี้

CONS | น้ำหนักการลงทุนมากกว่าตลาด
News Comment: กลุ่ม ITD, STEC และ UNIQ ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต)

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!