WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View  :  ปรับตัวลงต่อทดสอบแนวรับสำคัญ 1507 - 1500

Technical  : แนวรับ   1,500 / 1,480 แนวต้าน : 1,530 / 1,546

หุ้นแนะนำพิเศษ   : AAV

หุ้นเด่นรายวัน :   RWI  TASCO

  SET สัปดาห์ก่อนทรุดตัวลง 4 วันต่อเนื่อง จากแรงกดดันของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงทำ New low ในรอบ 5 ปี  รวมถึงกลต.อนุมัติมาตรการสกัดหุ้นร้อนตามข้อเสนอของตลท.  ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,514.95 จุด (- 11.86 จุด) Volume 5.1 หมื่นล้านบาท โดย Foreign Net Sell 2.9 พันลบ. และ Net Short TFEX 5.8 พันสัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

  ราคาน้ำมันทรุดตัวลงหลุด 60 USD/Barrel เป็นแรงกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมถึงความกังวลการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกหลังจากที่จีนลดคาดการณ์ GDP ปี 2558 ลงสู่ 7.1% จาก 7.4% ในปี 2557 ดังนั้นคาดว่า SET มีโอกาสที่จะลงไปทดสอบโซนแนวรับสำคัญ 1,487 – 1,500 จุด

กลยุทธ์

  แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มหลัก เช่น ธนาคาร  ICT ที่โซนแนวรับ 1,487 – 1,500 จุด ซึ่งเป็นโซนที่คาดหวังการเกิด Technical rebound จากภาวะ Oversold และซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มสายการบินที่ได้รับอานิสงส์จากกาเข้าสู่ High season การท่องเที่ยวและต้นทุนน้ำมันที่ปรับตัวลง

หุ้นแนะนำพิเศษ

AAV :  ราคาปิด  4.82 บาท   Consensus 5.01 บาท

  IATA คาดกำไรสุทธิปี 2558 ของสายการบินทั่วโลกอยู่ที่ 2.5 หมื่นล้าน USD. สูงกว่าคาดการณ์เดิม เนื่องจาก Demand ผู้โดยสารแข่งแกร่ง และต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง

  คาด Q4/14 พลิกกลับเป็นกำไรจาก High season การท่องเที่ยว , ราคาน้ำมันลดลง และการเพิ่มบริการ Fly-Thru จาก 20 เส้นทางบิน เป็น 116 เส้นทางบิน

  คาดกำไรปี 58 เติบโตขึ้นจากต้นทุนหลักน้ำมันปรับตัวลงแรง (30-40%) รวมถึง Loading factor ที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาการเมืองที่คลี่คลาย

หุ้นเด่นรายวัน

RWI :   ( ราคาปิด 7.15 บาท ซื้อเก็งกำไร)

  ปี 2558 ตั้งเป้ารายได้ +30% เพราะมีโครงการลงทุนต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้วัสดุของบริษัทออกมาอย่างต่อเนื่อง เตรียมทุ่มงบลงทุน 140 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตอย่างน้อย 50%  (ที่มา...กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ )

  มุมมองทางเทคนิค : แนวรับ 7.00  แนวต้าน 7.75 , 8.40 จุด cut loss  6.60 กราฟพลิกตัวขึ้นแบบ W shape โดยราคาสามารถยืนปิดเหนือเส้น EMA 10 วันได้ต่อเนื่อง พร้อมทั้งเครื่องมือ RSI + MACD ชี้ขึ้นสนับสนุนเป็นสัญญาณซื้อ

TASCO :  (ราคาปิด 66.25 ซื้อเก็งกำไร)

  ลุ้นผลงานปี 2558 กระฉูดต่อเนื่องรับอานิสงส์ยุทธศาสตร์พัฒนาเส้นทางคมนาคมของรัฐบาล พร้อมลุ้น SK Energy ช่วยดันยอดขายยางมะตอยตลาดโลกเพิ่มขึ้น ส่วนผลประกอบการ 4Q57 ยังโดดเด่น หลังมีออเดอร์ล้นและราคาน้ำมันลดลง (ที่มา : ทันหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance

* AEC/ AEC-W2 / CGD-W3 / CHOW / CKP / GEL-W4 / LIVE / MILL-W2 / PAE / PLE-W2 / RWI   มีผลบังคับใช้ 10 พ.ย. - 19 ธ.ค. 57

*  SPA / TEAM / TSE

* CEN / E / EE / IFEC / MAX / MIDA / NMG / TWZ / UWC / VTE / VTE-W1      มีผลบังคับใช้ 17 พ.ย. -  26 ธ.ค. 57

* CGS / FSMART / MACO-W1 / PAE-W1 / PRECHA / PRINC / SMM / TIES-W2    มีผลบังคับใช้ 24 พ.ย. -  30 ธ.ค. 57

* CYBER / GBX/ ITD / MLINK / PE / SLC / TFD / TFD-W2              มีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค. 57 - 9 ม.ค. 58

* BGT/ BKD /BKD-W1 / CBG / GRAMMY / MTLS / NBC / NBC-W1 / NCL /  NPP / NPP-W1    มีผลบังคับใช้ 8 ธ.ค. 57 - 16 ม.ค. 58

* BSM / BSM-W1 / GENCO / GENCO-W1 / NOK / RICH / S / SOLAR / TFI / TH / TH-W1    มีผลบังคับใช้ 15 ธ.ค. - 23 ม.ค. 58

***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : - 315.51 จุด

  ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงแรง ส่งผลให้ตลอดทั้งสัปดาห์ดัชนีปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี หรือคิดเป็น 3.8% ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 และดัชนี S&P ปรับตัวลง 3.5% หนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2555 หรือในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ดัชนี Nasdaq ลดลง 2.7% ในรอบสัปดาห์ โดยการปรับตัวลงนี้ได้จุดกระแสวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากการคาดการณ์ว่าการบริโภคเชื้อเพลิงจะลดต่ำลงในรัสเซีย และประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอื่นๆ รวมถึงการขยายตัวในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ กำลังชะลอตัวลง นอกจากนี้ IEA ชี้ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงจะสร้างความเสี่ยงต่อยุโรปและญี่ปุ่น เนื่องจากทั้งยุโรปและญี่ปุ่นต่างเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อต่ำที่ต่ำมากอยู่แล้ว ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 315.51 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 17,280.83 จุด ดัชนี S&P 500 ลบ 33.00 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 2,002.33 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 54.57 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 4,653.60 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX  : -2.14  ดอลลาร์/บาร์เรล

  ราคาน้ำมันแตะระดับต่ำนับตั้งแต่ช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยรุนแรงสุดเมื่อปี 2552 เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก ภายหลังสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์ในปี 2558 นับเป็นสัญญาณล่าสุดว่าตลาดจะยังคงอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาดในปีหน้า ซึ่งราคาที่ลดลงก็อาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และนำไปสู่การลดการลงทุนด้านการขุดเจาะน้ำมันในโครงการใหญ่ๆหลายโครงการ ซึ่งในรายงานตลาดน้ำมันประจำเดือนธ.ค. IEA ได้ปรับลดแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2558 ลง จากการคาดการณ์ว่าการบริโภคเชื้อเพลิงจะลดต่ำลงในรัสเซีย และประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายอื่นๆ รวมถึง คูเวต ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโอปค ประกาศลดราคาน้ำมันดิบเดือนม.ค.ให้กับลูกค้าในเอเชีย ตามหลังซาอุดิอาระเบีย และอิรัก ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าการแข่งขันเรื่องราคาน้ำมันของบรรดาผู้ผลิตจะยิ่งฉุดให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมากกว่านี้ได้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 2.14 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 57.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 61.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง

               ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

               ชัยยศ จิวางกูร    

              บุญฤทธิ์ เบญจธนารักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!