WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ผันผวนในกรอบ
Highlight
     ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดลง วิตกความรุนแรงในอิรัก หลังสหรัฐฯประกาศท่าทีช่วยอิรักอย่างเป็นรูปธรรมครั้งแรก (ส่งที่ปรึกษา 300 นายและจะโจมตีทางอากาศ ในลำดับต่อไป) และขายทำกำไร หลังราคาหุ้นพุ่งแรงรับข่าวเฟด
      ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ EU Ecofin meeting , Consumer Confidence มิ.ย. คาด -6.8 (Vs -7.1) Spain: Moody ทบทวนเรตติ้ง ไต้หวัน: ส่งออก พ.ค. คาด 7.6%y-y (Vs 8.9%)
-วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติขายอีก -3.85 พันลบ. (ขายสะสม 8 วันรวม -1.07 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาซื้อ +3.48 พันลบ. (จากขายสะสม 2 วัน รวม -2.18 พันลบ.)
+ การเมือง/เศรษฐกิจ จับตาการพิจารณา 4 โครงการของกสทช. ที่ระงับไว้ ซึ่งรวมถึงการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ และการจากคูปองทีวีดิจิตอล
        คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวนในกรอบ 1450-1468 จุด แม้มองกรอบใหญ่ยังเป็นทิศทางของขาขึ้น แต่คาดการปรับขึ้นของดัชนีฯ ยังต้องเผชิญแรงขายระหว่างทาง โดยแรงหนุนยังมาจากปัจจัยการฟื้นตัวความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก และคาดแรงขายต่างชาติจะเริ่มเบาบางลง
กลยุทธ์: เก็งกำไรกลุ่มนิคมฯ ต่อ AMATA TICON และแนะนำสะสมหุ้น ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing) ถือหุ้นพื้นฐานดีที่แนะนำก่อนหน้า SCC SCP PTTEP AIE CPALL MINT CENTEL

หุ้นในกระแส:
       หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ LEE SCP UTP IRCP TRUE LOXLEY หุ้นที่ลงกว่า 2.0% ได้แก่ AQ MDX SLC UV BIGC
      NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ TRUE+159 AOT+130 PTTEP+87 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ BBL-363 KBANK-179 KTB-157
      หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ ADVANC 100 ITD 61 KBANK 60

Market Outlook
      คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวนในกรอบ 1450-1468 จุด โดยแรงหนุนมาจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจฟื้นและคสช.ปลดล๊อคบีโอไอ แต่ตลาดยังถูกกดันจากความไม่แน่นอนในหลายประเด็นจากการปฏิรูปของคสช. ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังมีโมเมนตัมบวกต่อเนื่อง แนะเก็งกำไรนิคมฯ ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี window dressing


      คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวนในกรอบ 1450-1468 จุด โดยนักลงทุนสถาบันในประเทศยังเป็นกลุ่มหลักที่ซื้อสุทธิช่วยหนุนดัชนีฯ หลังจากตัวเลขความเชื่อมั่นทางธุรกิจฟื้นตัวและคสช. ปลดล๊อคบีโอไอหนุนการลงทุนในอนาคต อย่างไรก็ดี เราคาดว่า ตลาดจะยังคงผันผวน เนื่องจากถูกกดดันจากความไม่แน่นอนในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการเก็บภาษีกำไรขายหุ้น การปฏิรูปพลังงาน การพิจารณา 4 โครงการของกสทช. รวมถึงนโยบายเมกะโปรเจ็ค ฯลฯ ขณะที่ความเสี่ยงของการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ จากอิรักอาจใกล้เกิดสงครามศาสนา (หนุนราคาทอง พุ่งวันเดียว +3% สูงสุดรอบ 8 เดือน) จะเป็นปัจจัยถ่วงตลาดหุ้นในระยะสั้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชียฯ ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าของค่าเงิน จากการเป็นกลุ่มผู้นำเข้าน้ำมันดิบสุทธิ (ไทยมีสัดส่วนนำเข้าน้ำมันดิบสูงสุดถึง 10% ของการนำเข้ารวม)


      ปัจจัยในประเทศ การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นและการปลดล๊อคการอนุมัติบีโอไอ ช่วยหนุนการลงทุนและเศรษฐกิจในระยะต่อไป เห็นจากการปรับเป้าหมายเศรษฐกิจปีหน้าเป็น 5% จากปีนี้ 1.5% ของ ธปท. และช่วยหนุนมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีฯในกรอบใหญ่ เป็นทิศทางขาขึ้น (เป้าหมายดัชนีฯ อิงวิธี Bottom Up Approach อยู่ที่ 1554 จุด) อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในหลายประเด็นในขณะนี้ ล่าสุดเป็นเรื่องของการเก็บภาษีกำไรจากการขายหุ้น (Capital gain tax) ที่จะมีการเสนอที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นเดือนหน้า เพื่อจัดตั้งคณะทำงานศึกษาแนวทางการปรับปรุงการจัดเก็บภาษี อย่างไรก็ดี แนวคิดนี้ยังเป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้นจากกรรมการบางท่านให้จัดเก็บในอัตรา 5-10% ของกำไรในหุ้นที่ถือน้อยกว่า 6 เดือน-1 ปี และแนวคิดนี้ยังถูกมีผู้เกี่ยวข้องหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยอยู่ เช่นประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์และปลัดกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ มุมมองเราเห็นว่าความเป็นไปได้ยังน้อยอยู่เช่นเดียวกัน


      ปัจจัยต่างประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยวานนี้สหรัฐฯ เผยตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมาน้อยกว่าคาด บ่งชี้การฟื้นตัวต่อเนื่องของการจ้างงานสหรัฐฯ แต่ตลาดปรับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากยังจับตาดูความรุนแรงอิรักหลังมีข่าวสหรัฐส่งที่ปรึกษาด้านการทหาร 300 นายเข้าไปในอิรัก และเตรียมที่จะดำเนินการมากกว่านี้ถ้าจำเป็น ส่งผลราคาน้ำมันดิบปรับสูงขี้น โดยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลบวกต่อหุ้นพลังงาน แต่หากพุ่งขึ้นมากไปจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจ

ส่วน Events Play ที่จะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทย ได้แก่
     1. Window Dressing พบว่า กลุ่มอุตฯแบงก์ ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ ICT Health Care เป็นกลุ่มฯที่มีโอกาสปรับขึ้นสูงกว่าตลาดในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน แนะนำ ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK
      2. หุ้นเกาะกระแสฟุตบอลโลก ระหว่าง 12 มิ.ย. - 13 ก.ค. (เราพบว่า ผลกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่ม ICT (ADVANC TRUE) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค (CPALL MINT CENTEL) จะมีเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างการถ่ายทอดฟุตบอลโลก
     กลยุทธ์ เก็งกำไรกลุ่มนิคมต่อ AMATA TICON และแนะนำสะสมหุ้น ADVANC SVOA DELTA CCET BBL KBANK (Window dressing) ถือหุ้นพื้นฐานดีที่แนะนำก่อนหน้ารอตลาดรีบาวด์ SCC SCP PTTEP AIE CPALL MINT CENTEL


เทคนิค ลุ้นดีดกลับต่อเนื่อง แนวโน้มใหญ่ยังเป็นขาขึ้น
      แม้ว่า วานนี้ดัชนีฯ สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้แต่เป็นไปอย่างผันผวน ประกอบกับวอลุ่มยังค่อนข้างเบาบางจึงยังไม่ confirm การกลับเป็นขาขึ้นเต็มที่นัก อย่างไรก็ดี หากไม่หลุดต่ำกว่า 1450 อีก ยังมีลุ้นดีดตัวต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1468/1476 จุด และแนวต้านหลักที่ 1500 จุด ขณะที่แนวรับหลัก ที่เป็นกรอบล่างของ uptrend chanel อยู่ที่ 1420 จุด

 

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตานโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการรัฐขนาดใหญ่
ประเด็นการเมือง (Update):
      'พลเดช' แนะคสช.กำหนดแนวทางทำงานให้ชัด นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา กล่าวถึงประเด็น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมตั้งปฏิรูปสภานิติบัญญัติ รวมถึง คณะรัฐมนตรีเร็วๆ นี้ ว่า ตนมองว่า หาก คสช. จะถ่ายโอนอำนาจการปกครองไปให้ 3 กลไก ดังกล่าว ตนมองว่าควรที่จะกำหนดกรอบระยะเวลาทำงาน รวมถึงกำหนดประเด็นที่ต้องการให้ชัดเจน

2. อิรัก- ประเด็นเรื่องสถานการณ์ในอิรัก(หากยืดเยื้อ และรุนแรงกว่าคาด อาจส่งผลลบต่อกลุ่ม Cyclicaly Play และกลุ่มสายการบิน แต่เป็นบวกต่อผู้ผลิตกลุ่มต้นน้ำ PTTEP)

Update: 'อิรัก'ร้องสหรัฐหนุนโจมตีทางอากาศ, สหรัฐ ส่งที่ปรึกษาทางทหารเข้าอิรัก
      อิรักร้องสหรัฐใช้ปฏิบัติการทางอากาศกับ กลุ่มติดอาวุธ หลังโจมตีโรงกลั่นหลัก แถมยึดพื้นที่ทางเหนือได้มากขึ้น อเมริกันแจงภาพรวมการข่าวยังไม่ชัดเจน พร้อมชี้โจมตีโรงกลั่นไม่กระทบการจัดหาน้ำมันของอิรัก ด้านนายกฯ "มาลิกิ" ปลดผู้บัญชาการด้านความมั่นคง ประกาศจะสอนบทเรียนกลุ่มไอเอสไอแอล ล่าสุดสหรัฐส่งที่ปรึกษาด้านการทหาร 300 นายเข้าไปในอิรัก และเตรียมที่จะดำเนินการมากกว่านี้ถ้าจำเป็น
กลุ่มกบฏใช้อาวุธหนักถล่มโรงกลั่นน้ำมันใหญ่สุดของอิรัก
      แหล่งข่าวด้านความมั่นคงและพนักงานโรงกลั่นน้ำมันของอิรัก เปิดเผยว่า กองกำลังของกลุ่มกบฏมุสลิมนิกายสุหนี่ได้โจมตีโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของอิรัก ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองไบจิทางภาคเหนือของอิรัก โดยใช้ปืนกลและปืนครกยิงถล่ม การโจมตีดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 04.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 08.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ จากนอกประตูทางเข้าหลัก 2 แห่งจาก 3 แห่งเข้าไปยังโรงกลั่น
กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL) ได้เข้ายึดเมืองโมซูล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรักได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่กลุ่มติดอาวุธนิกายสุหนี่ได้รุกคืบสู่เมืองไบจิ และเข้าล้อมโรงกลั่นน้ำมัน

3. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : จับตาผลประชุมเฟด และผลประชุมกนง.วันพุธ
ศุกร์ : EU Ecofin meeting , Consumer Confidence มิ.ย. คาด -6.8 (Vs -7.1) Spain: Moody ทบทวนเรตติ้ง ไต้หวัน:ส่งออก พ.ค. คาด 7.6%y-y (Vs 8.9%)

 

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
      อังกฤษ เผยยอดค้าปลีกลดลงครั้งแรกรอบ 5 เดือนใน พ.ค. ปริมาณยอดค้าปลีกลดลง 0.5% ในเดือน พ.ค. ขณะที่เพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปีที่ 6.5%ที่ทำไว้ในเดือน เม.ย. นักเศรษฐศาสตร์คาดว่ายอดค้าปลีกจะลดลง 0.5% ในเดือน พ.ค. หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมากในเดือน เม.ย. จากวันหยุดในเทศกาลอีสเตอร์ และเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบรายปี
      เฟดฟิลาเดลเฟีย เผยดัชนีการผลิตพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน มิ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน มิ.ย. โดยดัชนีกิจกรรมการผลิตพุ่งขึ้นสู่ระดับ 17.8 จาก 15.4 ในเดือน พ.ค.
      สหรัฐ เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นในเดือน พ.ค. Conference Board เปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่ม ขึ้น 0.5% ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันหลังเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน เม.ย.
       สหรัฐ เผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดเกินคาด กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย.ลดลงเกินคาด 6,000 ราย สู่ 312,000 รายนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 314,000 ราย

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ รับข่าวเฟดคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำ
        วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ หลังทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 11.63 จุด หรือ 0.07% สู่ระดับ 16,918.25 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.12 จุดหรือ 0.11% สู่ระดับ 1,959.10 จุด แต่ Nasdaq ปิดลดลง 3.87 จุด หรือ -0.09% สู่ระดับ 4,358.97 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดตลาดไร้ทิศทาง หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่าจำ นวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย แต่อยู่ในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ที่ระบุว่า เฟด จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำ นวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ ที่สิ้นสุดวันที่ 14 มิ.ย. ลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย ต่ำ กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 313,000 ราย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากที่เฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มธุรกิจในภาคการผลิตของเขตมิด-แอตแลนติก ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 17.8 ในเดือน มิ.ย. จากระดับของเดือน พ.ค.ที่ 15.4 สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาคดังกล่าวของสหรัฐ ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ขณะที่หุ้นแบล็คเบอร์รี่พุ่งขึ้น 12% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นสตาร์บัค คอร์ป ปรับขึ้น 2.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

+ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดขึ้น หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป ปิดสูงขึ้น FTSE ปิดเพิ่ม 29.55 จุด หรือ 0.44% สู่ 6,808.11 จุด ดัชนี CAC40 ปิดขึ้น 32.67 จุด หรือ 0.72% สู่ 4,563.04 จุด และ DAX ปิดสูงขึ้น 73.67 จุด หรือ 0.74% สู่ 10,004 จุด เพราะตลาดได้รับแรงหนุน หลังจากเฟดออกแถลงการณ์ว่า เฟด จะยังคงนโยบายเดิมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทั้งลดการซื้อสินทรัพย์รายเดือนลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์ เหลือ 35,000 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งประธานเฟด นางเจเนต เยลเลน แสดงความมั่นใจว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศจะค่อยๆปรับตัวลดลงและกลับมาอยู่ที่ระดับ 2% ตามเป้าที่เฟดกำหนดไว้

+ราคาน้ำมันดิบ ปิดขึ้น วิตกปัญหาอิรัก
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ส.ค. ปิดสูงขึ้น 0.80ดอลลาร์ สู่ 115.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.46 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 106.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากรัฐบาลสหรัฐระบุว่า ทางรัฐบาลจะส่งที่ปรึกษาทางการทหารไปยังอิรัก และข่าวนี้ทำให้ นักลงทุนกังวลว่า สถานการณ์ในอิรักอาจทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทางด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 9 เดือน ปธน.โอบามากล่าวว่า สหรัฐพร้อมที่จะดำเนินการโจมตีทางอากาศแบบตั้งเป้าหมายเฉพาะเจาะจง แต่จะไม่มีการส่งกองทัพสหรัฐเพื่อไปปฏิบัติการภาคพื้นดินในอิรักโรงกลั่นน้ำมันไบจีที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองทิกริตในอิรักยังคงถูกปิดล้อมอยู่ ในขณะนี้ ในขณะที่กองทัพของรัฐบาลอิรักที่มีชาวมุสลิมนิกายชีอะห์เป็นแกนนำ พยายามต้านทานกลุ่มกบกฏ โดยโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการกลั่น 300,000 บาร์เรลต่อวัน และถ้าหากโรงกลั่นแห่งนี้ยังคงปิดทำการต่อไป รัฐบาลอิรักก็จำเป็นต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ภายในประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดน้ำมันตึงตัวมากยิ่งขึ้น

+ราคาทองคำ พุ่งแรงสุดรอบ 8 เดือน
วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.70 ดอลล์ สู่ 1 , 2 7 2 . 7 0 ด อ ล ล า ร์ต่อ อ อ น ซ์ ร า ค า ส ป อ ต ที่ต ล า ด ส ห รัฐ ฯ พุ่ง ขึ้น 4 2 . 2 0 ดอลล์ หรือ 3.3 % สู่ 1,319.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้น ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 8 เดือน ในขณะที่มีคำสั่งซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซลเข้ามาในตลาด เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด

+ ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดบวกวันที่ 2 หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดปีนี้
วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดบวกอีก 35 จุด หรือ 4.04% เป็น 902 จุด หลังจาก ปี 56 เพิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501
Thanomsaks@ktzmico.com
02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564
Tidaratp@ktzmico.com
02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!