Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 14 July 2014 15:02

Hits: 2020

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market Outlook
  แม้ SET จะ Overbought แต่ยังไม่มีสัญญาณ “พักฐาน” เกิดขึ้น: SET ปรับสูงขึ้นแข็งแกร่ง 0.67% ที่ 1,518.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 3,692 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอยู่ที่ 32.14 บาท/ดอลลาร์ฯ ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงมาเป็นสัญญาณกลับตัว แสดงให้เห็นถึงกระแสเงินทุนไหลเข้าที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง...

    สำหรับแนวโน้ม SET ระยะสั้น แม้จะมีลักษณะ Overbought ด้วย RSI ระดับ 77.6 แต่ยังไม่มีสัญญาณ “พักฐาน” จึงควร Let the Profit Run ต่อไปที่แนวต้านตามกรอบ Uptrend Channel ที่เลื่อนแนวต้านขึ้นมาที่บริเวณ 1,530 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) กระแสเงินทุนไหลเข้า 2) เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะฟื้นตัวแกร่งตั้งแต่ 3Q14 และ 3) Outlook กำไรบริษัทจดทะเบียนฟื้น คาด Upward Revision หลังงบ 2Q14
  “ซื้อ” อสังหาฯ สื่อสาร ต่อเนนื่องจากสัปดาห์ก่อน: เราแนะนำ “ซื้อ” หุ้นกลุ่มอสังหาฯ และสื่อสาร ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน โดยกลุ่มอสังหาฯ ยอด Presale ฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี และคาดว่าจะเห็นการเร่งเปิดโครงการขายมากขึ้นใน 2H14 “ซื้อ” SPALI, QH, LH ขณะที่กลุ่มสื่อสารเน้นที่เงินปันผลระหว่างกาล อย่าง ADVANC, INTUCH, DTAC, SAMART

Tactical Portfolio (1-3 months)
  TNS แนะนำ “ถือ” BBL, BTS, CPALL, DEMCO, HEMRAJ, INTUCH, SAMART, SPALI และ SPCG ต่อเนื่อง ขณะที่แนะนำ “ขาย” STEC ออกจาก Tactical Portfolio หลังการประมูลรถไฟรางคู่เลื่อนออกไปจากวันที่ 15 ก.ค.นี้ ทำให้ขาด Catalyst ระยะสั้น แม้ระยะกลาง-ยาว จะแนะนำ “ซื้อ” ก็ตาม โดยแนะนำ “ซื้อ” GFPT เข้ามาแทน สำหรับการลงทุนระยะสั้น 1 สัปดาห์ (ดูรายงาน Trigger Five) โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 14.0 บาท
  Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน 1.28% w-w ต่ำกว่า SET ที่ให้อัตราผลตอบแทน 1.48% w-w อยู่ 0.20% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนดีที่สุดใน Tactical Portfolio ได้แก่ SPALI, HEMRAJ และ SAMART โดยให้อัตราผลตอบแทน 4.2-6.2% w-w ขณะที่ SPCG และ STEC ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุด หรือให้อัตราผลตอบแทน -7.4% w-w และ -2% w-w ตามลำดับ…ทั้งนี้ตั้งแต่จัดทำ Tactical Portfolio วันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ให้อัตราผลตอบแทน 31.95% เทียบกับ SET ให้อัตราผลตอบแทน 20.1%

Technical
  แนวโน้มตลาดขาขึ้น: ดัชนี SET ทะลุ 1500 จุด บ่งบองตลาดกำลังอยู่ในทิศทางขึ้นต่อไปโดยมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ 1537-1540 จุด และในสัปดาห์นี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1505-1525 จุด จังหวะทดสอบ 1525 จุด ระวังแรงขายทำกำไรระยะสัปดาห์
  หุ้นที่แนะนำซื้อ: TRUE จังหวะทะลุผ่าน 10.10 บาทเมื่อวันก่อนเป็นการขึ้นทำยอดสูงสุดใหม่อีกครั้งและเกิดสัญญาณซื้อตาม คาดว่าจะขึ้นต่อไปสู่ระดับแนวต้าน 11.00 บาท NOK จังหวะขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน คาดว่าจะขึ้นต่อในระยะสัปดาห์ เปลี่ยนกรอบซื้อขายไปอยู่ระหว่าง 17.50-19.00 บาท เป้าหมายขายที่ 18.40 บาท CPN ราคาปิดเหนือระดับเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนสูงกว่า 49.00 บาท เป็นสัญญาณบวก คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นสู่แนวต้าน 51.00 บาท เป็นจุดขายทำกำไร

TFEX Recommendation
  SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Long สัญญา S50U14 ในรูปแบบ Let the Profit Run ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,025 จุด หลังจากทำลายเป้าหมายเดิมที่ 1,010 จุด ไปแล้ว ขณะที่เลื่อน Trailing Stop หรือ “จุดจำกัดขาดทุน” ขึ้นมาที่ 1,004 จุด
  Gold Futures: แนะนำ “Let Profit Run” สถานะ Long สัญญา GFQ14 ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 20,700-20,800 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 20,300 บาท ล่าสุดราคาทองคำปรับลดลง US$1.8/ออนซ์
  Oil Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ MAV200 สัปดาห์ บริเวณ 3430-3440 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3520
Thai Strategy Team นพดล พิริยวุฒิ อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล