WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Sideway Up
Highlight
      ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดคละ โดยเอเชียได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า เนื่องจากนักลงทุนย้ายออกจากตลาดรัสเซีย
       ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA CPI มิ.ย. คาด 0.4%m-m (Vs 0.4%) Existitng Home Sales มิ.ย. คาด 5 ล้านหน่วย (Vs 4.89 ล้านหน่วย) EU: Consumer Confidence ก.ค. คาด -7.7 (Vs -7.5) Indonesia: ประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
+วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อ +558 ลบ. (ซื้อสะสม 14 ใน 15 วันทำการหลังสุด รวม +2.14 หมื่นลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศ ขายต่อ -541 ลบ. (ขายสะสม 5 วันรวม -880 พันลบ.)
+/- การเมือง รอฟังความคืบหน้าเรื่องการแจกคูปองทีวีดิจิตอล และสรุปโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เสนอคสช. รวมถึงโปรดเกล้าถวายธรรมนูญฯ ชั่วคราว เย็นวันนี้
       คาดดัชนีฯ วันนี้ Sideway Up กรอบ 1530-1545 จุด ความกังวลเรื่องความขัดแย้งในยูเครนยังเป็นปัจจัยกดดันจากภายนอก แต่มุมมองบวกต่อรายงานผลกำไรบจ. รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นยังช่วยหนุนดัชนีฯ และดึงดูดเงินทุนต่างประเทศ
       กลยุทธ์: ระยะ 1-2 สัปดาห์ เปลี่ยนจากซื้อสะสม เป็น Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน/กำไร 3% อิงแนวโน้มภาวะ Overbought ทางเทคนิคและระดับ PER ของดัชนีฯ ที่สูงใกล้ระดับ Peak (คาด Peak อยุ่แถว 1550-1570) ส่วนนักลงทุนระยะยาว แนะนำ รอซื้อสะสมบริเวณ 1480 จุด หุ้น Top pick KBANK SCB SIRI LPN PS PTTEP ADVANC INTUCH 2Q57F หุ้นประเด็นบวก SCC SCP ส่วนเก็งกำไรหุ้น High earnings Play แนะนำ TTW CSS SCCC IVL GOLD

หุ้นในกระแส:
      หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 7.0%) ได้แก่ N-PARK AJD LIVE RPC APCO GRAMMY GEL PF ITD E หุ้นที่ลงกว่า 3.0% ได้แก่ ECF RASA TRUE KTB
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ BBL+469 SCC+320 KBANK+168 AOT+163 PTTGC+120 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ ADVANC-311 INTUCH-263 SCB-170 DTAC-131
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ KTB 198 SCC 98 ADVANC 92

Market Outlook
       คาดดัชนีฯ วันนี้ sideway up ในกรอบ 1530-1545 จุด ปัญหาความขัดแย้งยูเครนยังกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ sentiment ในประเทศยังหนุน เราแนะนำ Trading Buy แบบมีจุดขายตัดขาดทุน 3-5% หุ้น Earnings Play รวมถึงหุ้นมีประเด็นบวกระยะสั้น
      คาดดัชนีฯ วันนี้ sideway up กรอบ 1530-1545 จุด โมเมนตัมบวกจากแรงซื้อต่างชาติยังคงเป็นปัจจัยหลัก แต่เริ่มมีสัญญาณ Peak out ใกล้ๆ นี้ อิงวานนี้ ต่างชาติเริ่มเปิดสัญญา Short Set 50 Index สูงถึง 4094 สัญญา และแรงซื้อต่างชาติลดลงเหลือ +558 ลบ. หลังจากซื้อสะสมหุ้นเดือนนี้ไปแล้วกว่า 2 หมื่นล้านบาท หนุน SET Index +53 จุด m-m อย่างไรก็ดี เราคาดว่า ดัชนีฯยังคงมีโอกาสเดินหน้าขึ้นต่อได้ รับข่าวดี การแข็งค่าของเงินบาทรอบ 9 เดือน เช้านี้อยู่ที่ 31.86 บาท/USD (-กลุ่มส่งออก +กลุ่มหนี้สูง FX Gain กลุ่มปิโตรฯ พลังงาน) ตอบรับเชิงบวกต่อข่าวดีวันนี้ ทั้ง รัฐธรรมนูญชั่วคราว จะมีการโปรดเกล้าฯ และยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน คาดได้รับการอนุมัติจาก.ค.สช.วันนี้ (+กลุ่มรับเหมาฯ วัสดุฯ แต่แนะนำ Sell on fact)
     ส่วน Earnings Play กลุ่มที่มิใช่สถาบันการเงิน จะเริ่มทยอยประกาศ จับตา THREL PTTEP BIGC ทั้งนี้เราแนะนำ Trading Buy แบบมีจุดขายตัดขาดทุน 3-5% หากหลุดแนวรับ จากโอกาสของการเกิด Correction รอบใหญ่ ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า วิตก Valuation ของตลาดหุ้นไทย (PER ปัจจุบัน 18.54 เท่า สูงสุดรอบ 14 เดือน Vs สูงสุดรอบ4 ปีอยู่ที่ 19.83 เท่า เดือนกพ.ปี 56)
      ปัจจัยต่างประเทศ ยังกดดันจากปัญหาความขัดแย้งในยูเครน ประกอบกับความกังวลของนักลงทุน ต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับ สหรัฐฯและยุโรป หลังสหรัฐฯ มีแซงชั่นรอบใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่ภาคการเงินและพลังงานของรัสเซีย รวมถึงยุโรปมีโอกาสแซงชั่นเพิ่มเติมเช่นกัน จากท่าทีของ อังกฤษ เยอรมนี และฝรั่งเศส โดยวันนี้จะมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอียู
       ปัจจัยในประเทศ ประเด็นหลักวันนี้ อยู่ที่การเสนอแผนคมนาคมต่อคสช. โดยมีการเล่นเก็งกำไรกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้างมาตั้งแต่เมื่อวาน ด้านรถไฟรางคู่แม้เดิมมีข่าวว่าจะไม่ทันงบประมาณปี 58 แต่ยังเป็นโครงการที่มีความหวังมากที่สุดในตอนนี้ (เราแนะซื้อสะสม SCC SCP) ส่วนการประกาศผลประกอบการ กลุ่มธนาคารประกาศผลประกอบการครบแล้ว 11 แห่ง รวมกำไรสุทธิ 5.24 หมื่นล้านบาท +3.5% YoY +3.0% QoQ ดีกว่าที่ตลาดคาด 1.4%โดยระยะกลางและยาว เราให้น้ำหนักกลุ่มธนาคารมากกว่าตลาด (top pick KBANK SCB)
       จับตา ทิศทางเงินบาทที่แข็งค่าหลุด 32.00 บาทต่อดอลลาร์ (เช้านี้อยู่ที่ 31.85 บาท/ดอลลาร์) แม้เรามองเป็น sentiment เชิงบวกต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า (จากนักลงทุนต่างชาติได้กำไรทั้งสินทรัพย์ และค่าเงิน) แต่เริ่มมีความกังวลต่อภาคส่งออก จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไป

Event Plays:
1) Earnings Play: เก็งกำไรหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะรายงานกำไร 2Q57F เติบโตสูง อาทิ TTW CSS PTTEP SCCC IVL GOLD ANAN JUBILE MINT SVI THANI THCOM (ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่โบรกเกอร์มีความเห็นเชิงบวกต่อ Upward Revision ล่าสุด ได้แก่ TMB BCP
2) High Dividend Play: หลักทรัพย์ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงรายปีเฉลี่ยสูงกว่า 3.5% และจ่ายปันผลระหว่างกาลสม่ำเสมอในช่วงกลางปี รวมถึงมี % Upside ต่อราคาเป้าหมาย ได้แก่ INTUCH, SNC, ADVANC, LALIN, LH ,BOL, UEC, JMART, BTS, TNITY, CSL, DTAC, TTW, TRT, PTTGC, SAMTEL (ล่าสุดเพิ่ม TTW)
3) หุ้น Turnaround โตก้าวกระโดด ปี57/58 CFRESH, GOLD, MJD, THRE, TPOLY, TTA, VNG (turnaround) APCO, CSS, DCON, IFEC, IVL (โตก้าวกระโดด)
4) หุ้นที่มีประเด็นบวกต่างๆ : MFEC, RASA, TRUE (ปป.โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่) JAS (ซื้อหุ้นคืน) BLAND (คาดบันทึกกำไรพิเศษ+เตรียมออกกอง Impact growth reit) IFEC (ย้ายไปหมวดพลังงาน) LH, QH (Hidden Asset สูง)

      ปัจจัยทางเทคนิค เริ่มมีสัญญาณเตือนภาวะ Overbought ของ Stochastics, RSI ที่เริ่มเข้าเขต Overbought ทั้งในรูปแบบรายวันและรายสัปดาห์ และการวิ่งห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5/10/25 วัน หรือ 10 สัปดาห์ ค่อนข้างมาก สะท้อนสัญญาณดัชนีฯ ได้ 2 รูปแบบ คือ
1. พุ่งแรงทันทีไปที่บริเวณ 1550/1570 จุด อิงกรอบ Uptrend ใหม่ 1509-1570 จุด โดยมีแนวต้านต่อไปที่ 1539/1545/1570 จุด ตามลำดับ
2. ดิ่งลงแรงมาที่แนวรับสำคัญเส้น SMA 25 วันที่ 1493 จุดหรือ SMA 10 สัปดาห์ที่ 1472 จุด เพื่อลดความ Overbought ทางเทคนิค

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
"ประจิน"หารือคมนาคม สรุปยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน,เล็งเสนอคสช.วันอังคาร พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เชิญ นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อม หัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนรัฐวิสาหกิจใน สังกัด ร่วมหารือข้อสรุปร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อเตรียมเสนอต่อหัวหน้าคสช.พิจารณา ในการประชุมคสช.วันอังคารที่ 22 ก.ค.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อวันศุกร์ มีประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ คือ การสร้างทางรถไฟรางคู่ขนาดมาตรการ 1.435 เมตร เพื่อเชื่อมโยงกับเพื่อนบ้าน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าคสช.พิจารณาจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 เรียบร้อยแล้ว โดยเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 จำนวน 2.575 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขงบประมาณที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ จากการประชุมของคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในวันอังคารที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เร่งรัดให้ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ชายแดนเป้าหมายรวมทั้งสิ้น 12 พื้นที่กำหนดเป็นระยะเร่งด่วน ดำเนินการทันทีในปี 2558 ใน 5 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พื้นที่ชายแดน จังหวัดมุกดาหารอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พื้นที่ชายแดน จังหวัดตราด พื้นที่ด่านศุลกากรสะเดา และปาดังเบซาร์
เตรียมสร้างรถไฟรางคู่ขนาด 1.435 เมตร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม ได้มอบหมายให้หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งพิจารณาโครงการสำ คัญ เพื่อให้สามารถดำ เนินการได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ส่วนใดที่มีความพร้อมให้เริ่มดำเนินการไปก่อน
ในส่วนโครงการรถไฟทางคู่นั้น ให้พิจารณาถึงอนาคต ที่จะต้องรองรับการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเชื่อมต่อกับประเทศจีน ที่ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ ที่มีรางขนาด 1.435 เมตร เพื่อจะรองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วสูงถึง 160-180 กม./ชม. การพัฒนาจุดเชื่อมต่อทางลอดต่างๆ เพื่อให้ขบวนรถไฟวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
ระบบรางของไทยที่ใช้อยู่ปัจจุบันนั้น มีความกว้าง 1 เมตร เพื่อรองรับการวิ่งของขบวนรถที่ความเร็วประมาณไม่เกิน 90 กม./ชม. ซึ่งในอนาคตนั้น จะมีปัญหาในเรื่องการจัดหาอะไหล่ และการซ่อมบำรุงที่ทั่วโลกมีแนวโน้มไปใช้งานระบบรางแบบใหม่
แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและไม่เสียโอกาสในเรื่องการพัฒนาการค้า การขนส่งคมนาคม เราสามารถพัฒนาปรับปรุงให้ระบบเดิมใช้ในเรื่องการเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้า การลดต้นทุนการขนส่งในระยะแรกให้มีการวางรางขนาด 1 เมตร เพิ่มเติมในเฉพาะเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่นและเป็นเส้นหลักในการขนส่งสินค้า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้มีแผนในการก่อสร้างไว้แล้วใน 5 เส้นทางตามความเร่งด่วน คือ เส้นทางแรก ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย เส้นที่สอง ลพบุรี -ปากน้ำโพ เส้นที่สาม มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ เส้นที่สี่ นครปฐม-ชุมทางหนองปลาดุก-หัวหิน และ เส้นที่ห้า ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร
ยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่าจีน 3 เดือน
การส่งเสริมเรื่องของการท่องเที่ยว คสช. ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังไปร่วมหารือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากเกิดความเดือดร้อนขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มเติมจากความคุ้มครองจากการประกันซึ่งอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างในปัจจุบัน ในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเ ชื่อ มั่น ใ ห้กับ นัก ท่อ ง เ ที่ย ว ที่จ ะ เ ดิน ท า ง ม า ท่อ ง เ ที่ย ว ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย ใ น โ อ ก า ส ต่อ ไ ป ทั้งนี้ คสช.ได้อนุมัติให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยวชาวจีน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ในโอกาสที่จะครบ 40 ปีของความสัมพันธ์ไทย-จีน เพื่อยืนยันมิตรภาพระหว่างของทั้งสองประเทศ และส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวจีนได้เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ในห้วงhight season ที่กำลังมาถึง จะเริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค. นี้
แผนบริหารจัดการน้ำไร้โครงการใหญ่
ความคืบหน้าการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้กำหนดโรดแมพไว้ 3 ระยะ คือ
ระยะแรก จัดทำโครงสร้างแผนงานโครงการความรับผิดชอของอนุกรรมการทั้ง 5 กลุ่มประกอบด้วย พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก พื้นที่ที่สองคือ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ เรื่องที่สาม คือ ระบบข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ เรื่องที่สี่คือ การจัดองค์กรข้อกำหนดกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เรื่องที่ห้า การประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้ กำหนดให้ทำแผนแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ค. 57
ระยะที่ 2 การจัดทำรายละเอียดแผนงานโครงการโดยให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน
ระยะที่ 3 จัดทำแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำฉบับสมบูรณ์ ซึ่งทุกขั้นตอนจะเสร็จสิ้นภายในเดือน ต.ค. 2557 ในระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของโรดแมพนั้น จะมีการดำเนินการในลักษณะคู่ขนาน โดยในปีงบประมาณ 2557 จะจัดสรรงบประมาณแบบบูรณาการจากกระทรวงต่าง ๆ ในกรอบวงเงินประมาณ 13,000 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินการในการฟื้นฟูแหล่งน้ำ ขุดลอกคูคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ และการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น

-2. เลื่อนประมูลใบอนุญาต 4G ไป 1 ปี ระยะยาว 12 เดือน แนะนำสะสมเมื่ออ่อนตัว ADVANC INTUCH DTAC
กสทช. ขยายเวลาสัมปทานคลื่น 1800 MHZ ให้ทรูมูฟ-ดิจิตอลโฟน จนกว่าประมูล 4G
กสทช. กล่าวในเอกสารเผยแพร่ ว่า กสทช.จะขยายเวลาสัมปทาน สำหรับคลื่นความถี่ 1800 เมกกะเฮิร์ต ของทรูมูฟ และ ดิจิตอลโฟน ไปจนกว่าการประมูลใบอนุญาตระบบ 4G จะแล้วเสร็จ ดังนั้น ประชาชนที่ใช้โทรศัพท์คลื่นความถี่ 1800 เมกกะเฮิร์ต จึงมั่นใจได้ ว่า จะใช้บริการได้ต่อเนื่อง ซิมไม่ดับ และไม่จำเป็นต้องรีบย้ายค่าย
เราประเมินกลุ่มสื่อสารได้รับแรงกดดันในระยะสั้นจากข่าวดังกล่าว โดยเป็นการเลื่อนวันประมูลออกไปนานกว่าที่เราคาดไว้ในตอนแรก อย่างไรก็ดี ในแง่การให้บริการลูกค้าปัจจุบัน คาดไม่กระทบ เนื่องจาก กสทช. ได้ขยายเวลาสัมปทานสำหรับคลื่นที่หมดอายุ แต่การเลื่อนการประมูลออกไปค่อนข้างนาน อาจส่งผลต่อการทำการตลาดในเรื่องของ data ในอนาคต ทั้งนี้ กลุ่มสื่อสารยังมีความโดดเด่นในเรื่องของการจ่ายเงินปันผล จึงแนะทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัว ADVANC INTUCH DTAC (ทั้งนี้ DTAC ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล งวดไตรมาส 2/57 ที่ 1.58 บาท/หุ้น หรืออัตราผลตอบแทน 1.4% โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 30 ก.ค. 57)

3. +/- 2Q57F Earnings Results:
ประมาณการของ Bloomberg คาด 2Q57F ที่จะทยอยประกาศบงบการเงินสัปดาห์นี้ นำโดยกลุ่มแบงก์ ส่วนบจ.กลุ่มที่มิใช่สถาบันการเงินจะทยอยประกาศในสัปดาห์นี้ นำโดย DCC BIGC PTTEP TTW PSL
USA: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ TI, Halliburton,State Street (21/7) MC Donald, United Technology, Verizon, Microsoft, Apple (22/7) FACEBOOK, Dow Chemical (23/7) Amazon.com, Ford, Caterpillar, 3M (24/7) Xerod (25//7)

+/-4.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : มีอิทธิพลต่อตลาดสัปดาห์นี้จำกัด แต่จะมีน้ำหนักต่อตลาดมากขึ้นในสัปดาห์หน้า (ผลประชุมเฟด+2Q57F US GDP)
วันอังคาร 22 ก.ค.: USA CPI มิ.ย. คาด 0.4%m-m (Vs 0.4%) Existitng Home Sales มิ.ย. คาด 5 ล้านหน่วย (Vs 4.89 ล้านหน่วย) EU: Consumer Confidence ก.ค. คาด -7.7 (Vs -7.5) Indonesia: ประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
วันพุธ 23 ก.ค.: EU: MFG PMI ก.ค. คาด 51.7 (Vs 51.8) Service PMI ก.ค. คาด 52.7 (Vs 52.8)
วันพฤหัสบดี 24 ก.ค.: USA New Home Sales มิ.ย. คาด 5 แสนหน่วย (Vs 5.4 แสนหน่วย) China: HSBC PMI Mfg ก.ค. คาด 51 (Vs 50.7) South Korea คาด 2Q57F GDP +3.7%y-y (Vs 3.9%) Japan ดุลการค้า มิ.ย. คาดขาดดุล -6.49 แสนล้านเยน (Vs -9.09 แสนล้านเยน)
วันศุกร์ 25 ก.ค. : USA สินค้าคงทน มิ.ย. คาด +0.0%m-m (Vs -0.9%) Germany: IFO Business Climate ก.ค. คาด 109.5 (Vs 109.7) UK: 2Q57F GDP คาดเติบโต 0.8%q-q

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
       เฟด เผยดัชนีกิจกรรมศก.ทั่วประเทศลดลงในเดือน มิ.ย. ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยดัชนีกิจกรรมทาง เศรษฐกิจทั่วประเทศลดลงสู่ 0.12 ในเดือน มิ.ย. จาก 0.16 ใน เดือน พ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในเดือนที่ผ่านมา

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง วิตกยูเครน-ฉนวนกาซ่า
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปิดลดลง โดยดัชนี DJIA ปิดดิ่งลง 48.45 จุด หรือ -0.28%สู่ระดับ 17,051.73 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 4.59 จุด หรือ -0.23% สู่ระดับ 1,973.63 จุด Nasdaq ปิดร่วง 7.45 จุด หรือ -0.17% สู่ระดับ 4,424.70 จุด ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับ ความไร้เสถียรภาพในยูเครนและฉนวนกาซ่า แม้ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวปิดดีดตัวขึ้นพ้นจุดต่ำสุดของวันก็ตาม ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนบางราย ยังคงมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
นักลงทุน ยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง หลังจากที่การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บรรดาผู้นำในยุโรป ขู่ที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซีย หลังจากที่สหรัฐ พุ่งเป้าไปที่รัสเซียว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ตกลงในภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเป็นเขตยึดครองของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย

- ตลาดหุ้นยุโรป ร่วงจากวิตกยูเครน-ฉนวนกาซ่า
        วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป กลับมาปิดลดลง FTSE ปิดร่วง 21.01 จุด หรือ -0.31% สู่ 6,728.44 จุด ดัชนี CAC40 ปิดลดลง 30.57 จุด หรือ -0.71% สู่ 4,304.74 จุด และ DAX ปิดลบ 107.97 จุด หรือ -1.11% สู่ 9,612.05 จุด เพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในหลายพื้นที่ ทั้งกรณีเครื่องบินตกที่ยูเครนและการสู้รบในฉนวนกาซา ที่ไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติลงในเร็วๆ นี้

+ราคาน้ำมันดิบ ปิดสูงขึ้น วิตกวิกฤติรัสเซีย กับ อียู สหรัฐฯ รุนแรงขึ้น
      วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ กย. ปิดบวก 0.44 ดอลลาร์ สู่ 107.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. ปิดพุ่งขึ้น 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้นที่ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตกในเรื่องยูเครนจะทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ ราคาสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐ ส่งมอบเดือน ส.ค. ยังพุ่งขึ้นก่อนที่สัญญาจะครบกำหนดส่งมอบในวันอังคารด้วย
ราคาน้ำมันดิบร่วงลงในช่วงแรก หลังจากมีข่าวออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ว่า ชาติมหาอำนาจ 6 ชาติได้ขยายเวลาในการเจรจาต่อรองเรื่องนิวเคลียร์กับ อิหร่านออกไปอีก 4 เดือน และได้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้อิหร่านขายน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำ มันดิบพุ่งขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดี บารัค โอบามาของสหรัฐเพิ่มแรงกดดันต่อประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียให้บังคับให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนยอมร่วมมือกับนานาชาติ ในการสอบสวนเหตุการณ์ยิงเครื่องบินโดยสารของมาเลเซีย แอร์ไลน์ตก ในสัปดาห์ที่แล้ว

+ราคาทองคำ พุ่งขึ้นจากวิตกปัญหายูเครน ลุกลาม
      วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด พุ่งขึ้น 4.50 ดอลล์ สู่ 1,313.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
       ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 1 ดอลลาร์ สู่ 1,311.59 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง และความขัดแย้งทางการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น หลังจาก เกิดเหตุการณ์ยิงเครื่องบินโดยสารของมาเลเซียตกในภาคตะวันออกของยูเครนในสัปดาห์ที่แล้ว และหลังจากเกิดเหตุการณ์สู้รบอย่างต่อเนื่องในเขตฉนวนกาซ่า

- ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 11
        วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดลดลงอีก 8 จุด มาปิดที่ 724 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุด เมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 Thanomsaks@ktzmico.com 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 Tidaratp@ktzmico.com 02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!