WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market Outlook

  Rebound แนวต้าน 1,528-1,530 จุด รับรัฐธรรมนูญชั่วคราว: SET ปรับลดลงแรงด้วยแรงขายที่กระจายตัวมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร และรับเหมาฯ ที่ปรับลดลงแรง ปิดตลาดที่ 1,520.81 จุด -1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นสุทธิ 1,716 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดว่าจะ Rebound ด้วยแนวต้าน 1,528-1,530 จุด ตอบรับกับการใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 48 มาตรา มีความชัดเจนในการตั้งสภานิติบัญญัติ และสภาปฎิรูป นำโดยหุ้นกลุ่ม Domestic Play อย่างธนาคาร (KBANK) อสังหาฯ (SPALI QH LPN) รับเหมาฯ (CK STEC) และท่องเที่ยว (AOT CENTEL) ขณะที่ดัชนี Dow Jones เมื่อคืนปรับสูงขึ้น +0.36% หนุนโดยผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน
  การ Rebound เป็นจังหวะ “ลดพอร์ต”: แม้เราคาดหวังการ Rebound นำโดยกลุ่มหุ้น Domestic Play อย่างไรก็ตามด้วยภาวะ Overbought ทางเทคนิค และเริ่มมีสัญญาณ “พักฐาน” เกิดขึ้นทำให้การปรับสูงขึ้นไปที่แนวต้าน 1,530 +/- จุดวันนี้ เป็นจังหวะ “ลดพอร์ต” 20-30% เพื่อ
      รอซื้อคืนบริเวณแนวรับ 1,500-1,510 จุด ขณะที่มุมมองระยะกลาง-ยาว ยังเป็น “บวก” ด้วยเป้าหมาย SET ปลายปี 2015 ที่ 1,750 จุด เหมือนเดิม

Tactical Portfolio (1-3 months)
  TNS แนะนำ “ถือ” AOT, BTS, CPALL, CK, EA, GFPT, HEMRAJ, SAMART, SPALI และ SPCG ต่อเนื่องจากเมื่อวาน ทั้งนี้เรามองการ Rebound เป็นจังหวะในการ “ลดพอร์ต” (รอยืนยันการลดพอร์ตในจังหวะ Rebound)
  CK: แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 26.0 บาท และระยะสั้นที่ 23.50 บาท ต่อเนื่องแม้ราคาหุ้นปรับลดลงแรงเมื่อวานนี้หลังผิดหวังต่อการเลื่อนพิจารณาโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะ 8 ปีข้างหน้า ไปเป็นสัปดาห์หน้า ขณะที่เรายังมองปัจจัยบวกจาก 1) หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ได้รับผลดีเชิงนโยบายจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง โดยเบื้องต้นมีงบลงทุนเร่งด่วนประมาณ 1.1 แสนล้านบาทในระยะ 12-15 เดือนข้างหน้า 2) คาดการณ์กำไรกลับมาพื้นตัวในปี 2015 ที่ 1.2 พันล้านบาท หรือ +13% 3) เมื่อพิจารณาในทางเทคนิค ราคาหุ้นพักฐานเกือบ 2 เดือน ขณะที่ราคาหุ้นลูก อย่าง BMCL, CKP, BECL, และ TTW ปรับสูงขึ้น 70%, 20%, 10% และ 10% ตามลำดับ ทำให้ NAV ที่ถือหุ้นบริษัทลูกเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 3 หมื่นล้านบาท และ 4) การฟื้นตัวของราคาหุ้น CK เมื่อวานนี้เกิดสัญญาณ “ซื้อ” ใน Stochastic และด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณ “บวก” ระยะสั้น เป้าหมาย 23.50/25.0

Technical
  จังหวะขายทำกำไรระยะสั้น: ดัชนี SET ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1538-1540 จุด แรงขายมีนัยสำคัญ และปิดหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 1 สัปดาห์ 1530 จุด เกิดรูปแบบแท่งเทียน Bearish Engulfing วันนี้ โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1510-1538 จุด ดูจังหวะแรงขายถ้าไม่ผ่าน 1530 จุด จะเพิ่มความเสี่ยงที่ตลาดจะพักตัวระยะสั้น
  หุ้นที่แนะนำซื้อ: WHA แนวโน้มดีกว่าตลาด ราคายืนเหนือระดับ 33.50 บาทและขึ้นทำยอดสูงสุดใหม่ คาดว่าจะผ่านแนวต้านย่อย 35.00 บาท มีโอกาสขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 36.50 บาท MC จังหวะซื้อตาม ราคาเปลี่ยนกรอบซื้อขายใหม่ ขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 18.80-19.80 บาท คาดว่าจะทำยอดสูงสุดใหม่ มีเป้าหมาย 19.80 บาท CK ซื้อต่อเนื่องจากวันก่อน คาดว่าไม่หลุดต่ำกว่า 22.00 บาท และมีเป้าหมาย 24.00 บาท เป็นจุดขายทำกำไร

TFEX Recommendation
  SET50 Futures: แนะนำ “ปิด” สถานะ Long สัญญา S50U14 ไปแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากปรับลดลงต่ำกว่า Trailing Stop ที่ 1,020 จุด เมื่อวานนี้ และแนะนำ “Trading” ในกรอบ 1,008-1,020 จุด รอยืนยันทิศทางระยะสัปดาห์ไปก่อน
  Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short สัญญา GFQ14 ต่อเนื่องจากเมื่อวาน โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,500 บาท โดยราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากทั้งราคาทองคำตลาดโลกที่ปรับลดลง และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
  Oil Futures: แนะนำ “ถือ”/“เปิด” สถานะ Short โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงไปที่แนวรับ 3,360 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3,450 ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง US$0.35/bbl ปิดตลาดที่ US$107.33/bbl หลังนักลงทุนคลายความกังวลสถานการณ์ในยูเครน

Thai Strategy Team
นพดล พิริยวุฒิ
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!