WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ยังมีช่วงลง แต่คงคำแนะนำให้สะสมหุ้น
     KGI มอง SET วันศุกร์เปิดลงต่อก่อนเด้ง และหากต่ำกว่า 1,490 จุด (PE 15 เท่าบนกำไร บจ. ปีนี้) ถือว่าเชิงพื้นฐานน่าสนใจ แนะซื้อสะสม ทั้งนี้หุ้นโลกโดนปัจจับลบหลายอย่าง i) อาร์เจนตินาผิดนัดชำระหนี้บางส่วน ii) อิสราเอลระดมทหาร 1.6 หมื่นนายเตรียมบุกกาซาต่อ iii) ยูโรโซนรายงานเงินเฟ้อ ก.ค. +0.4% ต่ำกว่าคาด และสร้างความกังวลต่อเงินฝืดในยุโรป iv) สหรัฐฯ รายงานตัวเลขค่าจ้างแรงงานสูงขึ้นมากสุดรอบหลายปี กระตุ้นแรงขายเพราะกลัวเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ KGI ยังมองเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย และความกังวลต่างๆ น่าเป็นช่วงสั้น ส่วนปัจจัยภายในประเทศยังเป็นบวก จึงให้เน้นสะสมหุ้นช่วงผันผวนเช่นเดิม อ่านเพิ่มเติมในรายงานกลยุทธ์วันนี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
จังหวะตลาดฯย่อ เน้นรับ แบงก์ (KBANK*, KTB*) รับเหมาฯ (STEC*) วัสดุฯ (SCC*) พลังงาน (BANPU*, IFEC) ท่องเที่ยว (AAV*)
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (KBANK*, KTB*) ในเชิงพื้นฐาน ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะฟื้นตัวเด่นใน 2H57 โดยเฉพาะในไตรมาส 4/57 และต่อเนื่องในปี 2558 ตามการฟื้นตัวของ GDP เราแนะนำ “อ่อนตัวสะสม” KBANK* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ (ในเชิงพื้นฐาน) แนวรับ +/- 202 บาท (กรณีหลุดแนวรับจิตวิทยา สำคัญ 200 บาท แนะนำ รอรับบริเวณแนวรับถัดไป +/- 190 บาท) / และ แนะนำ “สะสม” KTB* โดยประเมินว่าเป็นหุ้นที่ได้ Sentiment บวกสูงสุดต่อโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐฯ แนวรับ 20.3 บาท (กรณีหลุดแนวรับจิตวิทยา สำคัญ 20 บาท แนะนำ รอรับบริเวณแนวรับถัดไป +/- 19 บาท)
กลุ่มรับเหมาฯ (STEC*) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินเป็นหุ้นที่จะได้อานิสงค์จากโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐฯโดยตรง คาดโครงการลงทุนฯ จะเริ่มต้นได้ภายในปลายปีนี้ หลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ STEC* สำหรับนักลงทุนที่มีอยู่ แนะนำ “ถือ” รอซื้อสะสมเพิ่ม แนวรับ +/- 22.40 บาท (แนวรับถัดไปบริเวณ +/- 21 บาท)
กลุ่มวัสดุฯ (SCC*) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/57 ยังทรงตัว และจะเริ่มฟื้นในไตรมาส 4/57 ต่อเนื่องในปี 2558 จาก i) Spread ปิโตรเคมีที่ยังเป็นบวก และ ii) ดีมานด์วัสดุก่อสร้างที่จะเพิ่มขึ้น จากโครงการเมกะโปรเจคภาครัฐฯ แนะนำ “สะสม” บริเวณแนวรับ +/- 420 บาท
กลุ่มพลังงาน (BANPU*, IFEC) เราประเมินแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ใหม่ มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน (ก๊าซธรรมชาติใกล้หมด) และ พลังงานทดแทนแนะนำ “สะสม” BANPU* แนวรับ 30.5 บาท ประเมินได้ประโยชน์จาก GDP จีนไตรมาส 3/57 ...ล่าสุด PMI จีนเดือน ก.ค. พุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี ตามคาด + สต๊อกถ่านหินจีนปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ แม้งบไตรมาส 2/57 จะอ่อนแอ แต่เราประเมิน Downside risk ด้านราคาหุ้นต่ำ / IFEC แนะนำ “สะสม” แนวรับ +/- 4.30 บาท คาดงบไตรมาส 2/57 พลิกมีกำไร ดีกว่า Consensus คาด + เตรียมปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มเพิ่มอีก 20MW ในเดือน ก.ย.นี้
กลุ่มท่องเที่ยว (AAV*) แนะนำ “สะสม” บริเวณแนวรับ +/- 4.30 บาท ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/57 เป็นจุดต่ำสุด (ไตรมาส 3/57 ฟื้น และเด่นในไตรมาส 4/57) โดยประเมินราคาหุ้นที่อ่อนตัวลง เป็นผลจากประเด็นข่าวเรื่องฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนล่าช้า อย่างไรก็ดีเราประเมินประเด็นดังกล่าวเป็นเพียง Upside risk ที่จะหนุนการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี
... OISHI, ICHI มีข่าวลบ จากการที่ กระทรวงการคลัง เตรียมเก็บภาษีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และเครื่องดื่มผสมน้ำตาล
... CPF*, GFPT* คาดได้ Sentiment บวกหลัง Yum Brand (เจ้าของแบรนด์ Pizza Hut และ KFC) ประกาศยกเลิกใช้เนื้อสัตว์จาก OSI ทั่วโลก (ก่อนหน้านี้ Yum ประกาศเลิกใช้เนื้อสัตว์จาก OSI ในจีนออสเตรเลีย และสหรัฐฯ) ... ประเมินผู้ผลิตเนื้อสัตว์ไทยมีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาดฯ
... TVD (เป้า Consensus 5.3 บาท) ยังคงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ 1)กำไรปกติไตรมาส 2/57 อ่อนแอกว่า Consensus คาด แต่จะมีกำไรพิเศษราว 100 ล้านบาท (คาดมีโอกาสจ่ายเป็นปันผลพิเศษ) 2) งบไตรมาส 3/57 ฟื้นตัว (ไตรมาส 2/57 อ่อนแอ เพราะเหตุรัฐประหาร ...
เวลาออกอากาศทางทีวีลดลง)
... หุ้นตัวอื่นๆ ที่แนะนำก่อนหน้า พื้นฐานยังดี สะสมได้ 1) PTG (เป้า Consensus 3.72 บาท ... มีโอกาสปรับขึ้น) แนะนำ “เก็งกำไร” ... รอข่าวบวกเรื่องการลงทุนโครงการ B100 / 2) SUTHA (เป้าพื้นฐาน 9 บาท ... มีโอกาสปรับขึ้น) ราคาหุ้นลงตามตลาดฯ แนะนำ “สะสม” คาดงบไตรมาส 2/57 เด่น + รอประกาศข่าวบวกเรื่องดีลลงทุน + ขายเครื่องจักรไปต่างประเทศเร็วๆนี้ / 3) TUF* (เป้าพื้นฐาน 76 บาท) งบไตรมาส 2/57 เด่น + YoY และ QOQ ต่อเนื่องในไตรมาส 3/57 / 4) TSR (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 7 บาท) คาด Consensus ต้องปรับประมาณการฯขึ้น เพราะพื้นฐานเปลี่ยนจากตอน IPO (เพิ่มสินค้า + ช่องทางการขายใหม่ๆ)

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
ถือต่อได้แนวโน้มยังดี: BTS*, CPALL*, SCC*, BANPU*, LANNA
พอร์ตเก็งกำไร: SUTHA, IFEC, CHO, SIM กลุ่มรับเหมาฯ, กลุ่มวัสดุ, กลุ่มนิคมฯ, กลุ่มบ้าน, กลุ่มแบงก์

สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลยุทธ์ฯ: คาดเดือน ส.ค. SET จะฟื้นตัวจากปรับฐานแรงในปลาย ก.ค. ด้วยปัจจัยบวกในประเทศ เช่น การเปิดประชุม สนช. เลือกนายกฯ และกำไร บจ. อาจปรับขึ้นสะท้อนพื้นฐานปี 58 ส่วนความเสี่ยงสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยเร็ว คาดมีน้อย แนะซื้อ AAV*, AP*, BANPU*, BJCHI*, BLAND*, ERW* และ KTB*

ข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
CK* (+) ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL*) (บางกอกโพสต์) โดยการขายหุ้น 785 ล้านหุ้นให้แก่นิติบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวโยงกับบริษัทและอีก 240 ล้านหุ้นให้แก่บริษัทที่ดินบางปะอิน ส่งผลให้สัดส่วนหุ้น CK ใน BMCL ลดลงเป็น 25.19% จาก 30.19% ดังนั้น ด้วยราคาขายที่ 1.65 บาท/หุ้น คาด CK จะบันทึกกำไรจาการขายหุ้นก่อนค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันล้านบาท ทั้งนี้ เราไม่แปลกใจกับการลดสัดส่วนดังกล่าวเพราะเป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัทในการทยอยลดสัดส่วนการลงทุนในบริษัทร่วมให้อยู่ในระดับ 15-20% โดยเงินที่ได้จะนำไปชำระหนี้และรองรับการลงทุนเพิ่มเติมในอนาคต ดังนั้น ภาพรวมธุรกิจและผลการดำเนินงานที่ยังสดใส เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” CK ราคาเป้าหมาย 27.00 บาท
BCP* แจ้งว่า บริษัทได้จัดตั้งบริษัท BCP Energy International (BCP Energy) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เพื่อประกอบธุรกิจด้านพลังงาน ปิโตรเคมี และทรัพยากรธรรมชาติของบริษัทในต่างประเทศ และบริษัทย่อยดังกล่าวได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท Petroleum International Investment Corporation (PIIC) เพื่อซื้อหุ้นสามัญคิดเป็น 19.66% ของบริษัท Nido Petroleum Limited (Nido) (Info Quest) Comment: ตลาดมีความเป็นห่วงในความเป็นไปได้ที่ PTT* จะขายหุ้นของ BCP ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ และ การขายน้ำมันดิบของ PTT ซึ่งเป็นวัตถุดิบของ BCP การที่ BCP มีความสนใจในกิจการต้นน้ำ จะเสริมความมั่นคงทางวัตถุดิบ และ เพิ่มค่าความต่างจาก บูรณาการต้นน้ำ upstream integration
(+) KTB* ส่งสัญญาณ ตั้งสำรอง NPL พอแล้ว กำไรสุทธิไตรมาส 3-4 มีลุ้นโตกระฉูด (ข่าวหุ้น) “วรภัค” ส่งซิกเงินสำรองต่อหนี้เสีย หรือ Coverage Ratio ที่ 118% เพียงพอแล้ว ไตรมาส 3-4 ไม่จำเป็นต้องตั้งสำรองพิเศษอีก ดันกำไรขึ้นกระฉูด ส่วนสินเชื่อปีนี้เกินเป้าแน่ มีลุ้นโตถึง 10% หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวและโครงการรัฐหนุน

Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘ค่าเฉลี่ยสามสิบวัน 1505 จุด
ดัชนี SET วันนี้ หากลดลงหรือปิดต่ำกว่าต้าน 1505 จุด อาจกดราคาลงสู่แนวรับ 1490 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือต้าน 1505 จุดได้นั้น อาจสะสมกำลังผลักทางขึ้นต่อเนื่องทดสอบแนวต้าน 1539 จุด
แนวรับวันนี้: 1500/1495/1489 แนวต้านวันนี้: 1505/1514/1522

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 Research@kgi.co.th

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!