WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปรับขึ้น ปัจจัยภายนอก-ในหนุน
Highlight
      ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดขึ้น ตามตลาดยุโรปและสหรัฐฯ หลังความกังวล geopolitical risk ผ่อนคลายลง จากการเจรจา 4 ฝ่ายเรื่องยูเครน
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA เงินเฟ้อ ก.ค. คาด +0.1%m-m (Vs 0.3%) Core CPI +0.2%m-m(Vs 0.1%) ยอดขายบ้านใหม่ ก.ค. คาด +970k (Vs +893k)
-/+ วันทำการก่อนหน้า ต่างชาติขายต่อ -983 ลบ. (ขายสะสม 3 วันรวม -2.04 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อ +359 ลบ. (ซื้อสะสม 2 วันรวม +2.82 พันลบ.)
+ การเมือง คาดเลือกนายกฯ วันที่ 21 ส.ค. หรืออย่างช้า ภายในสิ้นเดือนนี้
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้น โดยมีแนวต้าน 1550/1560จุด แนวรับ 1540/1535 จุด ปัจจัยมาจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ หลังมีการเจรจาความขัดแย้งยูเครน และไทยผ่านร่างงบประมาณปี 58 วาระแรก
แนะนำ Let Profit Run โดยมีจุด Stop Profit หากดัชนีฯต่ำกว่า 1530 จุด สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ แนะนำ Trading Buy รายตัว (Earnings Play&Dividend Play) กลุ่มขนส่งทางเรือ กลุ่มรับเหมาฯ กลุ่มโซล่าร์ กลุ่มค้าปลีกอสังหาฯ
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ KBANK SCB TMB GUNKUL DEMCO PSL TTA IVL SYNTEC CK PS LHBANK TUF QH

หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 8.0%) ได้แก่ AJP ABC CHOW EPCO SUPER RCL UMI AUCT SOLAR PERM APURE PPP หุ้นที่ลงกว่า 3.0% ได้แก่ IRCP EARTH MAX VGI CKP SF SAMTEL THAI MC
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ LH+333 JAS+161 KTB+148 SCB+136 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ BGH-108 KBANK-61
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ CK 45 KBANK 34
วันนี้ หุ้น TAKUNI ซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.60 บาท ราคาพาร์ 0.50 บาท ประกอบธุรกิจ จัดหา จัดส่ง จัดจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และให้บริการติดตั้ง ตรวจสอบ และทดสอบที่เกี่ยวเนื่องกับระบบก๊าซ โดยมี บล. คันทรี่ กรุ๊ป เป็น lead underwritter

Market Outlook
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้น โดยมีแนวต้าน 1550/1560 จุด แนวรับ 1540/1535 จุด จากปัจจัยต่างประเทศ ที่ความขัดแย้งยูเครนผ่อนคลายลง รวมถึงรอลุ้นรายชื่อคณะรัฐบาลใหม่ แนะนำเก็งกำไร กลุ่ม Cyclical Play, Domestic Play
คาดดัชนีฯ ปรับขึ้น ทดสอบแนวต้าน 1550/1560 จุด อีกครั้ง หลังตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวจากการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้งยูเครน ช่วยผ่อนคลายความกังวลนักลงทุน ขณะที่ปัจจัยในประเทศ จีดีพีไทยไตรมาสสองบ่งชี้เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุด ประกอบกับผลประกอบการบจ. ไตรมาสสองเติบโต 15.9% จากปีก่อน ส่วนโมเมนตัมบวกอื่นๆ การคาดว่าจะมี Fund Flow ไหลเพิ่มเข้ามา (บาทแข็งค่าเทียบดอลล์) ประเด็นได้รัฐบาลใหม่ ส่วนความเสี่ยง มาจากประธานเฟดอาจส่งสัญญาณ Exit strategy สุดสัปดาห์นี้ (ซ้ำรอยกับอดี่ตประธานเบน ส่งสัญญาณยกเลิก QE3 ปีก่อน)
+ ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัวหลังคลายกังวลยูเครน จากผลการเจรจา 4 ฝ่าย ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน รัสเซีย เยอรมนี และฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ช่วยไขปัญหาเรื่องการส่งสิ่งของจากรัสเซียเข้าไปให้ความช่วยเหนือด้านมนุษยธรรมกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดน แม้จะยังไม่มีข้อตกลงเรื่องการหยุดยิง เราประเมินว่าแม้ความกังวลระยะสั้นผ่อนคลายลง แต่ประเด็นนี้จะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะกลางต่อไป ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์มีความผันผวนมากขึ้น (จากการเป็น Save haven)
++ ปัจจัยในประเทศ เศรษฐกิจผ่านพ้นจุดต่ำสุด ภายในเดือนนี้ วานนี้ไทยประกาศจีดีพีไตรมาส 2/57 +0.4% YoY (+0.9% QoQ sa) ใกล้เคียงเราและตลาดคาด โดยแรงหนุนจากการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชน เรามั่นใจมากขึ้นต่อการขยายตัวในครึ่งปีหลัง โดยคาดที่ 3-4% จากทั้งการบริโภค และภาคส่งออกที่ฟื้นตัว
บจ. มีกำไรเติบโตในไตรมาส 2 จากการคำนวณของ KTZ บจ. ไทยประกาศงบไตรมาส 2/57 เติบโต 15.9% YoY, -6.3% QoQ และครึ่งปีแรก หดตัว 3.3% โดยแรงหนุนหลักมาจากการเติบโตของกลุ่มพลังงาน อาหารและปิโตรฯ ทิ่เติบโต +142%, 124% และ 44% ตามลำดับ ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรบจ. จะปรับดีขึ้นอย่างแข็งแกร่งในครึ่งปีหลังทั้งจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว โดยคาดทั้งปีจะเติบโตได้ราว 9-10%
รอลุ้นรัฐบาลใหม่ภายในเดือนนี้ หลังจากวานนี้มีการผ่านร่างงบงบประมาณปี 58 วาระแรกไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการเสนอชื่อนายกฯ ในการประชุมสนช. วันที่ 21 ส.ค. นี้ หรืออย่างช้า จะได้นายกฯ ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ โดยเราคาดว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นก่อนงานใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์และ ML สัปดาห์หน้า “Thailand Focus” ซึ่งทุกปีจะมีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นผลดีเงินทุนไหลเข้าในระยะต่อไป
เราแนะนำ Let Profit Run โดยจะมีเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 1600 จุด โดยมีจุด Stop Profit บริเวณ 1530 จุด เราคงคำแนะนำ หุ้นกลุ่ม Cyclical Play กลุ่มธุรกิจรับเหมาโซล่าร์ Domestic Plays
1. กลุ่ม Cyclical Play อิงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แนะนำ กลุ่มเรือเทกอง PSL และกลุ่มปิโตรเคมี เลือก IVL
2. กลุ่ม Domestic Play แนะนำ สะสมเมื่ออ่อนตัว กลุ่มแบงก์ KBANK SCB TMB กลุ่มอสังหาฯ AP QH กลุ่มค้าปลีก CPALL
3. Dividend Play : คาดให้ยิลด์ปีนี้ สูงกว่า 5% แนะนำ SAMTEL MODERN TISCO BCP และสะสมเมื่ออ่อนตัว ADVANC DTAC BTS TTW LPN SPALI (ความเสี่ยงขาลงมีจำกัด)
4. Earnings Play : กำไรเติบโตดี มี %Upward Revision สูง ได้แก่ MJD CCET SYNTEC HANA AEONTS CK SEAFCO QH CPF ในทางตรงกันข้าม ขายหลักทรัพย์ ที่มีการปรับลดประมาณการกำไรสูง ได้แก่ SITHAI ERW PF
5. Event Plays: กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างโซล่าร์ GUNKUL DEMCO ส่วนกลุ่ม High Risk /High Return: หลักทรัพย์ที่พ้น CashBalance 15 ส.ค. ได้แก่ BTC KC MAX NUSA TFD VIH VTE และหลักทรัพย์ที่กำลังจะพ้นวันที่ 22 ส.ค. ได้แก่ ABC ACAP AQ BKD EMC WIIK และพ้นวันที่ 29 ส.ค. ได้แก่ AIRA MPG PAE

ปัจจัยเทคนิค: ระยะสัปดาห์ (Weekly Chart) มีจุดวัดใจ 1550/1560 จุด
หากเราอิงการฟอร์มตัวของรูปแบบดัชนีฯปัจจุบัน เราพบว่า อยู่ระหว่างการฟอร์มตัวเป็นไปได้ทั้ง
1) รูปแบบขาลง Double Top แนวต้านหลัก 1550 จุด โดยจะมีการปรับฐานลงไปที่บริเวณ 1484 จุดเป็นอย่างน้อย ในช่วง 2-4 สัปดาห์ หรือ
2) รูปแบบขึ้นต่อ ทดสอบแนวต้านเดิม 1600/1649 จุด โดยที่โอกาสเกิดมีมากกว่า 50% อิง สัญญาณบวก คือ Bullish Pattern จาก Moving Average ส่วน Oscillators ต่างๆ แม้ว่าจะเป็น Overbought แต่ยังไม่เข้าเขต Super Overbought มากนัก และรูปแบบระยะสั้น (Daily Chart) ยังคงเป็นแบบ Up Channel กรอบ 1481/1573 จุด โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1573 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1538/1527 จุด

ประเด็นจับตา
1. +ประเด็นการเมือง: เข้าสู่โรดแมพระยะที่ 2 สรรหานายกฯ
ประเด็นการเมือง (Update):
สนช. ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. งบปี 58
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 อย่างรวดเร็ว ด้วยคะแนน 183 ต่อ 0 จากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 186 คน โดยงดออกเสียง 3 คน ซึ่งเป็นการพิจารณางบประมาณวาระแรกที่ใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมงเศษ จากเริ่มการอภิปรายในช่วงเช้าเวลา 10.00 น.จนถึงเวลาประมาณ 15.29 น.

2. จับตาประธานเฟดแถลงในงานสัมนาวิชาการ Jackson Hole
ทั่วโลกจับตาประชุม ธ.กลางโลก "แจ๊คสันโฮล" 21-23 ส.ค. หาสัญญาณเฟดขึ้นดบ.
ตลาดจับตาคำกล่าวเปิดงานของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ต่อสัญญานการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือการปรับนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติ (exit strategy) ทั้งนี้ จากผลสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์ ที่ได้สำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ 74 รายในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผลสำรวจคาดว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ระยะสั้นจนกว่าจะถึงไตรมาส 2/2015 และเฟดมีแนวโน้มสูงสุดที่จะปรับขึ้นในเดือน มิ.ย.2015
ผลสำรวจนี้สอดคล้องกับผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ในเดือนก.ค.แต่แตกต่างเล็กน้อยจากผลสำรวจความเห็นบริษัทดีลเลอร์พันธบัตรชั้นนำ ในย่านวอลล์สตรีทในช่วงต้นเดือนนี้ โดยบริษัทดีลเลอร์ชั้นนำที่ติดต่อทำธุรกิจโดยตรงกับเฟดคาดว่า เฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง ครึ่งหลังของปี 2015
ทั้งนี้ เราคาดว่าเฟดจะยังไม่มีการแถลงนโยบายหรือส่งสัญญานใดๆ ที่จะออกมา surprise ตลาดในช่วงนี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงล่าสุดเริ่มชะลงลง

3. แรงขาย Trigger Funds :
คาดว่าหากดัชนีฯปรับขึ้นถึงระดับ 1560 จุด จะมีทริกเกอร์ฟันด์ 4 กองทุนมูลค่า 660 ลบถึงเป้าหมาย ได้แก่ S-MS8RT NAV200ลบ TISEQT10 มูลค่า 20 ลบ TISEQT11 มูลค่า 340 ลบ UOBT 3P3 มูลค่า 100 ลบ ขายเฉพาะ 3% แรกก่อน
และหากดัชนีฯแตะระดับ 1600 จุด จะมี 5 กองทริกเกอร์ฟันด์ มูลค่า 1.63 พันลบ ถึงเป้าหมาย ได้แก่ TISEQT15 มูลค่า 550 ลบ UOBT14 490ลบ UOBT17 330ลบ ONE-SPOT5/2 มูลค่า 250 ลบ และ KFE Q3P3-3 6ลบ.ขายเฉพาะ 3% แรกก่อน

4. +/- 2Q57F Earnings Results: คาดบจ. ไทยมีกำไรเพิ่มขึ้น +15.9% YoY -6.3%q-q
หุ้นที่ประกาศกำไรสุทธิดีกว่าตลาดคาด แนะนำ ANAN TMB LHBANK TUF SIRI IVL THCOM
+/- USA: ผลการดำเนินงาน 2Q57F ของบจ.สหรัฐฯ ที่น่าสนใจ : ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก Target Lowe’s HPHome Depot (20/8) GAP Staple (21/8)

5. +/-รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : ไฮไลท์อยู่ที่
วันอังคารที่ 19 ส.ค.: USA เงินเฟ้อ ก.ค. คาด +0.1%m-m(Vs 0.3%) Core CPI +0.2%m-m(Vs 0.1%) ยอดขายบ้านใหม่ ก.ค. คาด +970k(Vs +893k)
วันพุธที่ 20 ส.ค.: รายงานผลประชุมเฟดเดือนก.ค. ของเฟดและ BoE Japan:ส่งออก ก.ค. +3.8%y-y(Vs -1.9%)
วันพฤหัสบดี ที่ 21 ส.ค.: USA: Phil Fed Survey ส.ค. คาด 20 (Vs 23.9) Existing Home sales ก.ค. คาด +5 ล้านราย (Vs +5.04 ล้านราย) China: HSBC PMI mfg ส.ค. คาด 51.5 (Vs 51.7) Japan: PMI Mfg ส.ค. คาด 51.5 (Vs 50.5)
วันศุกร์ที่ 15 ส.ค.: USA: Jackson Hole symposium, China: FDI ก.ค. คาด +0.8%y-y (Vs 0.2%) Taiwan: อัตราว่างงาน ก.ค. คาด 4%

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
ธ.กลางสเปน เผยหนี้เสียภาคธนาคารลดลงสู่ 13.1% ในเดือน มิ.ย. ธนาคารกลางสเปน เปิดเผยว่า หนี้เสียของภาคธนาคารในสเปนเมื่อเทียบเป็น เปอร์เซนต์ของหนี้ทั้งระบบอยู่ที่ 13.1% ในเดือนมิ.ย. ลดลงเล็กน้อยจาก 13.4% ในเดือน พ.ค. ขณะที่หนี้เสียลดลง แต่การปล่อยสินเชื่อโดยรวม เพิ่มขึ้น ทั้งนี้สินเชื่อทั้งระบบการเงินของสเปนอยู่ที่ 1.42 ล้านล้านยูโร (1.90 ล้านล้านดอลลาร์) ในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 1.41 ล้านล้านยูโรในเดือน พ.ค. หนี้เสียลดลงแตะระดับ 1.859 แสนล้านยูโรในเดือน มิ.ย. จาก 1.894 แสนล้านยูโรในเดือน พ.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน ม.ค.
จีน เผยตัวเลข FDI ร่วงลงครั้งแรกรอบ 17 เดือนใน ม.ค.-ก.ค. กระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า จีนได้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) คิดเป็นมูลค่า 7.11 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ลดลง 0.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉพาะในเดือนก.ค. จีนได้รับ FDI คิดเป็นมูลค่า 7.8 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนการลงทุนโดยตรงของจีนที่ไม่ใช่ภาคการเงินไปยังต่างประเทศพุ่งขึ้น 4% สู่ระดับ 5.26 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ FDI ในเดือน ม.ค.-ก.ค. ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 เดือน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่บริษัทจากญี่ปุ่น, ยุโรปและสหรัฐลดการใช้จ่ายในภาคการผลิต
NAHB เผยดัชนีตลาดบ้านเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน ส.ค. สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 55 ในเดือน ส.ค. จากระดับ 53 ในเดือนก.ค. โดยปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยจะทรงตัวที่ระดับ 53 ในเดือน ส.ค.

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดขึ้นแรง Nasdaq สูงสุดรอบ 14 ปี รับตัวเลขสร้างบ้านและ M&A
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งแรง โดยดัชนี DJIA ปิดพุ่ง 175.83 จุด หรือ 1.06% สู่ระดับ 16,838.74 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดสูงขึ้น 16.68 จุด หรือ 0.85% สู่ระดับ 1,971.74 จุด Nasdaq พุ่งขึ้น 43.38 จุด หรือ 0.97% สู่ระดับ 4,508.31 จุด
หลังจากที่มีความพยายามระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี ฝรั่งเศส รัสเซียและยูเครน ในการหารือกันเพื่อยุติการความขัดแย้งในยูเครน นอกจากนี้ ความพยายามในการซื้อกิจการแฟมิลี ดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นแฟมิลี ดอลลาร์พุ่งขึ้น 5% หลังจากดอลลาร์ เจเนอรัล เสนอซื้อกิจการแฟมิลี ดอลลาร์เป็นมูลค่าราว 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพยายามเอาชนะข้อเสนอของดอลลาร์ ทรี โดยหุ้นดอลลาร์ เจเนอรัล ทะยานขึ้น 9% ขณะที่หุ้นดอลลาร์ ทรี ร่วงลง 2.1%
หุ้นกลุ่มบริษัทสร้างบ้านพุ่งขึ้น หลังดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยของ NAHB/Well Fargo บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือน ส.ค. หุ้นกลุ่มสายการบินพุ่งขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันลดลง โดยดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่งพุ่ง 1.7%

+ ตลาดหุ้นยุโรป พุ่งขึ้นแรง หลังสถานะการณ์ยูเครนอาจคลี่คลาย
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกแรง โดย FTSE ปิดเพิ่มขึ้น 52.17 จุด หรือ 0.78% สู่ 6,741.25 จุด ดัชนี CAC40 ปิดพุ่ง 56.29 จุด หรือ 1.35% สู่ 4,230.65 จุด และ DAX ปิขึ้นแรง 152.73 จุด หรือ 1.68% สู่ 9,245.33 จุด หลังนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน

-ราคาน้ำมันดิบ ปิดร่วงลง ลดวิตกปัญหาอุปทานขาดแคลนจากกรณียูเครน
วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ตค.(เปลี่ยนจากเดือน กย.) ปิดลดลง 1.93 ดอลลาร์ สู่ 101.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ กย. ปิดลดลง 0.94 ดอลล์ต่อบาร์เรล มาปิดที่ระดับ 96.41 ดอลล์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนลดความกังวลที่มีต่อความขัดแย้งในยูเครนและอิรัก และเนื่องจากลิเบียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้าง โดยได้รับแรงหนุนจาก รายงานของบริษัทเจนสเกปที่ระบุว่า โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทซีวีอาร์ รีไฟนิง ในเมืองคอฟฟีย์วิล รัฐแคนซัส "มีกิจกรรมการทำงานเพิ่มขึ้นต่อไป" โดยโรงกลั่นแห่งนี้มีกำลังการผลิตน้ำมัน 115,000 บาร์เรลต่อวัน โรงกลั่นแห่งนี้ปิดทำการนับตั้งแต่เกิดเหตุเพลิงไหม้ในวันที่ 29 ก.ค.เป็นต้นมา

-ราคาทองคำ ปิดลดลง หลังสินทรัพย์เสี่ยงพุ่งสูงขึ้น
วันทำการที่ผ่านมา ราคาสัญญาทองเดือน ธันวาคม กลับมาปิดลดลง 6.90 ดอลล์ มาปิดที่ระดับ 1,299.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 7.20 ดอลลาร์ สู่ 1,297.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ในขณะที่ความขัดแย้งในยูเครน ลดระดับความรุนแรงลง และราคาทองยังได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกและจากการแข็งค่าของดอลลาร์ด้วย รัสเซียระบุว่า ปัญหาทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับขบวนรถของรัสเซียที่ขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปยังยูเครนได้รับการคลี่คลายแล้ว แต่ระบุว่ายังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงหรือการหาทางออกทางการเมืองให้แก่การสู้รบในภาคตะวันออกของยูเครน หลังจากมีการเจรจาระหว่างรัสเซีย, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และยูเครนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

+ ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 จากผลกระทบฤดูกาล
วันทำการที่ผ่านมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดเพิ่มขึ้น 27 จุด มาปิดที่ 1042 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 Thanomsaks@ktzmico.com 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 Tidaratp@ktzmico.com 02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!