Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Thursday, 21 August 2014 18:40

Hits: 2907

บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

สรุปภาพตลาด
ผันผวนในกรอบ
คาดดัชนีฯผันผวนในกรอบ รับ 1,543 ต้าน 1,555/1,560 จุด
      ระยะสัปดาห์ คาดย่อไม่หลุดแนวรับ 1,535/1,530 จุด ยังคงมีลุ้นขึ้นทดสอบ แนวต้านบริเวณ 1,580 จุด ปัจจัยลบ แรงขายทำกำไรระยะสั้นจากพอร์ตโบรกเกอร์ และ วิตกกองทริกเกอร์ปิดกองหลังผลตอบแทนเข้าเป้า, ต่างชาติชะลอซื้อเพื่อรอประเมินถ้อยแถลงประธานเฟด Jackson Hole วันศุกร์นี้ ส่วนเมื่อวาน Fed minute ส่งสัญญาณนโยบายการเงินเชิงเข้มงวด (more Hawkish) ส่วนปัจจัยหนุนหุ้นไทยยังคงมาจากการประกาศและรอขึ้น XD รับเงินปันผล, มติ กพช.คาด Slightly positive ต่อกลุ่มพลังงานและพลังงานทดแทน, GDP 2Q14 ไทยดีกว่าคาด

กลยุทธ์เล่นรอบรายเดือน แนะซื้อคืนเมื่อปรับฐาน ให้น้ำหนักดัชนีฯ ไม่หลุด 1,480 จุด
      หุ้นแนะนำ เก็งกำไร TSR แนวรับ 7 บ. และ AIRA แนวรับ 2.64 บ. ใครที่ซื้อตามคำแนะนำไม้แรกๆ แนะถือ คาดขึ้นต่อ BANPU วันนี้ลุ้น PMI (flash) จีนดีกว่าคาด (MS ออกรายงานผลสำรวจ ผจก.กองทุน มองหุ้นจีนเป็นบวก จากเชื่อเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว หลังผ่านมาตรการ Soft landing), CHO

BLS รายงานพื้นฐานวันนี้ (ดูรายละเอียดฉบับเต็ม)
(+) กลุ่มแบงก์ เรา Roll over ราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2015 หุ้น Top pick แนะ KBANK SCB ส่วนหุ้น Top sell คือ BAY ส่วนสินเชื่อเดือน กค.คาดแบงก์ที่คาดปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายปีนี้ คือ KBANK TMB KTB ส่วนที่เหลือ คาดมีโอกาสปล่อยสินเชื่อต่ำกว่าเป้าหมาย
(+) BGH เรา Roll over ราคาเป้าหมายไปเป็นปี 2015 ที่ 20.5 บ.แนะนำซื้อ คาดผลการดำเนินงาน 3Q14 สร้างจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการรวมกำไร รพ.สนามจันทร์เข้ามา และคาดว่าการออกหุ้นกุ้นแปรสภาพช่วงที่ผ่านมาจะมีเงินเหลือ เพื่อซื้อกิจการอีกราว 7 พันล้านบาท เราคาดว่าจะมีการซื้อกิจการภายในปีนี้อีก 2 แห่ง ส่วนปีหน้าซื้ออีก 5 แห่ง ทำให้จำนวน รพ.ในเครือเพิ่มขึ้นเป็น 50 แห่งในปีหน้าตามเป้าหมาย
(-) THAI เราคงคำแนะนำ ขาย เรามีมุมมองเชิงลบหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ราคาเป้าหมาย 12 บ.
หุ้นมีข่าว
(-) ICHI คาดผลกระทบต่อกำไรปี 2014 จากไลน์ผลิตใหม่ไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (กระทบ 2H14) คาด EPS ลดลงราว 2% และ ราคาเป้าหมายลง 2.2% ส่วน EPS ปี2015-16 คาดลงเหลือ 1.10-1.31 บาท (จาก 1.15-1.38 บ. ตามลำดับ) ผลกระทบคิดเป็น 4-5%
(+) CHO เปิดซองประมูล รถเมล์ NGV สิ้นเดือน สค.นี้ ก่อนประมูลปลาย กย.ทั่งนี้คำสั่งซื้อทั้งหมดรอบนี้อยู่ที่ 3,183 คัน ทยอยส่งมอบปีหน้าทั้งหมด / Consensus คาด EPS 2015 ราว 0.22 บ.รวมงานรถเมล์แล้ว และถ้าได้งานเรือตรวจการฯจากกองทัพ (คาดประกาศงานปลายปีนี้) คาด EPS บวกเพิ่มอีกราว 0.05 คาด Upside risk หากอิง PE 15 เท่า คาดเป้าหมาย 4.05 บาท (อนึ่งค่าเฉลี่ย PE กลุ่มงานประมูลรัฐฯเทรดเกิน 15 เท่า)
(+) SAMART คาดเริ่มแจกคูปอง Set top box ปลายเดือน กย.นี้
(*) JAS คาดสัปดาห์หน้า ลุ้นศาลแพ่ง รับ/ไม่ คำร้องคุ้มครองกรณี TT&T ฟ้องเรียก TTTBB คืน
(+) หุ้นเชื่อมโยง (IFEC DEMCO SOLAR BANPU AI) กพช. เห็นชอบเดินหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ / คสช.เห็นชอบลงทุนระบบ ผลิต-ส่ง ไฟฟ้ากว่า 1.7 แสนล้านบาท
(+) XD: 21 สค. CSS@0.06, FPI@0.15, GCAP@0.06, MAJOR@0.50, PDG@0.07, TNITY@0.25 / 22 สค. EPCO@0.14, INTUCH@2.23, TFUND@0.18 , TLOGIS@0.21,
(+) บอร์ด รฟม.เห็นชอบโครงการ รฟฟ.สายสีเขียว วงเงิน 2.9 หมื่นล้านบาท ยื่นซอง 30 กย. แบ่งงานเป็น 4 สัญญา 1) งานโยธาหมอชิต-สะพานใหม่ 2) สะพานใหม่-คูคต 3) ศูนย์บำรุงรักษา 4) งานระบบราง

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(*) ถ้อยแถลงประธานเฟด ณ. Jackson Hole symposium วันศุกร์ที่ 22 สค. คาดไม่มี Positive surprise เหมือนปีก่อนๆ ตลาดรอดูแนวนโยบายการเงินหลังสิ้นสุดโครงการ Asset purchase (QE) ในเดือน ตค.นี้ คาดการถ้อยแถลง(เป็นกลาง/บวกเล็กน้อย) 1) ตลาดแรงงานที่ผ่านมาดีเกินคาด สะท้อนการดำเนินนโยบายมาถูกทาง 2) แนวนโยบายที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ
(+) สภาพัฒน์ฯ รายงาน GDP ไทย 2Q14 พลิกบวก +0.4% ดีกว่าที่คาด +0.1% (จาก -0.6% y-y) และปีหน้าคาดโต 3.5-4.5% จากภาคส่งออกที่คาดว่าจะกลับมาเติบโต 5-7% (บนสมมุติฐาน Conservative)
(+) ตลท.จัดงานไทยแลนด์โฟกัส 27-29 สค.นี้
(-) เมื่อวานรายงานการประชุม เฟด (กค.) ส่งสัญญาณเชิงลบต่อตลาด
(+/-) วันพฤหัส Philly Fed survey (สค.) คาดบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจชะลอเป็น 18.5 จาก 23.9, PMI ยุโรป (Flash สค.) คาด 53.4 จาก 53.8 โดยภาคการผลิตคาด 51 (ลดลงจาก 51.8), จีน HSBC PMI (สค.) คาด 51.6 จาก 51.7
(+) MS รายงาน Asia GEM strategy แนะ Overweight กลุ่ม Real Estate ในภูมิภาค (พัฒนาที่ดินเพื่อทำ นิคมอุตสาหกรรม ให้เช่าโณงงาน เก็บค่าเช่าจากการพัฒนาที่ดิน ฯลฯ) จาก 1) Earning revision กำไรมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น หลังผ่านจุดต่ำสุดในเดือน กค. EPS IBES -5.5% VS เดือน มิย.-13.2% จากสถิติพบว่าราคาหุ้นแรลรี่ราว 7% เมื่อผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดในปี 2000 2) ราคาหุ้นภูมิภาคยังเทรดที่ -0.5 SD และ NAV ยังมีส่วนลด 3) กองทุนต่างชาติ Under-owned หุ้นกลุ่มนี้ / คาดแรงกว้านซื้อหุ้นในภูมิภาค ส่งผลบวกต่อการลงทุนหุ้นไทยไปด้วย หุ้นไทยเชื่อมโยง แนะนำ AMATA HEMRAJ TICON ทั้งนี้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ MS Overweight รอบนี้ยังมี ยานยนต์ และ ประกันชีวิต แต่การเปลี่ยนแปลง น้ำหนักไม่มีนัยยะเท่ากลุ่ม Real Estate

สรุปหุ้นในกระแส:
Laggard play: BANPU TTA PSL เศรษฐกิจจีนดีกว่าคาดหนุนกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
Events play: CPALL Upside risk จากการขายหุ้น MAKRO
หุ้น Story Turnaround: EFORL IFEC RML PSL

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด

ความเชื่อมั่นอุตฯสูงสุดรอบ 8 เดือน
ดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ก.ค. แตะ 89.7 สูงสุดรอบ 8 เดือน เอสเอ็มอีเริ่มฟื้น นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยเดือนก.ค. อยู่ที่ 89.7 เพิ่มขึ้นจาก 88.4 ในเดือน มิ.ย. เป็นการปรับตัวดีขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน นับแต่เดือนธ.ค. 2556 เป็นต้นมา ส่วนความเชื่อมั่น 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 103.1 เพิ่มขึ้นจาก 101.9 ในเดือน มิ.ย. (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

เปิดซองลงทุน 9 โปรเจกต์อัดเงินเข้าระบบปี'58สร้างรถไฟฟ้า-รางคู่ เส้นทางหลวง
คมนาคมเร่งเปิดซองประมูล 9 เมกะโปรเจกต์ รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ ทยอยเข็นเงินเข้าระบบต้นปี 2558 นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รถไฟรางคู่สายแรกที่จะดำเนินการได้เป็นเส้นแรก คือ เส้นทางจิระ-ขอนแก่นวงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาทซึ่งคาดว่าจะเปิดให้เอกชนยื่นซองประมูลและเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงต้นปี 2558 ส่วนโครงการรถไฟรางคู่ที่เหลืออีก 5 เส้นทาง วงเงิน 1 แสนล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะมีการประมูลและก่อสร้างในปี 2558 เช่นกัน (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

โยกฐานผลิต'มาสด้า2'จากญี่ปุ่นมาไทย
มาสด้าเตรียมย้ายการผลิตรถมาสด้า 2 แฮตช์แบ็กจากญี่ปุ่นมาไทยเหตุต้นทุนถูกกว่าบริษัท มาสด้า ผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นเตรียมแผนย้ายฐานการผลิตรถยนต์ของบริษัทรุ่นนิวมาสด้า 2 แฮตช์แบ็กที่ส่งขายไปยังออสเตรเลียมายังไทยแทน เพราะตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ของไทยกำลังเติบโตและต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าที่ญี่ปุ่น (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ยอดขายรถ 7 เดือนวูบ 39% จ่อปรับเป้ายอดผลิตก.ย.นี้
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศ เดือน ก.ค. มีจำนวน 69,267 คัน ลดลง 29.5%ขณะที่ยอดขายรวม 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) มีจำนวน 510,178 คัน ลดลง 39.2% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี ทำให้กำลังซื้อประชาชนลดลง และปีนี้ไม่มีการส่งมอบรถยนต์คันแรก ส่งผลต่อเนื่องถึงยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ก.ค. ที่มีเพียง 151,339 คัน ลดลง 24.89% ส่วนยอดการผลิตรถยนต์ 7 เดือน มีจำนวน 1.10 ล้านคัน ลดลง 28.46% (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

'ไมเนอร์'ทุ่ม 2.5 หมื่นล้านขยายธุรกิจโรงแรม-อาหาร
นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานกรรมการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจกิจการโรงแรม, ภัตตาคาร, อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการจัดจำหน่ายและผลิตสินค้า เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมงบประมาณลงทุนเพื่อขยายธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารทั้งในประเทศและต่างประเทศ 5 ปี รวม 20,000-25,000 ล้านบาท รวมทั้งเตรียมงบประมาณอีกกว่า 10,000-12,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ควบรวมกิจการในธุรกิจโรงแรมและอาหาร ในระยะต่อไป ซึ่งเชื่อว่าการขยายธุรกิจจะทำให้กำไรสุทธิเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 15-20% ตั้งแต่ปี 56-60 หรือภายในอีก 5 ปีจากนี้ (หนังสือพิมพ์เดลินิวส์)

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1

รายงานวันนี้

หุ้น: THAI คำแนะนำ: ขาย ราคาเป้าหมาย (บาท): 12.00
จากการเข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ ยืนยันมุมมองการลงทุนอย่างระมัดระวังของเราในหุ้น THAI
แนวโน้มผลประกอบการปี 2557 ที่คาดยังคงอ่อนแอ ส่งผลให้ราคาหุ้นไม่มีปัจจัยสนับสนุน
การดำเนินงานหลักคาดปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY ในไตรมาส 3/57 แต่จะยังคงขาดทุน
มีแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจแล้ว แต่มีความเสี่ยงในเรื่องการปฏิบัติตามแผนให้สำเร็จ
เราลดความกังวลต่อการเพิ่มทุนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังคงมีความเสี่ยงดังกล่าวอยู่

นักวิเคราะห์: สุพพตา ศรีสุข

หุ้น: BGH คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 20.50
เราแนะนำให้ ซื้อ เนื่องจากเรามองว่ากำไรหลักจะขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/57 และอาจมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมในไตรมาส 4/57
จำนวนผู้ป่วยต่างชาติฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือนส.ค.หลังเหตุการณ์ทางการเมืองในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 สงบลงและช่วงรอมฎอนในช่วงเดือนก.ค.
กำไรหลักคาดขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 3/57 หนุนจากปัจจัยช่วงฤดูกาลและการรวมธุรกิจกับกลุ่มโรงพยาบาลสนามจันทร์
ผู้บริหารเน้นการขยายอัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคาในโรงพยาบาลที่มีอยู่ในปัจจุบัน แม้จะมีการเปิดตัวโรงพยาบาลใหม่ในอนาคต
การออกหุ้นกู้แปลงสภาพแก่นักลงทุนต่างชาติมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทจะหนุนให้บริษัทมีเงินทุนเพื่อใช้ในการซื้อกิจการได้มากขึ้น

นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร