WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

มุมมองตลาด
  ภาวะการลงทุนของตลาดหุ้นไทยยังคงเดินหน้าปรับตัวขึ้น ทดสอบจุดยอดเดิม 1552 จุด ด้วยบรรยากาศดอกเบี้ยต่ำ สภาพคล่องที่ยังทรงตัว และแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังจะช่วยหนุนให้ตลาดยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ การวิเคราะห์ในเชิงเทคนิคประเมินทิศทางขาขึ้นเนื่องจากเหตุผล:
  1. ตลาดหุ้นไทยอาจปรับขึ้นไปถึง 1580 จุดด้วยค่า PER ที่สูงกว่าที่ 16.2 เท่าและใกล้เคียงกับจุดสูงสุดในอดีต
  2. กระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้าสู่ภูมิภาค พบว่า Fund flow ได้ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รูปแบบในอดีตเรามักจะเห็นการไหลเข้าของกระแสเงินลงทุนต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
  3. สัญญาณทะลุทำจุดสูงสุดใหม่และดัชนีเคลื่อนตัวสูงกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-ยาว
  4. ดัชนี AD line ซึ่งแสดงการปรับตัวของอุตสาหกรรมต่างๆในตลาด ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งการปรับตัวขึ้นของ AD line ชี้ว่าหุ้นในตลาดฯปรับตัวขึ้นตามดัชนีหลักเป็นจำนวนมาก
  5. นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลรักษาการจะช่วยผลักดันโครงการสาธารณูปโภคภายในประเทศและเศรษฐกิจภายในประเทศจะมีการฟื้นตัว
  หุ้นแนะนำ Technical screen : TOP BUY (SAMART MINT BLA) TOP SELL ( CPN EA SAWAD)
  BLS รายงานพื้นฐาน
  1. กระทรวงสาธาณสุข ประกาศยังไม่พบผู้ป่วยที่ติดเชื้ออีโบลาในประเทศไทย แต่ให้เฝ้าระวังโดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศไลบิเลีย ส่วนผลกระทบเทียบกับโรคซาร์สปี 2003 ส่งผลให้ ผู้โดยสารที่เดินทางบนเครื่องบินลดลง 7% YoY
  Occupancy rate (อัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ย) ลดลง 38% กรณีรุนแรงมากที่สุด โดยใช้เวลา 3 เดือน แล้วค่อยฟื้นตัว ในเชิงพื้นฐาน เราคาดว่าหากราคาหุ้นในกลุ่มโรงแรมปรับลง มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ หุ้นที่เราชอบมากที่สุดคือ MINT ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 41.5 บาท
  2. กสทช. ประกาศ1.ลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาติ 2. ลดค่าเงินอุดหนุนกองทุนโทรคมนาคม 3.ลดค่าธรรมเนียมเลขหมายโทรคมนาคม. เราคาดว่าเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากต้นทุนผู้ประกอบการจะลดลง ยังคงคำแนะนำซื้อ: DTAC (TP/122) ADVANC (TP/250) INTUCH(TP/101)

ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด
ต่างชาติขายทำกำไรบอนด์ ครึ่งเดือนส.ค.ออก 3.3 หมื่นล.
   สมาคมตราสารหนี้ เผยช่วง 1-19 ส.ค. เงินต่างชาติไหลออก 3.35 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขายทำกำไรในตราสารหนี้ระยะสั้น ประเมินเงินลงทุนระยะยาวยังไหลเข้าต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยการเมืองไม่กระทบโดยตรงชี้นักลงทุนมองพื้นฐานเศรษฐกิจประเทศสำคัญกว่า คาดแนวโน้มซัพพลาย
ตราสารหนี้ในอนาคตดีขึ้นจากการขาดดุลงบประมาณ-การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มั่นใจไม่กระทบตลาด เหตุดีมานด์ปัจจุบันยังมีรองรับอีกมาก (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

'ซีพีเอ็น'ศึกษาตลาดเพิ่ม ชะลอแผนเปิดห้างมาเลย์
   ซีพีเอ็น เลื่อนเปิดห้างมาเลเซีย เป็นไตรมาส 2 ปี 2560 เหตุต้องการศึกษาตลาดเพิ่มเติม เชื่อการแข่งขันไม่รุนแรง เมินลงทุนในจีน หลังราคาอสังหาพุ่ง หวั่นผลตอบแทนไม่คุ้มค่า ด้านผลการดำเนินงานคงเป้ารายได้โต 15% หลังไตรมาสที่ 2 เติบโตดี จากการควบคุมต้นทุน (หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ)

คลังค้ำบินไทย 2 หมื่นล. ที่เหลือให้ใช้เครดิตกู้เอง
   คลังอุ้มการบินไทย ยอมค้ำประกันเงินกู้ 2 หมื่นล้านเสริมสภาพคล่อง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คลังได้สรุปการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องของบริษัทการบินไทย วงเงิน 2.8 หมื่นล้านบาทแล้วโดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก5,000-7,000 ล้านบาท จะให้การบินไทยกู้เองจากสถาบันการเงิน โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เนื่องจากการบินไทยยังมีเครดิตอยู่ เงินกู้ส่วนนี้จะนำไปเสริมสภาพคล่องและชำระค่าเครื่องบิน (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

แบงก์จับคนรวยผ่อนหลักเกณฑ์ปล่อยกู้บ้านเพิ่ม
   แบงก์เชื่อเศรษฐกิจไปได้สวย ประเดิมผ่อนเกณฑ์ปล่อยกู้บ้านคนรวย หย่อนภาระหนี้เป็น 50% ของรายได้นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ธนาคารมั่นใจที่จะปล่อยสินเชื่อมากขึ้นเบื้องต้นได้ลดความเข้มงวดเกณฑ์คุณสมบัติผู้กู้ลงบ้าง และอาจพิจารณาหย่อนเกณฑ์เรื่องภาระหนี้ในกลุ่มผู้ที่มีรายได้สูง ที่เดิมกำหนดภาระหนี้ผู้กู้ต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ แต่หากผู้กู้มีรายได้สูง เช่น 1 แสนบาทขึ้นไป ก็จะปรับให้เพิ่มเป็น 50% ของรายได้ โดยดูที่ความสามารถชำระหนี้เป็นหลัก (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)

ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!