Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 25 August 2014 16:31

Hits: 2341

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

หลังจากแกว่งสร้างฐาน...ต่อไปก็เริ่มแกว่งไต่ระดับขึ้น ดังนั้นยังเน้นถือ!!
      กลยุทธ์ : หลังจาก SET แกว่งตัวผันผวนเพื่อสร้างฐานมาพักใหญ่ คาดว่าช่วงถัดจากนี้ดัชนีกำลังจะเริ่มแกว่งตัวเพื่อค่อยๆ ขยับไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องรอบใหม่แล้ว โดยเราคาดว่ายังมีเป้าหมายที่จะทำจุดสูงสุดใหม่แถว 1600 จุด(+/-) ได้ ดังนั้นช่วงนี้เราจึงยังแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงตลาดลบ แล้วเน้นถือต่อเนื่องไว้จนกว่าดัชนีจะขยับเข้าใกล้ 1600 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จึงจะพิจารณาหาจังหวะขายทำกำไรอีกครั้ง

หุ้นเด่นทางเทคนิค : TWZ, PCA, CPN(buy back)
    แนวโน้ม : ปลายสัปดาห์ที่แล้ว SET ยังแกว่งบวกกลับขึ้นมาได้ดี ถึงแม้ว่าจะยังมีจังหวะแกว่งตัวผันผวนให้เห็น แต่ดัชนีก็สามารถขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องได้อีกครั้ง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐมีการปรับพักตัวลงลบบ้างในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดในที่ประชุมใหญ่ประจำปีของเฟดไม่ได้มีประเด็นใหม่ๆ ที่จะมาสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน แต่ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียกลับเป็นประเด็นกดดันตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปอีกครั้ง เนื่องจากรัสเซียส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์ข้ามพรมแดน ทำให้ยูเครนไม่พอใจเพราะถือว่าเข้าข่ายบุกรุก อย่างไรก็ตามคาดว่านักลงทุนคงยังลุ้นการนัดเจรจาหารือระหว่าง ปธน.รัสเซียและยูเครนในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) อยู่ รวมทั้งตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ก็ไม่ได้เปิดตัวเลวร้ายนัก ทำให้ FSS คาดว่าแม้ SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นการผันผวนในทางบวกต่อเนื่องได้เช่นเดิม

     แนวรับ 1555-1552 , 1549-1546 จุด แนวต้าน 1562-1564 , 1570-1573 จุด
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่นมากและมากที่สุดในสัปดาห์ที่ราว US$606ล้าน โดยไหลเข้าไต้หวันเป็นส่วนใหญ่ที่ US$484.5ล้าน และไหลออกประเทศเดียวคือที่ฟิลิปปินส์ราว US$6.5ล้าน ขณะที่ยังไหลเข้าประเทศไทยต่อเนื่องอีก US$21 ล้าน รวมสัปดาห์ที่ผ่านมากระแสเงินทุนไหลเข้าหนาแน่น US$1.6พันล้าน มากกว่าสัปดาห์ก่อนเกือบเท่าตัวโดยมีปัจจัยบวกจากความเครียดในยูเครนที่คลายตัวลง

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) ตลาดยังคงคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด คำแถลงของ Yellen ในการประชุมที่ Jackson Hole ศุกร์ที่ผ่านมาเป็นไปในโทนเดียวกับรายงานการประชุม FOMC วันที่ 29-30 ก.ค. โดยกล่าวว่าตลาดแรงงานฟื้นตัวดีขึ้นแต่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ ทำให้ตลาดคาด Fed อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดคือปลาย 1Q15 แทนที่จะเป็นกลางปี ตรงข้ามกับ Draghi ประธาน ECB ที่กล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของยุโรปยังจำเป็นต่อไป คำกล่าวดังกล่าวทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า ขณะที่เงินยูโรและเอเชียอ่อน
   (0) กระแสเงินทุนจากต่างชาติจะชะลอจนถึงเดือนหน้า จากถ้อยแถลงของ Yellen เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่สงวนท่าทีมากเกี่ยวกับดอกเบี้ย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายรายกลับหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ย รวมถึง QE ที่กำลังจะสิ้นสุดในเดือน ต.ค. นี้ เราเชื่อว่าน่าจะทำให้ทิศทางของเงินทุนจากต่างชาติจะชะลอไปจนกว่าจะถึงการประชุม FOMC 17-18 ก.ย. เพื่อรอดูสัญญาณของ Fed อีกครั้งเกี่ยวกับทิศทางของดอกเบี้ยและ Exit strategy ในระยะนี้หุ้น big cap อาจน่าสนใจน้อยกว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
   (+) ลุ้นรายชื่อครม.สัปดาห์นี้ จับตาขุนคลังคนใหม่ว่าจะเป็นม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล หรือคุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB หรือท่านอื่น หลังมีรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศเดือน ก.ย. แล้ว เชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้ และผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ผ่านร่างพร.บ.งบประมาณปี 2558 กลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงยังคงเป็นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK, STEC, SEAFCO, PYLON) และธนาคารขนาดใหญ่ (KBANK, KTB)
  (+) XO เริ่มซื้อขายวันนี้ บมจ.เอ็กโซติคฟู้ดเป็นผู้ผลิตเครื่องปรุงรส (ซอส, น้ำจิ้มไก่) เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มจากผักและผลไม้ และอาหารสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ของตนเอง ได้แก่ EXOTIC FOOD, THAI PRIDE, FLYING GOOSE, COCO LOTO โดยเป็นการส่งออก 99% ตลาดหลักคือยุโรป 76% ของรายได้รวม รองมาคือสหรัฐฯ 6% จุดแข็งของ XO คือความหลากหลายของสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลกเช่น Metro, Makro และ Tesco เป็นต้น เราคาดกำไรปี 2014 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 85 ล้านบาท โตกว่า 9 เท่าจากปีก่อน และคาดกำไรปี 2015-16 โตเฉลี่ย 16% จากการขยายกำลังการผลิตในโรงงานแห่งใหม่ซึ่งจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ใน 4Q15 เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2014 ที่ 3.20 บาท และราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 3.70 บาท (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ XO)
   (+) จำนวนนักท่องเที่ยวมีสัญญาณฟื้น นักท่องเที่ยว ก.ค. ฟื้นแรง 23% M-M แต่ยังหดตัว 11% Y-Y โดยเฉพาะภูมิภาคหลักอย่างเอเชียตะวันออกและยุโรปโตสูงถึง 27% M-M และ 30% M-M เป็นสัญญาณที่ดีของการท่องเที่ยว เราเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะฟื้นตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี โดยได้ประโยชน์จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจีนและไต้หวัน 3 เดือนตั้งแต่ 9 ส.ค. - 8 พ.ย. นี้ และการยกเลิกกฎอัยการศึกในอนาคตอันใกล้ แนะนำซื้อ AAV (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 5.40 บาท) และ ERW (เป้าหมายปี 2015 ที่ 5.90 บาท) อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของไวรัสอีโบล่าในแอฟริกาตะวันตกเป็นปัจจัยเสี่ยง แต่ปัจจุบันยังไม่พบผู้ติดเชื้อในไทย

  ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากพุ่งขึ้นมาหลายวันติดต่อกันในช่วงก่อนหน้า หลังถ้อยคำแถลงของประธาน FED และ ECB ออกมาค่อนข้างเป็นกลาง นอกจากนี้ตลาดยังถูกประเด็นความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซียกดดัน
   ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนที่กลับมาสร้างความกังวลอีกครั้งหลังรัสเซียส่งขบวนรถบรรเทาทุกข์ข้ามพรมแดนมายังภาคตะวันออกของยูเครน
   ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในกรอบแคบหลังประเด็นความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง รวมถึงถ้อยคำแถลงของประธาน FED ที่ไม่ได้สร้างความน่าตื่นเต้น
  ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 31.93-32.06 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 0.31 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 93.65 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน จากสต๊อกน้ำมันดับที่เมืองคุชชิ่งที่เพิ่มขึ้น
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวขึ้น 4.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,280.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังปรับลง 5 วันติดต่อกันก่อนหน้า แต่เช้านี้กลับมาปรับตัวในแดนลบอีกครั้งจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็ง รวมถึงกระแสเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในอนาคตซึ่งเป็นลบต่อราคาทองคำ

Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852