WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกซื้อ
  ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 14 เดือนที่ 1559.21 จุดและปิดตลาดเทียบเท่ากับวันที่ 4 มิ.ย. 56 (ปิดที่ 1556.97 จุด) ตามทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยเป็นการปรับตัวขึ้นแทบทุกกลุ่ม สูงสุดเป็นกลุ่มอสังหาฯ ขนส่ง และการเงิน ยกเว้น 4 กลุ่มสวนทางลงเช่น ธนาคาร วัสดุฯ เหมืองแร่ และอาชีพ มูลค่าการซื้อขายลดลงเล็กน้อยที่ระดับ 45,964 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 อีก 662 ล้านบาท (1-22 ส.ค. ซื้อสุทธิ 2,269 ล้านบาท, ขายสุทธิตั้งแต่ 1 ม.ค.-22 ส.ค. 24,999 ล้านบาท) และกองทุนในประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก 332 ล้านบาท (1-22 ส.ค. ซื้อสุทธิ 8611 ล้านบาท, 1 ม.ค. – 22 ส.ค. ซื้อสุทธิ 35,372 ล้านบาท)

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
  สำนักงานนโยบายฯและม.ธรรมศาสตร์ได้ศึกษาและผลกระทบต่อเศรษฐ กิจไทยในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) อย่างเต็มรูปแบบในปี 58 ว่าจะช่วยให้การส่งออกเพิ่มได้ +1.32% ต่อปี สินค้าที่ได้ประโยชน์สูงขึ้นได้แก่ เกษตร อาหารแปรรูป น้ำตาล น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูป ยานยนต์ เคมีและปิโตรฯ สินค้าที่จะขยายตัวไม่มากเช่น อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะ ประมง เหมืองแร่ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร สินค้าที่ส่งออกลดลงเช่น เนื้อสัตว์แปรรูปและสิ่งทอ ขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบ ถ่านหิน และบริ การสาธาณูปโภคจะสูงขึ้น โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลเฉลี่ยปีละ 0.98% และทำให้ครัว เรือนและรัฐบาลมีรายได้สูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 0.99% และ 0.96%ตามลำดับแต่เงินเฟ้อจะสูงขึ้น 0.22%
  ธปท.มองเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกอาจจะออกมาไม่ค่อยดีแต่เชื่อว่าจากนี้ไปในระยะ 1 ปี เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ตามศักยภาพที่แท้จริง เนื่องจากนโยบายการคลังที่จะมีความชัดเจน รวมถึงแรงส่งทางเศรษฐกิจจากการบริโภค การใช้จ่ายภาคเอก ชนและการลงทุนของภาครัฐ รวมทั้งการขาดดุลงบประมาณ 2% ที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดความมั่นใจต่อเศรษฐกิจได้ ขณะที่การส่งออกเองยังฟื้นตัวได้ช้า แต่แนวโน้มน่าจะดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลก กนง. จะมีการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 17 ก.ย.

  SET สามารถขึ้นยืนและปิดเหนือ 1550 หลังจากที่เคลื่อนไหวบริเวณนี้มาตลอด 6 วันการ ในวันนี้เรายังประเมินทิศทางตลาดยังคงอยู่ภายใต้แรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นรายตัว และคาดหวังหุ้นที่เทียบกับตลาดแล้วยังปรับขึ้นไม่มาก จะคงอยู่ภายใต้แรงซื้อต่อเนื่อง เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานที่ราคาเชิงเทียบกับตลาดแล้วยังปรับขึ้นไม่มากเช่น ADVANC, PTTGC, KTB HMRPO

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%

  น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%

  Accumulate : -- สะสมหุ้น

  Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1550 จุด ต่ำกว่า รอจังหวะอ่อนตัว

  เปรียบเทียบดัชนีกับ SET

  สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
  พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%

ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +13.0%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +13.6%
ผลตอบแทนตลาด SET = +15.1%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET

  หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด

Analysts :
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!