WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

คาดว่า SET ลบในกรอบจำกัดและยังลุ้นขึ้นใหม่ได้ จึงรอขายบวกดีกว่า!

       กลยุทธ์ : เนื่องจากเราคาดว่าจังหวะย้อนลบของ SET ช่วงนี้ยังจำกัด และมีลุ้นโอกาสดีดกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องอีกครั้งได้ตามเป้าเดิม แต่หลังจากนั้นต้องระวังการจบรอบขาขึ้นและกลับไปแกว่งตัวลงในระดับ 100-200 จุดในช่วงถัดไป ดังนั้นเราจึงแนะนำซื้อเทรดดิ้งให้น้อยลงเพื่อลดความเสี่ยง และควรทยอยขายลดพอร์ตในช่วงตลาดบวก เพื่อเน้นถือเงินสดไว้ก่อน
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MIDA, TSR, KTC(buy back)
       แนวโน้ม : หลังมีการประชุมเฟดวันแรกไปเมื่อคืนนี้ เริ่มสร้างความมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดอาจจะไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งการประชุมจะเสร็จสิ้นในคืนวันนี้ (17 ก.ย.) จึงทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่สามารถเปิดบวกกลับขึ้นมากันได้พอสมควร ซึ่งแม้ว่าเมื่อวานนี้ SET จะมีจังหวะปรับตัวลงรุนแรงอยู่บ้าง แต่นักลงทุนต่างประเทศก็ยังมียอดซื้อสุทธิต่อเนื่อง

      ขณะที่เช้านี้ยังได้รับข่าวบวกจากคาดการณ์ที่ว่าจีนอาจจะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบพักตัวของ SET ช่วงนี้น่าจะยังจำกัด และยังมีแนวโน้มที่ดัชนีจะแกว่งบวกกลับขึ้นไปอีกครั้งตามคาด อย่างไรก็ตามหลังจากดัชนีแกว่งตัวขึ้นรอบนี้แล้ว ต้องตามระวังแรงขายกดดันไว้ด้วย เพราะที่ผ่านมาถือว่าตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นมารับข่าวบวกไปมากพอควร ซึ่งถ้าไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุนเพิ่มเติม โอกาสที่ SET จะขยับบวกขึ้นไปไกลๆ ก็มีไม่มาก ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ทยอยขายลดพอร์ตในช่วงตลาดบวกขึ้นหาระดับเป้าหมายที่ 1600 จุด(+/-) ไว้ก่อนอยู่
      แนวรับ 1565-1560 , 1557-1552 จุด แนวต้าน 1570-1575 , 1578-1580 จุด
Fund Flow Fund Flow วานนี้ยังไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ในปริมาณที่เบาบาง โดยส่วนใหญ่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไต้หวัน US$247.8 ล้าน เกาหลีใต้ US$59.2 ล้าน อินโดนีเชีย US$43.8 ล้าน เวียดนาม US$12.6 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$2.5 ล้าน แต่ซื้อไทย US$27 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าเล็กน้อย Flow อาจจะกลับมาไหลเข้าหลังจีนอัดฉีดเงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธนาคร และนักลงทุนส่วนใหญ่คาดผลประชุมเฟดคืนนี้น่าจะยังคงนโยบายดอกเบี้ยต่ำต่อไป

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) มีรายงานข่าวว่าธนาคารกลางของจีนเตรียมอัดฉีดเงิน 500 พันล้านหยวน หรือราว 8.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับธนาคารรายใหญ่สุดของประเทศ 5 แห่ง ซึ่งจะมีผลเทียบเท่ากับการปรับลด RRR ลงราว 0.50% ขณะที่ China International Capital Corporation (CICC) คาดว่าธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรืออาจปรับลดสัดส่วนการสำรองสภาพคล่อง (RRR) ในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งคาดว่าอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลง
(+) ครม.ผ่านร่างพ.ร.ฏ.ลดภาษีเงินได้ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปรับให้ถี่ขึ้นจาก 5 ขั้นเป็น 7 ขั้น โดยลดอัตราสูงสุดเหลือ 35% จาก 37% คาดมีผลใช้ในปีภาษี 2557 (รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา) ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้คงไว้ที่ 20% ตามเดิมต่อไปอีก 1 ปี (ม.ค.-ธ.ค. 2015) โครงสร้างภาษีใหม่นี้ทำให้ผู้มีรายได้น้อยเสียภาษีลดลง แม้รัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีในส่วนนี้น้อยลง (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท/ปี) แต่จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น (ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้น) ซึ่งรัฐบาลก็จะเก็บจากภาษี VAT ได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สศค.เคยประเมินว่าการปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าว จะช่วยผลักดัน GDP ให้เพิ่มขึ้นได้ 0.1% หุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการใช้จ่ายของประชาชนที่เพิ่มขึ้นได้แก่ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอาหาร และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปและรากหญ้าเช่น SINGER, SAWAD, SIM เป็นต้น
     (+) ADVANC เรากลับมาแนะนำ ADVANC อีกครั้ง เพราะเห็นว่าบริษัทปิดจุดอ่อนจากความเสียเปรียบที่การประมูล 4G ต้องเลื่อนออกไปอีก 1 ปีได้ดี ทั้งนี้ การเลื่อนประมูล 4G ทำให้ ADVANC เสียประโยชน์มากที่สุดจากจำนวนคลื่นที่มีน้อยสุด แต่มีลูกค้ามากสุด ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพบริการที่ต่ำลง กระทบความพอใจของผู้บริโภคและทำให้เกิดการย้ายค่าย โดยบริษัทได้ลงทุนติดตั้ง Small cell ในพื้นที่ที่มีการใช้หนาแน่นเพิ่มเพื่อรักษาคุณภาพให้ดีเช่นเดิม ทำให้ส่วนแบ่งตลาดกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งใน 2Q14 แม้จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น แต่ชดเชยได้ด้วย Regulatory cost ที่ลดลง เราคาดผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตั้งแต่ 2H14 แต่กำไรทั้งปีทำได้เพียงทรงตัว ส่วนกำไรปี 2015 คาดโต 13% Y-Y และโตในอัตราเร่งในปี 2016 ถึง 25% Y-Y หลังค่าตัดจำหน่ายก้อนใหญ่ของคลื่น 2G-900MHz หมดไป ล่าสุดการก้าวเข้าสู่ธุรกิจ Fixed Broadband เป็นการใช้โครงข่าย Fiber Optic ที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งเป็นบวกในระยะยาว เรายังแนะนำซื้อ ปรับเป้าหมายปี 2015 ขึ้นเป็น 260 บาท จากเดิม 254 บาท มี upside มากสุดในกลุ่มมือถือ
     (+) LPN ยอด Presales 2.5 เดือนแรกของ 3Q14 ทำได้ 2.3 พันล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสก่อนเล็กน้อยเพราะช่วงก.ค.-ก.ย.เป็นการขายโครงการเดิมต่อเนื่องจาก 1H14 แต่คาดกำไรปกติใน 3Q14 จะปรับตัวขึ้นสูงสุดเพราะมีคอนโดครบกำหนดโอนถึง 4 โครงการ สำหรับโครงการรังสิต-คลอง 1 อยู่ระหว่าง EIA รอบที่ 3 คาดว่าจะทราบผลการพิจารณาปลาย ต.ค. นี้ บริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโครงการนี้ใน 2H15 แต่ในกรณีแย่สุด หากโครงการไม่ผ่าน EIA จะมีผลให้กำไรปกติปี 2015 ของเราลดลง 6% ซึ่งก็ยังมีอัตราเติบโตสูงถึง 23% Y-Y เรายังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 25 บาท

      ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ราว 100 จุดจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางของจีนอาจมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงคาดว่า FED จะยังไม่เร่งรีบปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
      ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบต่อเนื่องโดยนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุม FED ในคืนนี้รวมถึงประเด็นการแยกตัวของสก็อตแลนด์ออกจากสหราชอาณาจักร
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯหลังมีรายงานว่าจีนจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความหวังว่า FED จะยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงิน
      ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อย ล่าสุดปรับตัวในกรอบ 32.15-32.28 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.96 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 94.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง OPEC ออกมาส่งสัญญาณว่าจะลดโควต้าการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า 
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวกเล็กน้อย 1.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,236.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาทองคำขยับในกรอบแคบๆเพื่อรอดูผลการประชุม FED ในคืนวันนี้ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม

15-22 ก.ย. - ไทย:ธนาคารรายงานสินเชื่อ (ส.ค.)
16-17 ก.ย. - สหรัฐ: FOMCประชุม
17 ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม, ยอดขายรถ (ส.ค.),ร่างงบประมาณปี 2015 วาระ 2-3 เข้าพิจารณาในที่ประชุมสนช.
18 ก.ย. - ไทย: RWI เริ่มเทรด (ราคา IPO 1.60 บาท)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
22 ก.ย. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ส.ค.)
- ยูโรโซน:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
23 ก.ย. - จีน:HSBC China Manufacturing PMI (ก.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.ย.)
24 ก.ย. - ไทย:ดุลการค้า (ส.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ส.ค.)
25 ก.ย. - สหรัฐ: Durable goods order (ส.ค.)
26 ก.ย. - สหรัฐ: 2Q14 GDP (ตัวเลขสุดท้าย)
29 ก.ย. - สหรัฐ: Pending home sales (ส.ค.)

Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept.   Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!