WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +100.83, NASDAQ +33.86, S&P +14.85, FTSE -11.97, CAC -19.48 และ DAX -26.70 ภายใต้การคาดการณ์ว่าเฟด อาจยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ ขณะที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) - สค. ทรงตัว สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% และตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าแรงกดด้านเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เริ่มลดลง อย่าวไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่จะมีขึ้นภายหลังการประชุม
.....ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการแยกตัวเป็นเอกราชของสกอตแลนด์ ที่จะมีการลงมติในวันที่ 18/9/57 นี้
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. +US$1.96 อยู่ที่ US$94.88 ต่อบาร์เรล หลังกลุ่มโอเปคส่งสัญญาณอาจจะปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันดิบในปี’58 ลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน จากการประชุมล่าสุดเมื่อมิย. ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปคซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิก 12 ประเทศ มีมติคงเพดานการผลิตน้ำมันดิบเอาไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน
...ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$1.6 อยู่ที่ US$1,236.7 ต่อออนซ์ หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิตข้างต้น คาดช่วยลดน้ำหนักของกระแสที่คาดว่าเฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วเกินคาด อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอว่าเฟดจะส่งสัญญาณใดๆ เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธนี้หรือไม่?
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +872 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -13,685 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)

ทิศทางตลาด
     ทิศทางตลาด : Sideway? คาดมีโอกาสปรับขึ้น หลังคาดการณ์ว่าเฟดอาจยังไม่ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ขณะที่แนะติดตามประเด็นในประเทศจีนที่คาดเป็นปัจจัยบวก เช่น (1) ธนาคารกลางของจีน อัดฉีดเงิน 81.4 พันล้านUSD เพื่อเพิ่มสภาพคล่องแก่ธนาคารรายใหญ่สุดของประเทศ 5 แห่ง และ (2) ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีน จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือปรับลดสัดส่วนการสำรองสภาพคล่อง (RRR) ใน 4Q/57 หลังเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง
อย่างมาก
      ...ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow หลังต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่อง เกือบ 900 ล้านบาท และในวันนี้แนะติดตามการประชุม กนง. โดยเฉพาะมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจของไทยหลังจากนี้ไป ขณะที่คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.0% อย่างไรก็ตามคาดตลาดยังได้รับปัจจัยกดดันอยู่จากประเด็นการพิจารณาอาจจะยกเลิกสิทธิภาษี LTF (หมดสิทธิประโยชน์ในปี’59) แต่ยังคงการลงทุน RMF ให้มีต่อไป
      ...ขณะที่ยังแนะติดตามความคืบหน้าโครงการลงทุนต่างๆ ของภาครัฐฯ ที่ชะลอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดฯ หลังจากนี้ไป โดยยังแนะนำให้ติดตามงานประมูลโครงการที่มีความพร้อม เช่น รถไฟฟ้าสายสีเขียว เส้นทางหมอชิต – คูคต ที่กำหนดยื่นซองประมูลในวันที่ 30/9/57 (เลื่อนจากวันที่ 19/9/57) ที่คาดยังเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
      ....และการยกเลิกกฎอัยการศึก โดยคาดอาจมีการพิจารณายกเลิกในบางพื้นที่ คาดส่งผลดีต่อ (1) Fund Flow ที่คาดมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง (2) กลุ่มท่องเที่ยว ที่คาดได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าว รวมถึงภาวะการท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ช่วง High Season ใน 4Q/57 (ส่งผลดีต่อ MINT, CENTEL และ ERW)
      ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 2.59% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.39 อยู่ที่ 12.73


หุ้นแนะนำ : KBANK
ประเด็นที่ต้องติดตาม (17 - 19 กย.’57)
17/6/57 : ประชุม กนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.0%)
สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) - สค. (2) ดุลบัญชีเดินสะพัด – 2Q/57 (3) ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย - กย. (4) สต็อกน้ำมัน (5) มติการประชุมเฟด
18/9/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (2) ข้อมูลเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง - สค. (3) ดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติก - กย.
19/9/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ - สค.

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!